Seasonal Product ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ธุรกิจร้านอาหารมักจะหยิบมาใช้กันประจำ เพราะอย่างที่รู้กันดีว่าผู้บริโภคคนไทยนั้นเบื่อง่าย ดังนั้นจึงต้องมีเมนูอะไรใหม่ๆ มากระตุ้นความต้องการของลูกค้าอยู่ตลอดเวลา
ท่ามกลางข้อดีที่ทำให้ยอดขายในร้านสามารถเพิ่มขึ้นจากเมนูใหม่ที่ออกมา แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายเช่นเดียวกัน เพราะลูกค้านั้นถูกสปอยล์ด้วยเมนูใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ได้ทำให้ Sales Life หรือระยะเวลาในการวางขายสินค้าก็สั้นลงไป ในอดีตสามารถว่างขายได้ 3-4 เดือน แต่วันนี้ “แค่ 2 เดือนก็ถือว่าเก่งมากแล้ว” ณพล ศิริมงคลเกษม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สเวนเซ่นส์ (ไทย) จำกัด ในเครือ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH
“Swensen’s ไม่ได้มีคู่แข่งแค่ร้านไอศกรีม แต่ทุกร้านที่เป็นของหวานคือคู่แข่งของเราหมด วันนี้ลูกค้ามองสินค้ากับราคาเป็นหลักว่าใครจะสามารถหาอะไรใหม่ๆ ให้กับลูกค้า หรือใครจะมีราคาที่ถูกกว่ากัน ร้านค้าจึงต้องออก New Product อยู่ตลอดเวลา” ณพล กล่าว พร้อมกับเสริมว่า “เราต้องขยับตัวอยู่ตลอดเวลา การทำการตลาดเหมือนอยู่บนลู่วิ่งที่วิ่งเร็วมาก อีกทั้งยังเร็วขึ้นทุกวัน อย่างการออกสินค้าใหม่ แม้จะนำสินค้าที่เคยขายดีมากๆ ในปีที่ผ่านมากลับมาขายอีกในปีนี้ แต่ยอดขายก็จะไม่ดีเหมือนเดิม เพราะลูกค้ามองว่าเป็นสินค้าเก่าไปแล้ว”
ปีที่ผ่านมา Seasonal Product จะมีอยู่ 5 ฤดู ได้แก่ สตรอว์เบอร์รี มะม่วง ทุเรียน และมะพร้าว เมอร์เมดและยูนิคอร์น สุดท้ายเป็น ช็อกโกแลต สำหรับปีนี้นั้น ฤดูสตรอว์เบอร์รีได้ผ่านไปแล้ว ซึ่งแม่ทัพการตลาด Swensen’s ระบุว่า ได้รับการตอบรับที่ดี แต่จริงๆ แล้วสามารถดีได้มากกว่านี้หากไม่เจอสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ก่อน
ถัดจากสตรอว์เบอร์รีก็เป็นฤดูของ ‘ไอศกรีมมะม่วง’ ซึ่งเริ่มวางขายแล้วตั้งแต่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ความน่าสนใจคือ Swensen’s มีไอศกรีมมะม่วงเป็น Seasonal Product มาไม่น้อยกว่า 15 ปีแล้ว ดังนั้นณพลจึงกล่าวว่า ความท้าทายของไอศกรีมมะม่วงคือ จะทำอย่างไรให้ใหม่อยู่ในทุกปีที่ออกมา โดยที่ทำให้ลูกค้าที่ชื่นชอบไอศกรีมมะม่วงยังเดินเข้ามากิน ขณะเดียวกันก็ต้องสามารถดึงลูกค้าใหม่ๆ ให้รู้สึกว้าวจนอยากเดินเข้ามากิน
“ฤดูไอศกรีมมะม่วงเป็น Seasonal Product ที่สร้างยอดขายให้กับ Swensen’s มากที่สุด เนื่องจากวางขายในฤดูร้อนอย่างเดือนมีนาคม เมษายน และพฤษภาคม ที่เป็นไฮซีซันอยู่แล้ว อีกหนึ่งเหตุผลคือเป็นช่วงเวลาที่ปิดเทอมด้วย”
ไอศกรีมมะม่วง ข้าวเหนียวใบเตย และลูกชุบ ถือเป็นซิกเนเจอร์ของฤดูไอศกรีมมะม่วง แต่อย่างที่บอกไปว่าคนไทยชอบอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นทุกปีจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลง สำหรับ Swensen’s นั้นจะแบ่งออกเป็น Core ซึ่งเป็นเมนูหลักที่มีทุกปีอย่างซันเดย์ และ Buzz ซึ่งเป็นเมนูที่ออกมาสำหรับสร้างกระแส
ปีนี้เมนู Core มี 3 เมนู และเมนู Buzz มีอยู่ 4 เมนู ในส่วนของ Buzz ซึ่งเกิดขึ้นมาสำหรับสร้างกระแสนั้น ปีนี้ Swensen’s เลือกที่จะหยิบ ‘พริกเกลือ’ มาใช้เป็นลูกเล่น หลังจากเห็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นในหมู่ผู้บริโภค เสริมด้วยมะม่วงแช่อิ่ม
“เรามองว่าคนไทยชอบกินอะไรก็จะหยิบมาทำ แต่ปีนี้เรามองว่าอยากไปให้สุด เลยออกมาเป็นเมนูแตงโมปลาแห้ง ซึ่งนอกจากมีแตงโมสดๆ แล้ว ยังมีไอศกรีมแตงโมที่มาในรูปแบบหั่นสี่เหลี่ยมอีกด้วย”
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการใช้สื่อสำหรับ Seasonal Product รอบนี้ Swensen’s ได้หันมาใช้สื่อดิจิทัลมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะทิศทางของผู้บริโภคที่ใช้สื่อดิจิทัลมากขึ้นด้วย แต่อย่างไรก็ตาม หากถามว่า TVC ยังจำเป็นอยู่ไหม ณพลระบุว่ายังจำเป็นอยู่ เพราะลูกค้าส่วนหนึ่งใช้รับสื่อจากทีวีเป็นหลักอยู่
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
