วันนี้ (25 มกราคม) สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ประกาศหลักเกณฑ์และอัตราสำหรับประโยชน์ทดแทนในกรณีประสบอันตราย หรือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการทำงาน ลงนามโดย พล.ต.ท. นพ.ธนา ธุระเจน ประธานกรรมการการแพทย์ สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2567 กรณีแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ และอัตราสำหรับประโยชน์ทดแทน รักษาผู้ประกันตนที่ป่วยด้วยโรคหยุดหายใจขณะหลับ และมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องอัดอากาศขณะหายใจเข้า (Continuous Positive Airway Pressure: CPAP)
สาระสำคัญของประกาศฉบับดังกล่าว สืบเนื่องตามมติคณะกรรมการการแพทย์ ในการประชุมครั้งที่ 3/2566 เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 โดยเป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และอัตราสำหรับประโยชน์ทดแทนในกรณีรักษาผู้ประกันตนที่ป่วยด้วยโรคหยุดหายใจขณะหลับ และมีความจำเป็นต้องใช้เครื่อง CPAP ให้แก่สถานพยาบาลที่สำนักงานกำหนดสิทธิในการรับบริการทางการแพทย์สำหรับผู้ประกันตน โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการประกันสังคม (ชุดที่ 13) ในการประชุมครั้งที่ 20/2566 เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566
ทั้งนี้ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15 (2) และมาตรา 63 แห่ง พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ. 2533 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.ประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2558 คณะกรรมการการแพทย์ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการประกันสังคม จึงออกประกาศไว้ ประกอบด้วย
- ประกาศฉบับนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป
- ให้เพิ่มข้อความต่อไปนี้ (ช) ใน (2) ของข้อ 5 หมวด 1 แห่งประกาศคณะกรรมการการแพทย์ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม เรื่องหลักเกณฑ์ และอัตราสำหรับประโยชน์ทดแทนในกรณีประสบอันตราย หรือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการทำงาน ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2546 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะกรรมการการแพทย์ ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ. 2533 เรื่องหลักเกณฑ์ และอัตราสำหรับประโยชน์ทดแทนในกรณีประสบอันตราย หรือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการทำงาน ลงวันที่ 3 เมษายน 2556
สำหรับ (ช) การตรวจวินิจฉัย และดูแลรักษาผู้ประกันตนที่ป่วยด้วยโรคหยุดหายใจขณะหลับ มีดังนี้ ค่าตรวจนอนหลับ (Polysomnography) ชนิดที่ 1 (มีเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามขณะตรวจทั้งคืน) จ่ายในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 7,000 บาท ค่าตรวจการนอนหลับ (Polysomnography) ชนิดที่ 2 (การตรวจวัดเหมือนการตรวจชนิดที่ 1 เว้นแต่ไม่มีเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามขณะตรวจ) จ่ายในอัตราไม่เกินจริง 6,000 บาท ค่าอุปกรณ์เครื่อง CPAP และอุปกรณ์เสริมสำหรับการรักษาในอัตราที่สำนักงานกำหนด ดังนี้
- เครื่อง CPAP ราคาชุดละ 20,000 บาท
- หน้ากากครอบจมูก หรือปากที่ใช้กับเครื่อง CPAP ราคาชิ้นละ 4,000 บาท
- กรณีสถานพยาบาลที่สำนักงานกำหนดสิทธิในการรับบริการทางการแพทย์สำหรับผู้ประกันตน ส่งตัวผู้ประกันตนไปรักษายังสถานพยาบาลอื่น โดยผู้ประกันตนได้รับการตรวจวินิจฉัย และอนุมัติเบิกใช้เครื่อง CPAP ให้สถานพยาบาลที่กำหนดสิทธิในการรับบริการทางการแพทย์
สำหรับผู้ประกันตนจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ พร้อมค่าอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้แก่สถานพยาบาลที่ทำการรักษา โดยสามารถเบิกค่าบริการทางการแพทย์ พร้อมค่าอุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรคตามหลักเกณฑ์ และอัตราค่าบริการที่สำนักงานกำหนดตามข้อ 2
ทั้งนี้ ค่าอุปกรณ์เสริมรายการแผ่นกรองอากาศ (Filter) กระดาษ และแผ่นกรองอากาศฟองน้ำ ให้รวมอยู่ในค่าบริการทางการแพทย์ของสถานพยาบาลที่สำนักงานกำหนดสิทธิในการรับบริการทางการแพทย์สำหรับผู้ประกันตน
อ่านฉบับเต็ม: https://www.sso.go.th/wpr/assets/upload/files_storage/sso_th/d0cdd705e7b24622395e5a0f7cb788b9.pdf