วันนี้ (7 ส.ค. 2562) ประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ในวันนี้กระทรวงการคลังโดย สคร. ได้จัดประชุมเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (สมคิด จาตุศรีพิทักษ์) เป็นประธาน และได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ 19 แห่ง รวมถึงผู้บริหารบริษัทในเครือของรัฐวิสาหกิจ 5 แห่ง ที่มีวงเงินลงทุนขนาดใหญ่ เพื่อรับนโยบายในการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ และจัดทำการลงทุนใหม่ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจปี 2562 ให้เติบโตได้ตามเป้าหมาย
ทางด้าน ชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการ สคร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมของรัฐวิสาหกิจ ปี 2562 มีผลการเบิกจ่ายในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (ต.ค. 2561- มิ.ย. 2562) จำนวน 129,815 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 87 ของแผนการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม โดยเป็นผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมของรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณจำนวน 71,525 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจปีปฏิทินจำนวน 58,290 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน รัฐวิสาหกิจที่ สคร. กำกับดูแล 45 แห่ง ที่มีงบลงทุนขนาดใหญ่ และสามารถเบิกจ่ายได้เกินกว่าแผนหลายโครงการ เฉพาะการลงทุนพัฒนารถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และการลงทุนพัฒนาสาธารณูปโภค เช่น งานก่อสร้างปรับปรุงขยายของการประปาส่วนภูมิภาค โครงการโรงไฟฟ้าบางปะกง ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และแผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง
ทั้งนี้ มีโครงการขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ตามแผน เช่น โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 (ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) และโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-ชุมพร ของการรถไฟแห่งประเทศไทย โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก ซึ่งถึงแม้ว่าปัจจุบันโครงการเหล่านี้จะสามารถแก้ไขปัญหาการจัดซื้อจัดจ้าง การก่อสร้าง และเริ่มมีการตรวจรับงานและทยอยเบิกจ่ายได้แล้ว แต่เนื่องจากปัญหาความล่าช้าในช่วงแรกส่งผลให้การดำเนินโครงการ และการเบิกจ่ายของโครงการในภาพรวมยังล่าช้ากว่าแผน
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการ สคร. กล่าวสรุปผลการประชุมว่า รองนายกรัฐมนตรี (สมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ได้มอบนโยบายให้รัฐวิสาหกิจ และบริษัทในเครือผลักดันให้เกิดการเบิกจ่ายเม็ดเงินลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในสองเดือนที่เหลือของปีงบประมาณ เช่น ให้เร่งรัดตรวจรับงวดงานให้เร็วขึ้น และเร่งรัดงวดงานที่ทำได้ทันทีให้ดำเนินการเร็วขึ้น รวมทั้งให้รัฐวิสาหกิจเร่งจัดทำโครงการลงทุนเพิ่ม
โดยสำหรับรัฐวิสาหกิจปีปฏิทินให้พิจารณาเสนอโครงการลงทุนที่มีความพร้อม และมาดำเนินการในปี 2562 และสำหรับรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณพิจารณาปรับเพิ่มกรอบงบลงทุนปี 2563 โดยให้เน้นการลงทุนในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2562 (ต.ค. 2562-ธ.ค. 2562)
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้มอบหมายให้ สคร. จัดทำระบบการติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจให้เข้มข้นมากขึ้น และให้มีการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาให้ใกล้ชิดมากขึ้น ซึ่งหากติดขัดให้รายงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังทันที
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์