×

หุ้น SAF ประเดิมเข้าตลาดตัวแรกของปี เทรดกระดาน mai วันแรกพุ่ง 148% จากราคา IPO

19.01.2023
  • LOADING...

หุ้น บมจ.เอส.เอ.เอฟ. สเปเชียล สตีล หรือ หุ้น SAF เป็นหุ้น IPO ตัวแรกที่เข้าซื้อขายในปี 2566 โดยเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ mai วันนี้ (19 มกราคม) เป็นวันแรก ราคาเปิดการซื้อขายที่ 4.80 บาท เพิ่มขึ้น 2.87 บาท หรือ 148.70% ราคาจองซื้อ IPO ที่ 1.93 บาท 

 

บมจ.เอส.เอ.เอฟ. สเปเชียล สตีล หรือ SAF ทำธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าเกรดพิเศษและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงบริการชุบแข็งด้วยระบบสุญญากาศ มีลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศไทย เช่น กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร และกลุ่มอื่นๆ ทั้งที่นำเหล็กกล้าเกรดพิเศษไปใช้งานโดยตรง และลูกค้าประเภทซัพพลายเออร์ซึ่งนำเหล็กกล้าเกรดพิเศษไปผลิตชิ้นงานเพื่อจำหน่ายต่อ โดย SAF ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงผู้เดียวในประเทศไทย

 

SAF เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 579 ล้านบาท และมีมูลค่าระดมทุน 154.4 ล้านบาท

 

SAF มีทุนชำระหลังเสนอขาย 150 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 220 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 80 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 60 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัท 12 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท 8 ล้านหุ้น 

 

สำหรับการกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) ที่ประมาณ 34.96 เท่า คำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลกำไรสุทธิในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง โดยมี บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย 

 

พิศิษฐ์ อริยเดชวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอส.เอ.เอฟ. สเปเชียล สตีล (SAF) เปิดเผยว่า เงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทจะนำไปใช้ในการลงทุนสร้างคลังสินค้าและโรงงานแห่งใหม่ ลงทุนเครื่องเตาชุบแบบไนไตรดิ้ง และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

 

บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ ภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายและบริษัทได้กำหนดไว้

 

SAF มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ กลุ่มครอบครัวอริยเดชวณิชที่เป็นผู้บริหาร ได้แก่ พิศิษฐ์ อริยเดชวณิช, ลีนา อริยเดชวณิช และ พิศาล อริยเดชวณิช ถือหุ้นรวมกันที่ 59.20% 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising