ถ้าพูดถึงร้านอาหารญี่ปุ่นในเมืองไทย แทบทุกร้านก็มีเมนูมาตรฐานคล้ายๆ กันหมด แต่ถ้าไปที่ญี่ปุ่นเราจะเห็นร้านอาหาร Specialty ที่เอาจริงเอาจังจนมีความเชี่ยวชาญในอาหารแต่ละอย่างอยู่เต็มไปหมด เมื่อเร็วๆ นี้เราเพิ่งได้ไปเยือนร้าน Totoya Ryoricho (อ่านออกเสียงว่า โตโตยะ เรียวริโช) ซึ่งอยู่ในย่านประชานิเวศน์ใกล้กับตลาดบองมาเช่ และแอบอิจฉาคนในย่านนี้เขาเหลือหลาย เพราะร้านนี้เขาคราฟต์ทั้ง ราเมน ดงบุริ และยากิโทริ ออกมาจนรสชาติโดนใจ ไม่น่าแปลกใจเลยที่มีมาสเตอร์เชฟอาหารญี่ปุ่นอย่าง เชฟทัศ-สุรทัศ ปิยะนันทกุล ผู้เคยทำงานกับร้านญี่ปุ่นในโรงแรมเชนชื่อดังหลายแห่งเป็นพ่อครัวใหญ่ที่คอยดูแลอาหารทุกจานของโตโตยะ
The Vibe
บรรยากาศอบอุ่นเรียบง่าย
บรรยากาศเรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่น ดูอบอุ่นและเป็นกันเองด้วยผนังและไม้สีสว่าง ที่โดดเด่นและเป็นกิมมิกไม่กล่าวถึงเลยไม่ได้ก็คือ ราวกับว่าร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่น เพราะมีทั้งบอร์ดจัดแสดงบอกเล่าเรื่องราวเอกลักษณ์ความเป็นมาเกี่ยวกับราเมน ดงบุริ และยากิโทริ ซึ่งไม่ใช่แค่แปะเอาไว้ให้อ่านกันเฉยๆ ถ้าขี้เกียจอ่านเขายังมี QR Code ให้สแกนไปดูวีดิทัศน์เกี่ยวกับอาหารแต่ละอย่าง ซึ่งเป็นอะไรที่เก๋มาก เหมาะสำหรับคนที่อยากจะเรียนรู้ นอกจากเป็นร้านอาหารแล้วยังเป็นมิวเซียมมีชีวิต ที่คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองจะพาลูกๆ มาเรียนรู้ก็ได้
พิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่น
The Dishes
ไข่ม้วนนุ่มหนาแทรกไข่ปลาเมนไทโกะ
Otsumami: ของทานเล่น เรียกน้ำย่อย
แม้จะบอกว่าขายราเมน ดงบุริ และยากิโทริ เป็นหลักแล้ว แต่ร้านโตโตยะก็ยังมีเมนูอาหารท่านเล่นกินเคียงที่หลากหลาย อาทิ ไข่ม้วนสอดไส้ไข่ปลาเมนไทโกะ (100 บาท) ชั้นไข่หนานุ่มนวล พิเศษด้วยไส้ไข่ปลาเมนไทโกะรสอูมามิ อีกเมนูหนึ่งที่เรา ว้าวมากคือ อะโวคาโด อาซาสุเกะ (150 บาท) อะโวคาโดหมักเย็นแบบญี่ปุ่น ซึ่งนำอะโวคาโดความสุกและขนาดกำลังเหมาะ ไปหมักกับส่วนผสมกว่า 20 ชนิด นำไปแช่เย็นเสิร์ฟพร้อมปลาแห้งและวาซาบิสด ขอบอกว่ารสชาติสดชื่นจนว้าวมากๆ แต่ทางร้านบอกว่าเป็นเมนูที่ขายดีและใช้เวลาทำมากพอควร ดังนั้นบางวันถ้าไปช้าอาจหมด แนะนำว่าถ้าตั้งท่าจะไปแล้วอยากกินให้ได้จริงๆ โทรไปจองไว้ก่อนดีกว่า
อะโวคาโด อาซาสุเกะ
ลืมรสชาติอะโวคาโดแบบเดิมๆ ไปได้เลย
ของทานเล่นอีกจานที่เราได้ลองคือ เทมปุระกุ้งทอด (250 บาท) ซึ่งคราฟต์ทอดด้วยการใช้มือจุ่มลงไปในแป้ง เพื่อเป็นฉนวนกันความร้อนและนำลงไปในหม้อทอดเทมปุระ เพื่อควบคุมทิศทางการทอดให้ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ต่างกับการใช้ตะเกียบทอดซึ่งจะควบคุมการทอดได้น้อยกว่า ต้องใช้ผู้ปรุงที่มีเซนส์และประสบการณ์สูง จนได้ออกมาเป็นเทมปุระแป้งบางกรอบได้รสชาติและสัมผัสที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด
เทมปุระกุ้ง
ทอดด้วยมือ แป้งบางกรอบ
Yakitori: ศาสตร์แห่งไฟ
‘ยากิโทริ’ ของย่างเสียบไม้สไตล์ญี่ปุ่น
มีให้เลือกหลากหลาย
ความพิเศษของ ยากิโทริ หรือของย่างเสียบไม้ของโตโตยะอยู่ที่การใช้ถ่านชาโคลทำให้ได้กลิ่นหอมและรสชาติที่พิเศษ นอกจากนี้ยังย่างโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีประสบการณ์ด้านการย่างมานับสิบปีจนมี ‘เซนส์ของมือ’ ที่รู้ถึงความสุกในระดับที่พอดิบพอดี ยากิโทริของที่นี่มีให้เลือกหลากหลาย ในราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 39 บาทไปจนถึง 79 บาท สำหรับไม้เด็ดที่เราขอแนะนำคือ สึคุเนะ (39 บาท) ลูกชิ้นเนื้อไก่บด เนื้อนุ่มหอมซอส เวลารับประทานเพิ่มความนุ่มนวลให้ยิ่งฟินด้วยการจิ้มไข่แดง โชชิน (79 บาท) พวงไข่อ่อนที่สุกแบบพอดีด้านในยังนิ่มนิดๆ โมโมะ (39 บาท) เนื้อไก่ส่วนสะโพกที่นุ่มชุ่มฉ่ำ ซาซามิ เมนไทโกะ (49 บาท) สันในห่อสาหร่ายย่างไส้ไข่ปลาเมนไทโกะ รสอูมามิ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีเมนูของย่างเสียบไม้สไตล์ญี่ปุ่นให้เลือกอีกเกือบ 20 เมนู!
Raman: ศาสตร์แห่งความสมดุล
ที่โตโตยะเลือกจากเสิร์ฟราเมนเพียงไม่กี่เมนู แต่รับประกันความคราฟต์ทุกชาม ด้วยจริงจังว่าราเมนคือศาสตร์แห่งความสมดุลเข้ากันระหว่างเส้น น้ำซุป และส่วนผสมต่างๆ ซึ่งโตโตยะมีกระบวนการปรุงราเมนสุดประณีตมาก
ราเมนซุปกุ้ง 72 ชั่วโมง
อร่อยจนต้องร้อง “ว้าว!”
ราเมนซุปกุ้ง 72 ชั่วโมง (255 บาท) ราเมนชามนี้คือความภูมิใจที่แสดงออกถึงเอกลักษณ์ของร้านโตโตยะได้ดีที่สุด ทันทีที่จิบน้ำซุปเข้าไปถึงกับ “ว้าว!” เพราะได้รสกุ้งพลังกุ้งที่เต็มเปี่ยมราวกับล็อบสเตอร์บิส เมื่อทราบกรรมวิธีปรุงจึงไม่แปลกใจ เพราะเขานำกุ้งไปย่างกับเครื่องเทศ และใช้เวลาเคี่ยวน้ำซุปนานถึง 72 ชั่วโมง เวลากินเสิร์ฟเคียงกุ้งทอด อร่อยจนเราสามารถกลับมาร้านนี้บ่อยๆ เพื่อกินเมนูนี้เพียงเมนูเดียวได้เลย ส่วนราเมนอีกถ้วยที่ได้ชิมคือ มาสเตอร์มิโซะราเมน (220 บาท) กรรมวิธีพิถีพิถันด้วยการเคี่ยวมิโซะกับวัตถุดิบทั้งสมุนไพรและผลไม้รวมแล้วกว่า 60 ชนิด จนได้มาเป็นรสชาติอันลึกล้ำ ซึ่งทางร้านบอกว่านี่เป็นเมนูที่เชฟทัศน์ได้รับการสืบทอดรสชาติมาจากมาสเตอร์เชฟของเขามาอีกที
มาสเตอร์มิโซะราเมน
เคี่ยวมิโซะกับวัตถุดิบกว่า 60 ชนิด
Donburi: ศาสตร์แห่งสิ่งที่มองไม่เห็น
แม้ว่าเมนูข้าวหน้าต่างๆ จะเป็นเหมือนอาหารที่ดูง่ายในวัฒนธรรมญี่ปุ่น แต่โตโตยะก็เอาจริงเอาจังกับเมนูนี้อย่างมาก ว่ากันว่าการปรุงดงบุริให้ไร้ที่ตินั้นเป็นศาสตร์แห่งสิ่งที่มองไม่เห็น เพราะอาหารที่เห็นว่าเรียบง่ายตรงหน้าล้วนเต็มไปได้วยรายละเอียดพิถีพิถันซ่อนอยู่
ข้าวหน้าปลาไหลราดไข่เยิ้ม (ซ้าย)
ข้าวหน้าเต้าหู้เผ็ด (ขวา)
ดงบุริจานที่เราได้ชิม ได้แก่ ข้าวหน้าปลาไหลราดไข่เยิ้ม (330 บาท) ที่ได้ปลาไหลชิ้นโต เคล็ดลับความนุ่มละมุนของชามนี้อยู่ที่น้ำสต๊อกที่เคี่ยวนานถึง 72 ชั่วโมง ดูขนาดและชิ้นของปลาไหลแล้วเราว่าถ้าร้านตั้งอยู่ใจกลางกรุงแถวย่านสุขุมวิทจะต้องแพงกว่านี้ชัวร์ ส่วนอีกจานคือ ข้าวหน้าเต้าหู้เผ็ด (250 บาท) นีโอ มาโบดงชามนี้เต็มไปด้วยความเผ็ดร้อน ด้วยความที่ใส่เครื่องเทศญี่ปุ่น รสชาติจึงแตกต่างจากเต้าหู้เผ็ดสไตล์จีนเสฉวน ถ้าใครชอบรับประทานรสจัดๆ เราว่าจานนี้เด็ด
Homemade Desserts
ไอศกรีมโฮมเมดทั้ง 3 รสชาติ
ของหวานของโตโตยะเป็นของหวานสไตล์โฮมเมด ซึ่งมีทั้งไดฟุกุและไอศกรีมโฮมเมด แต่น่าเสียดายที่ไดฟุกุของที่นี่ขายดีเบอร์สุด ทำให้วันที่เราไปเยือนนั้นหมดไปเสียแล้ว จึงได้ชิม ไอศกรีมโฮมเมดแทน (ลูกละ 67 บาท) ซึ่งเขาตักให้ลูกใหญ่เบิ้ม มีให้ชิมทั้งหมด 3 รส ได้แก่ ชาเขียวถั่วแดง ส้มยูสุ และฮอกไกโดมิลก์ ซึ่งเราขอโหวตให้รสหลังสุดชนะเลิศ เพราะหอมมันและละมุนมากจริงๆ
สรุปว่าเป็นอีกหนึ่งร้านอร่อยในราคาไม่แรงที่ไปแล้วไม่ผิดหวัง จนออกจะอิจฉาชาวประชานิเวศน์เล็กๆ ที่มีร้านอาหารญี่ปุ่นดีๆ แบบนี้อยู่ใกล้บ้าน
Totoya Ryoricho
Open: เปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ 12.00-22.00 น.
Address: 3/1 ซอยรังรักษ์ใต้ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
Budget: เริ่มต้นที่ 39 บาท
Contact: 08 2455 5987
Page: https://www.facebook.com/Totoya.ryoricho/
Map:
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
