“ไรเดอร์ คัพ ถือได้ว่าเป็นทัวร์นาเมนต์ในฝันที่นักกอล์ฟและคนรักกีฬากอล์ฟทั่วโลกต่างก็อยากจะเข้ามามีส่วนร่วม แต่ยิ่งกว่าได้เข้าไปเชียร์คือการเปิดโอกาสให้คนรักกอล์ฟทั่วไปได้ออกรอบตามรอยนักกอล์ฟชั้นนำหลังจากจบการแข่งขัน ซึ่งนี่ถือเป็นประสบการณ์ที่เงินก็ซื้อไม่ได้”
ในฐานะนักพากย์กีฬา และผู้ประกาศข่าวกีฬาผู้คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงกีฬามานานหลายสิบปี ตำนาน ไรเดอร์ คัพ ที่มีศักดิ์ศรีของทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกาเป็นเดิมพัน คือทัวร์นาเมนต์แข่งขันกอล์ฟในฝันที่ กฤษฎิน สุวรรณบุปผา ปักหมุดไว้ในใจตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงาน ว่าจะต้องหาโอกาสเข้าไปสัมผัสบรรยากาศการแข่งขันให้ได้ เพราะตำนานการแข่งขันกอล์ฟที่เริ่มมาตั้งแต่ ค.ศ. 1927 นี้ได้เปลี่ยนโฉมเกมการกีฬาที่ได้ชื่อว่าเป็นกีฬาเฉพาะบุคคล แพ้ชนะอยู่ที่คนคนเดียว ให้กลายมาเป็นการแข่งขันกอล์ฟประเภททีม ซึ่งรวมนักกอล์ฟชั้นนำของทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกาไว้ในสนามเดียวกัน
“ทัวร์นาเมนต์นี้เป็นเหมือนการยกพวกเจอกันระหว่างยุโรปและอเมริกา โดยไรเดอร์ คัพจะจัดขึ้นทุกๆ 2 ปี โดยทางยุโรปและอเมริกาจะผลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพ ซึ่งในฟากยุโรปนั้นก็จะหมุนเวียนประเทศที่จะจัดไปทุกๆ 4 ปี และในปี 2018 นี้จะจัดขึ้นที่สนาม Le Golf National ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเมื่อ 10 ปีที่แล้วตอนที่มีการประกาศว่าฝรั่งเศสจะได้เป็นเจ้าภาพ ก็มีการเตรียมความพร้อมของสนามมาตั้งแต่นั้น”
นอกจากความพร้อมของสนามที่มีการเตรียมสนามมาร่วม 10 ปีแล้ว ทัวร์นาเมนต์ระดับโลกในครั้งนี้ยังมีความพิเศษในเรื่องของผู้เข้าแข่งขัน โดยแต่ละฝ่ายจะสามารถคัดเลือกนักกอล์ฟเข้าร่วมทีมได้ 12 คน ซึ่ง 8 ใน 12 คนจะเป็นนักกอล์ฟที่มีผลงานดีที่สุดในปีที่ผ่าน อีก 4 คนที่เหลือเป็นนักกอล์ฟที่กัปตันทีมสามารถคัดมาร่วมทีมได้เป็นพิเศษ อาจจะเป็นนักกอล์ฟดาวรุ่งในช่วงนั้น หรือนักกอล์ฟรุ่นเก๋าผู้เป็นตำนาน
แน่นอนว่าในระหว่างการแข่งขันคือ 28-30 กันยายนนั้น ทุกทัวร์นาเมนต์ทั่วโลกจะหยุดการแข่งขัน เพื่อเปิดทางให้นักกอล์ฟในยุโรปและอเมริกาได้มาร่วมการแข่งขันครั้งนี้
“ถ้าให้เปรียบไรเดอร์ คัพ ก็ไม่ต่างจากการแข่งโอลิมปิกที่นักกีฬากอล์ฟทุกคนใฝ่ฝันว่าจะได้เข้าร่วม ได้กลับมาเล่นกอล์ฟให้กับบ้านเกิดของตัวเอง ซึ่งในปีนี้ทางฝั่งยุโรปได้ตั้ง โทมัส บียอร์น นักหวดวัย 45 ปี ชาวเดนมาร์กเป็นกัปตันสู้ศึก ส่วนทีมกอล์ฟสหรัฐฯ ตั้ง จิม ฟิวริค เป็นกัปตันป้องกันแชมป์ไรเดอร์ คัพ ในครั้งนี้”
ขึ้นชื่อว่าเป็นทัวร์นาเมนต์หยุดโลกแบบนี้ การได้เข้าไปเป็นหนึ่งในผู้ชมที่ได้ติดขอบสนามจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน กฤษฎินเล่าว่าเขาในฐานะผู้สื่อข่าวกีฬายังใช้เวลาร่วม 5 ปี ในการขออนุญาตเข้าไปร่วมทำข่าวการแข่งขัน ส่วนผู้ชมนั้นแม้ราคาบัตรต่ำสุดจะแตะอยู่ที่เลข 6 หลักคือไม่ต่ำกว่าแสนบาท ทว่าก็ไม่ใช่ว่าจะจองเข้าไปชมติดขอบสนามได้อย่างง่ายดาย
นี่คือเหตุผลที่ทำให้เอ็มดับเบิลยูจัดทริปพิเศษ BMW Golf Cup Special Edition-Ryder Cup 2018 ซึ่งเป็นหนึ่งในโปรแกรม The Ultimate JOY Experience ที่ทางบีเอ็มดับเบิลยูสร้างสรรค์มาตลอด 1 ปีเต็มเพื่อตอกย้ำความตั้งใจในการมอบสิทธิพิเศษเหนือระดับให้แก่สมาชิก โดยครั้งนี้ได้เปิดโอกาสให้เจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูที่รักกีฬากอล์ฟ ได้เดินทางไปร่วมชมศึกวงสวิงระดับโลก ไรเดอร์ คัพ ติดขอบสนามตลอด 3 วันเต็ม ทั้งยังพลัสความพิเศษอีกขั้นด้วยการลงสนามออกรอบตามรอยนักกอล์ฟระดับโลกในสนามเดียวกันหลังจบการแข่งขัน รวมทั้งจัดรถรับส่งถึงสนาม และมีเต็นท์พิเศษของบีเอ็มดับเบิลยูคอยบริการตลอดการแข่งขัน โดยจะเปิดให้จองทริปสุดพิเศษนี้ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2561 ที่ www.bmwultimatejoy.com และติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรมต่างๆ ได้ทาง www.facebook.com/bmwultimatejoy
