ดูเหมือนว่ายุคสมัยแห่งการโหยหาอดีตและความคลาสสิกจะกำลังเบ่งบาน เมื่อ British Phonographic Industry (BPI) ได้ออกมาเปิดเผยว่ายอดขายของแผ่นเสียง (Vinyl Records) กำลังแซงหน้ายอดขายซีดีเป็นครั้งแรกในรอบ 34 ปี ตั้งแต่ปี 1987
โดยตามรายงานบอกว่า 1 ใน 5 หรือประมาณ 18% ของยอดขายอัลบั้มเพลงทุกฟอร์แมตในปี 2020 คือยอดที่เกิดขึ้นจากการขายแผ่นเสียงแบบ LP หรืออัลบั้มเต็ม คิดเป็นจำนวนเงิน 4.8 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบสามทศวรรษ ส่วนอัลบั้มที่คนนิยมซื้อกันมากก็คือ Rumours (1977) ของ Fleetwood Mac ตามด้วย (What’s the Story) Morning Glory? (1995) ของวง Oasis และ Back to Black (2006) ของ Amy Winehouse ขณะที่ยอดขายของซีดีก็ตกลงฮวบฮาบโดยทำยอดขายไปได้เพียง 16 ล้านปอนด์ แสดงให้เห็นถึงความนิยมที่น้อยลง
“แม้ร้านค้าปลีกที่ขายแผ่นเสียงจะปิดตัวไปในบางพื้นที่ แต่ความพิเศษของมันจะเป็นส่วนเสริมสำหรับการสตรีมเพลงในระยะยาว ปี 2021 น่าจะเป็นปีที่ยอดขายแผ่นเสียงแซงหน้ายอดขายซีดีเป็นครั้งแรกในรอบสามทศวรรษ หรือตั้งแต่ปี 1987 นอกเหนือจากความรวดเร็วและความสะดวกสบายที่เหล่านักฟังเพลงได้รับจากการใช้สตรีมมิงแล้ว พวกเขายังต้องการรู้สึกใกล้ชิดกับศิลปินที่ตัวเองรักโดยการเป็นเจ้าของสิ่งต่างๆ ที่สามารถจับต้องได้” เจฟฟ์ เทย์เลอร์ หัวหน้าฝ่ายผู้บริหารของ BPI กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจุบันกระแสการเล่นแผ่นเสียงกำลังกลับมาคึกคักอีกครั้ง แต่บริการสตรีมมิงก็ยังคงเป็นช่องทางที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้เพื่อฟังเพลงเนื่องจากความง่าย ความเร็ว และความสะดวกสบายของมัน เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทาง BPI ได้เปิดเผยว่าจำนวนการสตรีมเพลงในปี 2020 เพิ่มขึ้น 22% หรือประมาณ 139 พันล้านครั้ง จากเดิม 114 พันล้านครั้งในปี 2019
ภาพ: Spencer Platt / Getty Images
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
