จากร้านอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิมที่สร้างชื่อมาหลายปีอย่าง 4 Garçons สู่การปรับใหม่ทั้งเมนูอาหาร บรรยากาศภายในร้าน สถานที่ตั้ง หรือแม้แต่ชื่อเรียก เรากำลังพูดถึง ‘Second Edition’ ร้านอาหารที่เป็นเหมือนภาคต่อของ 4 Garçons แต่ปรับให้ร่วมสมัยยิ่งขึ้น เน้นอาหารจานโตเพื่อแบ่งปันและแชร์กับเพื่อนร่วมโต๊ะ แทนที่อาหารฝรั่งเศสที่ขึงขังจริงจังด้วยอาหารสไตล์โฮมคุกกิ้ง และเทคนิคการทำครัวอย่างการย่าง (Grill) ที่ยังคงกรรมวิธีและเทคนิคการปรุงแบบฝรั่งเศสแต่ตีความใหม่ให้อาหารเข้าถึงผู้คนมากขึ้น
The Vibe
ตัวร้านตกแต่งสไตล์ยุค 1950 ช่วง Mid-Century ที่อะร้าอร่ามด้วยสีทอง ตัดสลับกับโทนสีสว่างอย่าง ฟ้า เบจ และเขียว มีการหยิบเอารูปทรงเรขาคณิตและเส้นสายต่างๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของยุคสมัยนั้นมาเป็นองค์ประกอบหลัก ผสมกับกราฟิกบนวอลล์เปเปอร์ที่ทางร้านดีไซน์ขึ้นมาเองโดยเฉพาะ ในขณะที่ตัวเฟอร์นิเจอร์เลือกใช้ไม้และผ้าสักหลาดในดีไซน์ร่วมสมัย ไม่โมเดิร์นจ๋า แต่ก็คลาสสิกเหนือกาลเวลา
The Dishes
แม้จะมีการปรับเมนูใหม่แทบจะไม่เหลือเค้าเดิมของครัวฝรั่งเศส เพราะอย่างที่บอกว่าอาหารร้านนี้เน้นเข้าใจง่าย กินได้ไม่ซับซ้อน ให้ความรู้สึกเหมือนกินข้าวอยู่ที่บ้าน เลือกเฟ้นวัตถุดิบออร์แกนิกชั้นดี และเนื้อสัตว์จากทั่วโลกมาเข้าครัวให้คุณกินกันถึงที่ เริ่มจากอาหารรองท้องระหว่างรอจานหลัก Artichoke & Spinach with Tortilla Chip (380 บาท) ซึ่งเป็นดิปที่นำผักโขมมาบดกับอาร์ติโชคโรยด้วยชีส ก่อนนำไปอบแล้วเสิร์ฟพร้อมแผ่นข้าวโพดที่ตักดิปได้ตามความชอบ
Artichoke & Spinach with Tortilla Chip
ต่อด้วย Grilled Flatbread with Mushroom, Black Truffle, Cheese (620 บาท) เมนูที่หน้าตาดูแล้วคล้ายกับพิซซ่า แต่กลับให้รสสัมผัสที่บางเบากว่า เพราะทางร้านรีดแป้งขนมปังจนแบนเรียบ แล้วนำไปย่างจนสุกพอดี ก่อนโรยหน้าด้วยเครื่องต่างๆ แน่ละที่ขาดไม่ได้คือทรัฟเฟิลหอมกรุ่น
Grilled Flatbread with Mushroom, Black Truffle, Cheese
มาดูจานเบาๆ อย่างสลัดกันบ้าง เมนูนี้คือ Mizuna and Green Bean Salad with Anchovy Dressing (280 บาท) ผักมิซูน่าออร์แกนิก (หรือผักน้ำญี่ปุ่น) เสิร์ฟกับซอสแอนโชวีที่เชฟบดแอนโชวีเข้ากับทูน่า ตามด้วยน้ำส้มสายชูหมักไวน์แดง เหยาะน้ำมันมะกอกสักนิด ก่อนคลุกเคล้ากับผักใบพร้อมรับประทาน
Mizuna and Green Bean Salad with Anchovy Dressing
สำหรับคนที่ชอบรสชาติแบบเกาหลี แนะนำ Korean-style Grilled Wagyu Beef Ribs (980 บาท) ซี่โครงเนื้อวากิวที่นำไปตุ๋นในน้ำซอสบุลโกกิจนเปื่อย แล้วนำมาย่างอีกครั้ง ก่อนเสิร์ฟทาซอสบุลโกกิอีกรอบ จานนี้มาคู่กับมันบดและผักสดสำหรับห่อเนื้อสไตล์เกาหลี
Korean-style Grilled Wagyu Beef Ribs
ที่นี่มีเนื้อหลายประเภท หลายส่วนให้เลือกสั่ง หนนี้เราลอง สเต๊กเนื้อสันนอกจากอาร์เจนตินา (น้ำหนัก 300 กรัม ราคา 855 บาทต่อ 1 กิโลกรัม ราคา 2,850 บาท) ทางร้านนำเนื้อสันติดมันย่างระดับมีเดียมแรร์ เสิร์ฟคู่กับหัวไช้เท้าหัวเล็กที่ย่างจนได้ความหวานที่เป็นธรรมชาติ
สเต๊กเนื้อสักนอก
ต่อด้วย Grilled Lemongrass Pork Loin (350 บาท) เมนูหมูสันนอกหมักตะไคร้สไตล์เวียดนาม เสียบไม้ย่างเพื่อให้กินง่าย เสิร์ฟพร้อมกับข้าวเหนียวย่าง ที่มอบเท็กซ์เจอร์กรอบนอกเหนียวหนุบด้านในได้อารมณ์ไปอีกแบบ
Grilled Lemongrass Pork Loin
สำหรับสายเนื้อยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมี Grilled Whole Rack of Baby Lamb (1-1.2 กิโลกรัม 2,990 บาท) เนื้อแกะจากไอร์แลนด์นำมาย่างสไตล์มองโกเลีย จากนั้นนำพริกเม็กซิกันมาย่างแล้วบดไว้ทำเป็นซอส ส่วนเครื่องเคียงจะมีผักเซเลอรี แครอต และเติมความเป็นเอเชียนด้วยการใส่ถั่วงอก เพิ่มทั้งรสชาติที่คุ้นเคยและรสสัมผัส
Grilled Whole Rack of Baby Lamb
The Dessert
Grilled Pineapple with Vanilla Ice Cream and Caramel Sauce
ตบท้ายด้วยของหวานเย็นๆ สุดสร้างสรรค์อย่าง Grilled Pineapple with Vanilla Ice Cream and Caramel Sauce (180 บาท) ที่เชฟนำสับปะรดสดไปย่างเพื่อรีดความหวานหอม จากนั้นราดด้วยซอสคาราเมล ก่อนเสิร์ฟพร้อมไอศกรีมรสวานิลลาวางบนชิ้นสับปะรด โรยหน้าด้วยอัลมอนด์บด แค่นี้ก็ปิดท้ายได้อย่างลงตัว
Second Edition
Open: เปิดวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 11.00-22.00 น. เสาร์และอาทิตย์ 08.00-22.00 น.
Address: อาคาร Siamese Exclusive สุขุมวิท 31 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
Budget: เริ่มต้นที่ 150 บาท
Contact: โทร. 0 2163 4648
Facebook: www.facebook.com/secondedition
Map:
[iframe src=”https://her.is/2IJaW3Q” width=”500″ height=”500″ scrolling=”auto” ]
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า