Spotify นั้นประกอบกิจการในอุตสาหกรรมบันเทิง เพราะฉะนั้นงานเลี้ยงแบบใหญ่โตจำนวนหนึ่งจึงถือเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจอยู่แล้ว แต่พนักงานบางส่วนบอกว่าการใช้จ่ายเงินไปกับงานอีเวนต์นั้นเกินเลยไปไกลแล้ว โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากความพยายามของบริษัทในด้านการลดต้นทุน
แม้ว่า Spotify จะประสบปัญหาทางการเงินและต้องปลดพนักงานไปถึง 2,300 ตำแหน่ง ในปี 2023 แต่บริษัทก็ยังคงจัดงานปาร์ตี้และอีเวนต์ต่างๆ อย่างหรูหราอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นงานฉลองแคมเปญ ‘Wrapped’ ประจำปีที่กรุงลอนดอน ซึ่งมีศิลปินชื่อดังอย่าง Sam Smith และ Charli XCX ขึ้นโชว์ต่อหน้าแขกกว่า 3,500 คน, งานเทศกาลดนตรี ‘Spotifest’ สำหรับพนักงานที่นิวยอร์ก โดยมี Diplo และ T-Pain มาเป็นศิลปินตัวท็อป รวมถึงการส่งพนักงานใหม่ไปร่วมงาน ‘Intro Days’ ที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ที่ทาง Spotify จะออกค่าที่พักและอาหารทั้งหมดให้เป็นเวลา 3-5 วัน
อย่างไรก็ตาม พนักงานจำนวนหนึ่งมองว่าบริษัทใช้จ่ายเงินไปกับงานปาร์ตี้และอีเวนต์มากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการปลดพนักงานและพยายามลดต้นทุนในด้านอื่นๆ Daniel Ek ซีอีโอของ Spotify ระบุในบันทึกถึงพนักงานว่า บริษัทจ้างงานมากเกินไปในช่วงการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด และโครงสร้างต้นทุนของบริษัทยังคงอยู่ในระดับที่สูงเกินไป แม้พนักงานจะพยายามหยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมา แต่ก็ถูกปัดตกไป
นอกจากปัญหาพนักงานแล้ว Spotify ยังเผชิญความท้าทายด้านผลกำไรอีกด้วย เนื่องจากบริษัทต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพลงให้แก่เจ้าของลิขสิทธิ์ถึงประมาณ 70% ของรายได้ทั้งหมด ส่งผลให้ยอดค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตามยอดรายได้ที่เติบโต ซึ่งเป็นข้อกังวลสำหรับนักลงทุนที่ชื่นชอบโมเดลทางธุรกิจที่สร้างกำไรได้มากขึ้นเมื่อมียอดขายเพิ่มขึ้น
เพื่อรับมือกับความท้าทายดังกล่าว Spotify จึงพยายามขยายธุรกิจไปยังด้านอื่นๆ ที่มีผลกำไรสูงกว่า เช่น พอดแคสต์, หนังสือเสียง และบัตรคอนเสิร์ต โดยได้ใช้เงินลงทุนกับพอดแคสต์กว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 35,000 ล้านบาท) และเข้าซื้อบริษัทผลิตพอดแคสต์ 3 แห่ง ในปี 2019 ด้วยมูลค่ารวม 375 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 14,000 ล้านบาท)
ยังมีการเปิดตัวบริการหนังสือเสียงให้กับสมาชิกระดับพรีเมียมในเดือนตุลาคม 2023 ซึ่งคาดว่าจะมีอัตรากำไรสูงถึง 40% ขณะที่การให้บริการโฆษณาในพอดแคสต์จะช่วยสร้างรายได้ให้บริษัทในสัดส่วน 50% ของรายได้จากโฆษณาทั้งหมด
ท่ามกลางการแข่งขันอย่างดุเดือดจากคู่แข่งยักษ์ใหญ่ เช่น Apple และ YouTube ทำให้ Spotify จึงต้องทำให้ธุรกิจใหม่เหล่านี้ให้ประสบความสำเร็จ พร้อมกับรักษาความพึงพอใจของนักลงทุนโดยการลดค่าใช้จ่ายในด้านต่างๆ
โดย Ek กล่าวกับนักวิเคราะห์ในการประชุมนักลงทุนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า “เรากำลังคิดถึงเรื่องประสิทธิภาพอยู่เสมอ เราเริ่มทำตั้งแต่ต้นปี 2023 และคิดว่าเรากำลังทำได้ดีขึ้นในทุกๆ ไตรมาส นักลงทุนควรคาดหวังสิ่งเดียวกันนี้ในปี 2024 เราจะมองหาวิธีใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างต่อเนื่อง นี่คือ ‘วิถีปฏิบัติใหม่’ ของเรา”
อย่างไรก็ดี บริษัทยืนยันว่าจะยังคงจัดงานสำคัญอย่าง Wrapped, Intro Days และ Best New Artist Grammy เพื่อโปรโมตศิลปิน สร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ฟัง กระตุ้นการทำงานร่วมกันระหว่างพนักงาน และนำเสนอบริการต่างๆ ต่อไป
ถึงแม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากพนักงานบางส่วน แต่ดูเหมือนว่า Spotify จะยังเดินหน้าจัดงานปาร์ตี้และอีเวนต์เหล่านี้ควบคู่ไปกับความพยายามในการลดต้นทุนและเพิ่มรายได้จากธุรกิจใหม่ต่อไปอีกระยะหนึ่ง
อ้างอิง:
