เกาหลีใต้กำลังต่อสู้กับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในความสัมพันธ์กับจีน เพราะพรรครัฐบาลของเกาหลีใต้เพิ่งเสนอแนะให้จำกัดสิทธิของชาวจีนที่อาศัยอยู่ในเขตแดนของตน
ความเคลื่อนไหวนี้ซึ่งบางคนเห็นว่าเป็นการตอบสนองต่อความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างทั้งสองประเทศ ได้กระตุ้นการพูดคุยเกี่ยวกับความสมดุลของสิทธิและความรับผิดชอบของชาวต่างชาติ และหลักการของการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
Kim Gi Hyeon ซึ่งเป็นประธานพรรคพลังประชาชนเกาหลีใต้ (PPP) ของประธานาธิบดี Yoon Suk Yeol ได้กล่าวในระหว่างการประชุมรัฐสภา โดยเขาย้ำถึงความจำเป็นในการกำหนดความสัมพันธ์เกาหลีใต้-จีนใหม่บนพื้นฐานของการจัดการร่วมกันหรือการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน โดยมีประเด็นหลากหลายที่ถูกพูดถึง
เรื่องแรก สิทธิในการออกเสียง: ในการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งก่อน ชาวจีนประมาณ 100,000 คนที่อาศัยอยู่ในเกาหลีใต้ได้รับสิทธิในการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ถกเถียงกันเกิดขึ้นเมื่อมีคนพิจารณาว่าพลเมืองเกาหลีใต้ที่อาศัยอยู่ในจีนถูกปฏิเสธสิทธิที่คล้ายกัน
ชาวจีนที่อาศัยอยู่ในเกาหลีใต้ที่สามารถลงคะแนนได้นั้นมีเชื้อสายเกาหลีเป็นส่วนใหญ่และมีหนังสือเดินทางจีน ดังนั้นเป็นเรื่องยุติธรรมที่จะปฏิเสธไม่ให้ชาวต่างชาติมีสิทธิลงคะแนนเสียงในเกาหลีใต้ หากสิทธิแบบเดียวกันนี้ไม่ได้ขยายไปถึงพลเมืองเกาหลีใต้ในประเทศบ้านเกิดของชาวต่างชาติเหล่านั้น
ต่อมาคือการใช้ประกันสุขภาพในทางที่ผิด ซึ่งประเด็นสำคัญอีกประการหนึ่งสำหรับพรรครัฐบาลของเกาหลีใต้คือการกล่าวหาว่าการใช้ระบบประกันสุขภาพของประเทศในทางที่ผิดโดยชาวจีน
Kim Gi Hyeon ให้เหตุผลว่าปัญหานี้ควรได้รับการแก้ไขภายใต้หลักการเดียวกันของการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน เขายืนยันว่าระบบประกันสุขภาพของประชาชน ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากชาวเกาหลีใต้ที่ทำงานหนัก ไม่ควรถูกเอารัดเอาเปรียบจากชาวต่างชาติเพื่อ ‘การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์’
แต่ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ตั้งแต่ปี 2018-2021 ชาวต่างชาติที่ทำงานในเกาหลีใต้ได้สนับสนุนโครงการประกันสุขภาพแห่งชาติมากกว่าที่พวกเขาเคยใช้ ทำให้เกินดุล 1.7 ล้านล้านวอน ส่วนที่เกินมานี้มีสาเหตุหลักมาจากการที่แรงงานต่างชาติเหล่านี้มักมีอายุน้อยกว่าและมีสุขภาพที่ดีกว่า จึงไม่ค่อยต้องการการดูแลทางการแพทย์
อย่างไรก็ตาม เมื่อแยกข้อมูลตามสัญชาติจะพบว่าชาวจีนเป็นข้อยกเว้นสำหรับแนวโน้มนี้ แรงงานชาวจีนในเกาหลีใต้เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนตามนโยบายที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับแรงงานต่างชาติอื่นๆ ส่งผลให้ขาดดุล 2.8 แสนล้านวอนในช่วงเวลาเดียวกัน ความแตกต่างนี้บ่งชี้ว่าชาวจีนในเกาหลีใต้ใช้สิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพมากกว่าที่พวกเขาจ่ายเป็นเบี้ยประกันภัย
นอกจากนี้ อิทธิพลของการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ยังได้พูดถึงด้วย โดยฉากหลังของการโต้วาทีเหล่านี้คือกระดานหมากรุกทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กว้างขึ้น ความตึงเครียดระหว่างเกาหลีใต้และจีนทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะหลังจาก Xing Haiming เอกอัครราชทูตจีนเตือนว่าโซลเอนเอียงไปทางวอชิงตันในการแข่งขันระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนที่กำลังดำเนินอยู่
แม้จะมีข้อโต้แย้งเหล่านี้ แต่นักวิจารณ์เกี่ยวกับข้อจำกัดที่เสนอก็โต้แย้งว่าพวกเขาอาจจุดกระแสความเกลียดชังชาวต่างชาติได้ พวกเขาเน้นย้ำว่าชาวจีนมีสัดส่วนเพียงเล็กน้อย (0.2%) ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด และได้รับอนุญาตให้ลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งท้องถิ่นเท่านั้น ไม่ใช่การเลือกตั้งประธานาธิบดีหรือการเลือกตั้งทั่วไป พวกเขายังเน้นย้ำด้วยว่าจำนวนชาวจีนที่มีสิทธิลงคะแนนเสียงได้ลดลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้อิทธิพลทางการเมืองของพวกเขาลดน้อยลงไปอีก
Jeong Hoi Ok ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเมียงจีกล่าวว่า การที่รับจุดประเด็นนี้ขึ้นมาอาจทำให้ชาวเกาหลีใต้กลายเป็นคนกลัวชาวต่างชาติในช่วงเวลาวิกฤตที่ประเทศกำลังต่อสู้กับอัตราการเกิดต่ำ และด้วยเหตุนี้จึงต้องการแรงงานอพยพ
นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ Yang Moo Jin แห่งมหาวิทยาลัยเกาหลีเหนือ ศึกษาตีความการกระทำของพรรครัฐบาลว่าเป็นการพยายามใช้ประโยชน์จากความรู้สึกต่อต้านจีนที่แพร่หลายในหมู่ชาวเกาหลี เพื่อขยายฐานสนับสนุนก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่สำคัญในปีหน้า
การโต้เถียงเหล่านี้เน้นย้ำถึงความซับซ้อนของภูมิรัฐศาสตร์ ด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างโซลและปักกิ่งที่ตึงเครียดอยู่แล้ว พัฒนาการเหล่านี้อาจเพิ่มความขัดแย้งมากขึ้นและส่งผลกระทบอย่างมากต่อความสมดุลทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาค ขณะที่สถานการณ์ค่อยๆ เปลี่ยนแปลง ตำแหน่งของชาวจีนในเกาหลีใต้ยังคงไม่แน่นอน ซึ่งเป็นบทที่ท้าทายในสถานการณ์ทางสังคมและการเมืองของเกาหลีใต้
ภาพ: Roberto Silvino / NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง:
