Subway แฟรนไชส์ร้านแซนด์วิชพร้อมขายกิจการแล้ว! ด้วยมูลค่าสูงกว่า 334,000 ล้านบาท แม้ยังไม่ได้ระบุถึงรายละเอียดการซื้อขายที่ชัดเจน แต่หากขายสำเร็จจะเป็นดีลที่ใหญ่สุดในอุตสาหกรรมอาหาร
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ‘Subway’ แฟรนไชส์ร้านแซนด์วิชที่ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 58 ปี มีสาขากระจายในหลายๆ ประเทศทั่วโลก พร้อมขายกิจการแล้ว โดยคาดว่าจะมีมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ (334,000 ล้านบาท) โดยบริษัทได้จ้างบริษัท เจพีมอร์แกน เป็นที่ปรึกษา ซึ่งยังไม่ได้ระบุถึงรายละเอียดการซื้อขายที่ชัดเจน
สำหรับการตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก Peter Buck ผู้ก่อตั้ง Subway ที่ยังมีชีวิตอยู่คนสุดท้ายเสียชีวิตในปี 2021 และได้มอบหุ้นใน Subway ที่มีอยู่ 50% ให้กับมูลนิธิการกุศล ซึ่งยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะส่งผลกระทบต่อการขายกิจการดังกล่าวหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- หมดปัญหาการสั่ง Subway หลายขั้นตอน กับตู้กดอัตโนมัติ ‘Grab & Go’
- ยกเครื่องเมนูใหม่ได้ผล ยอดขายรายสัปดาห์ของ Subway ในสหรัฐฯ เพิ่มมากสุดในรอบ 8 ปี
- Subway พลิกหน้าประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่ ยกเครื่องเมนูและแอปฯ เดลิเวอรีใหม่ หวังกระตุ้นยอดขายที่หล่นฮวบกลับสู่ ‘ยุครุ่งเรือง’ อีกครั้ง
John Chidsey CEO Subway กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจของ Subway ที่ผ่านมามีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของการพัฒนาเมนูใหม่ รวมถึงการรีโนเวตร้านใหม่ และมีการขยายสาขาในต่างประเทศมากกว่า 750 สาขา ทำให้ยอดขายสาขาเดิมทั่วโลกเติบโต 9.2% ต่อปี โดยเฉพาะสาขาในอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้น 7.8% ในปี 2022 ซึ่งสูงเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้มากกว่า 700 ล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน Subway ยังมีจุดแข็งด้านดิจิทัล เน้นการให้บริการผ่านแอปพลิเคชันเดลิเวอรี ทำให้ยอดขายผ่านแอปเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว และในช่วงปลายปี 2023 เตรียมลงทุนนำเครื่องหั่นเนื้อสำเร็จรูปเข้ามาใช้งานในทุกสาขาของอเมริกา เพื่อควบคุมคุณภาพของเนื้อให้สดใหม่ ซึ่งจะมีรสชาติดีกว่าเนื้อที่หั่นไว้เป็นระยะเวลานาน และที่สำคัญจะช่วยลดต้นทุนในการผลิตได้มากขึ้น
ทั้งนี้ ปัจจุบัน Subway มีร้านอาหารทั้งหมด 37,000 สาขาใน 100 ประเทศทั่วโลก ส่วน Subway ประเทศไทย มีบริษัท อะเบาท์ แพสชั่น จำกัด ผู้ถือสิทธิ์แฟรนไชส์แต่เพียงผู้เดียว
อย่างไรก็ตามหาก Subway ขายกิจการได้สำเร็จ จะถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งใหญ่
ในอุตสาหกรรมอาหารจานด่วน นับตั้งแต่ Inspire Brands ซื้อ Dunkin’ Donuts ไปด้วยมูลค่า 1.13 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2020
อ้างอิง: