ไต้หวันเปิดเผยว่า เครื่องบินรบของจีนหลายลำล่วงล้ำน่านฟ้าในเขตป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวันเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันเมื่อวานนี้ (24 มกราคม) โดยนักวิเคราะห์มองว่าจีนกำลังทดสอบดูท่าทีของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ที่มีต่อนโยบายไต้หวัน ขณะที่จีนอ้างว่าไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งของจีนที่ไม่สามารถแบ่งแยกได้ และขอให้นานาประเทศเคารพในหลักการจีนเดียว
แม้ช่วงหลายเดือนก่อนหน้านี้ จีนจะส่งเครื่องบินทหารบินเหนือน่านน้ำระหว่างปลายสุดทางใต้ของไต้หวัน และเกาะตงซาที่ควบคุมโดยไต้หวันหลายครั้ง แต่ที่ผ่านมามักเป็นเครื่องบินลาดตระเวนหรือเครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำ แต่ปฏิบัติการเมื่อวันอาทิตย์มีเครื่องบินเข้าร่วมมากถึง 15 ลำ โดยแบ่งเป็นเครื่องบินขับไล่ 12 ลำ เครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำ 2 ลำ และเครื่องบินลาดตระเวนอีก 1 ลำ
กระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดเผยว่า กองทัพอากาศได้ส่งคำเตือนผ่านระบบวิทยุไปยังเครื่องบินของจีน และใช้ระบบอาวุธนำวิถีป้องกันภัยทางอากาศติดตามเครื่องบินเหล่านั้น เพื่อให้บินออกจากเขตน่านฟ้านั้น
การรุกล้ำน่านฟ้าครั้งนี้มีขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 หลังกระทรวงกลาโหมไต้หวันรายงานว่า มีเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ H-6K 8 ลำ, เครื่องบินขับไล่แบบ J-16 4 ลำ และเครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำแบบ Y-8 อีก 1 ลำของจีนรุกล้ำเข้ามาในเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ (Air Defence Identification Zone) ของไต้หวันเมื่อวันเสาร์ (23 มกราคม)
ด้านกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ เตือนจีนให้หยุดใช้ปฏิบัติการทางทหารเพื่อกดดันไต้หวัน พร้อมแสดงจุดยืนสนับสนุน และต้องการกระชับความสัมพันธ์กับไต้หวันให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
“เราเรียกร้องให้ปักกิ่งยุติการกดดันไต้หวันด้วยทหาร การทูต และเศรษฐกิจ และเปลี่ยนไปใช้วิธีพูดคุยแบบมีความหมายกับคณะผู้แทนของไต้หวันที่ได้รับเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย” เนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว
“เราจะช่วยเหลือไต้หวันต่อไปเพื่อรักษาขีดความสามารถในการป้องกันตนเองที่เพียงพอ” แถลงการณ์ระบุ
ภาพ: STR / AFP
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
