×

ธุรกิจท่องเที่ยว ผลกระทบใหญ่ต่อเศรษฐกิจไทย

11.11.2020
  • LOADING...
ธุรกิจท่องเที่ยว

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2563 เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการล็อกดาวน์ประเทศ ที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของไทย หรือ ธุรกิจท่องเที่ยว เป็นวงกว้างอย่างเห็นได้ชัด สำหรับการท่องเที่ยวของประเทศไทยนับว่ามีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ปี 2545 ต่อเนื่องมา 17 ปี ก่อนจะเกิดสถานการณ์โควิด-19 โดยการเติบโตเกิดจากปัจจัยหลักที่สำคัญอยู่ 2 ประการด้วยกัน คือ 

 

ประการที่ 1 การเปิดเสรีทางการบินใน พ.ศ. 2545 ซึ่งเกิดสายการบินแบบ Low Cost Airline และสายการบินต่างชาติเข้ามาประกอบการภายในไทยได้มากขึ้น ทำให้เกิดการแข่งขันสูงและส่งผลดีต่อผู้บริโภค เช่น ราคาตั๋วเครื่องบินที่ลดลง ทั้งยังส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้นอีกด้วย

 

ประการที่ 2 การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวชาวจีนหลังจากที่เศรษฐกิจจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้จำนวนชนชั้นกลางเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และเริ่มมีการใช้จ่ายกับการท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งยังส่งผลบวกทางอ้อมไปยังธุรกิจค้าปลีกภายในประเทศอีกด้วย เนื่องจากพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีนจะชอบซื้อของตามร้านค้าทั่วไปมากกว่านักท่องเที่ยวชาวยุโรปที่มักจะใช้จ่ายแต่ภายในโรงแรม จากการเติบโตดังกล่าวทำให้รัฐบาลไทยประกาศสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ เพื่อรักษาให้เศรษฐกิจไทยเติบโตต่อไปได้ เป็นการทดแทนการชะลอตัวของการส่งออกอันเป็นผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน

 


 

บทความที่เกี่ยวข้อง

 


 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดโรคระบาดโควิด-19 ขึ้น ประเทศไทยก็ได้ใช้มาตรการในการป้องการแพร่ของโรค เพื่อไม่ให้ลุกลามจนยากเกินกว่าจะแก้ไข โดยการปิดกั้นการเดินทางระหว่างประเทศ อันเป็นผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวหายไปในทันที และคาดว่าอาจจะใช้เวลาพอสมควรกว่าจะกลับมาดังเดิม ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะสามารถเปิดประเทศเพื่ออนุญาตให้มีการเดินทางและท่องเที่ยวได้กับบางประเทศแล้วก็ตาม แต่การท่องเที่ยวแบบการรักษาระยะห่าง (Social Distancing) ย่อมมีผลต่อการตัดสินใจมาเที่ยวของชาวต่างชาติ ทำให้ธุรกิจหลายประเภทไม่สามารถกลับมาเปิดดำเนินการได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร ร้านสปา หรือสถานที่จัดการแสดงโชว์ เป็นต้น  

 

สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงคือ กลุ่มสายการบิน กลุ่มธุรกิจโรงแรม และธุรกิจโรงพยาบาลระดับบนที่รายได้หลักมีการพึ่งพาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจากต่างชาติในระดับสูง ในขณะที่ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบทางอ้อม เช่น ธุรกิจเดินรถไฟฟ้า ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจสื่อสาร ที่มีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ประมาณ 10%, 5% และ 3% ตามลำดับ ก็จะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน

 

ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมาเติบโตได้ในระดับที่ใกล้เคียงกับช่วงก่อนที่จะเกิดโรงระบาดโควิด-19 นั้นอาจจะขึ้นอยู่กับความสำเร็จของการผลิตวัคซีนเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ที่สามารถนำมาใช้ได้จริงและใช้ได้อย่างทั่วถึง เพื่อทำให้ประเทศไทยสามารถกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวได้อีกครั้ง โดยมีนักวิเคราะห์จากหลายสำนักต่างคาดว่า วัคซีนจะเริ่มนำมาใช้ในประเทศไทยได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 เป็นต้นไป และจะทำให้เศรษฐกิจไทยค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ยังคงรอคอยวัคซีนอยู่นั้น มาตรการของภาครัฐยังเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องมีออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจไทยจนกว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดภาวะล้มละลายของบางกลุ่มธุรกิจ แล้วเกิดการกระจายตัวลุกลามไปยังธุรกิจอื่น จนกลายเป็นวิกฤตเศรษฐกิจอีกรอบหนึ่งได้ 

 

ธุรกิจที่ภาครัฐต้องให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่คือ ธุรกิจสายการบิน และธุรกิจโรงแรมในจังหวัดที่พึ่งพาการท่องเที่ยวจากต่างชาติสูง เช่น เกาะสมุย ภูเก็ต พังงา กระบี่ หรือกรุงเทพฯ โดยในปี 2563 อัตราการเข้าพักของโรงแรมในจังหวัดดังกล่าวยังอยู่ในระดับที่ต่ำมาก ในขณะที่โรงแรมในเชียงใหม่ หัวหิน พัทยา ได้รับผลกระทบน้อยกว่า ซึ่งอาจเกิดจากอานิสงส์ของมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ

 

ส่วนตลาดหุ้นไทยก็ได้รับผลกระทบจากธุรกิจการท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน โดยรายได้ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวต่างก็ปรับตัวลดลง และคาดว่าหลายบริษัทจะยังขาดทุนต่อเนื่องอีกในปี 2564 ทำให้ราคาหุ้นตกลงอย่างมากในปีนี้ โดยหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวมีมูลค่าทางการตลาดจาก 104,012 ล้านบาท (ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2562) ลดลงเหลือ 73,756 ล้านบาท (ณ วันที่ 15 ตุลาคม 2563) หรือหุ้นบริษัทค้าปลีกบางรายซึ่งมีรายได้ส่วนหนึ่งจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน 

 

ทั้งนี้ คาดว่าจากนี้ไปถึงสิ้นปี 2563 จะยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,200-1,350 จุด สลับขึ้นลงระหว่างข่าวดีจากเรื่องความคืบหน้าของวัคซีนและมาตรการกระตุ้นต่างๆ ที่ภาครัฐจะออกมาช่วย และข่าวร้ายจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยที่หดตัวลงมาก รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมือง แต่ถ้าเมื่อไรที่สามารถผลิตวัคซีนได้สำเร็จ และนำไปใช้ในประเทศได้จริง จะทำให้เรากลับมาเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติได้อย่างมั่นใจ ตลาดหุ้นไทยจึงจะปรับตัวกลับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องได้อีกครั้ง

 

ติดตามข่าวสารศรษฐกิจ ธุรกิจ การเงิน และการลงทุน เพิ่มเติมได้ที่ Facebook: THE STANDARD WEALTH และ YouTube: THE STANDARD

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising