วันนี้ (14 ธันวาคม) ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดีนัดไต่สวนพยานบุคคลในคดีที่ สส. พรรคร่วมฝ่ายค้าน จำนวน 54 ราย ยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ทำให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วนเป็นการกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 187 ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี 2543 มาตรา 4 (1) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่
นัดฟังคำวินิจฉัย 17 มกราคม 2567
โดยผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยานรวม 6 ปากคือ วราภรณ์ เทศเซ็น, ศักดิ์สยาม ชิดชอบ, ศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์, วรางสิริ ระกิติ, ฐิติมา เกลาพิมาย และ อัญชลี ปรุดรัมย์ โดยตอบข้อซักถามของศาลและของคู่กรณี คดีเป็นอันเสร็จการไต่สวน และศาลนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 17 มกราคม 2567 เวลา 14.00 น. ซึ่งวันนี้ (14 ธันวาคม) ใช้เวลาในการไต่สวนนานกว่า 5 ชั่วโมง
‘ศักดิ์สยาม’ ขอบคุณศาล รธน. ให้โอกาสชี้แจง
ขณะเดียวกัน ภายหลังการไต่สวน ศักดิ์สยามกล่าวขอบคุณศาลที่ให้โอกาสชี้แจงในวันนี้ แต่รายละเอียดทั้งหมดต้องรอคำวินิจฉัย
“รอคำวินิจฉัยดูก่อน เพราะเราได้แจ้งข้อเท็จจริงไปแล้ว และวันนี้ถือว่าชี้แจงได้อย่างครบถ้วน” ศักดิ์สยามกล่าว
และเมื่อถามต่อว่า ฟังการไต่สวนแล้วไม่หนักใจอะไรใช่หรือไม่ ศักดิ์สยามปฏิเสธที่จะตอบพร้อมหัวเราะ และขออนุญาตกลับก่อน
ผู้ถูกร้องชี้แจง มีบางจุดที่มีพิรุธ
ทั้งนี้ระหว่างพักการประชุม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หนึ่งในผู้ร้องกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ศาลได้มีการขอข้อมูลกันมาก่อนแล้ว วันนี้เป็นเพียงการสืบพยานแบบปากต่อปากเท่านั้น ซึ่งศาลจะถามคำถามแล้วก็ให้ตอบเลย และศาลได้มีการถามหลายประเด็น
เมื่อถามว่าจากการที่มีการสืบพยานในวันนี้คิดว่า ศักดิ์สยามยังถือหุ้นในบริษัทหรือไม่ ปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ถ้าพูดตามตรงทางฝั่งผู้ถูกร้องมีการยื่นชี้แจงมาแล้วรอบหนึ่ง ตนก็ได้อ่านดูคร่าวๆ ก็ยังมีบางจุดที่มีพิรุธ ซึ่งตนก็ไม่สามารถฟันธงได้ว่าสรุปแล้วเป็นการใช้นอมินีหรือไม่ หรือมีการโอนหุ้นกันจริงๆ แต่ทั้งนี้มีพฤติการณ์ที่น่าสงสัยหลายอย่าง และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและนิติบุคคลต่างๆ ค่อนข้างที่จะพัวพันและน่าสงสัยพอสมควร
