สื่อต่างประเทศรายงานว่า เกิดฝนตกหนักในรวันดาและยูกันดา จนส่งผลให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มหลายพื้นที่ คร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 129 คนในรวันดา และอีก 6 คนในยูกันดา ขณะที่ทีมกู้ภัยเร่งเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้านของตนเอง
เหตุดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่รวันดาและยูกันดาเผชิญกับฝนที่ตกหนักต่อเนื่องหลายสัปดาห์ด้วยกัน โดยคลิปวิดีโอหนึ่งที่โพสต์โดยหน่วยงานกระจายเสียงของรัฐบาลรวันดาเผยให้เห็นกระแสน้ำโคลนที่ไหลบ่าลงเข้าท่วมถนนและทำลายบ้านเรือนเสียหาย
แองเจลีค นิแบ็กไวร์ (Angelique Nibagwire) วัย 47 ปี ซึ่งอยู่ในเขตการอนกี (Karongi) ทางตะวันตกของรวันดา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า “พวกเราตื่นมาตอนตีสอง และได้ยินเสียงผู้คนกรีดร้อง” โดยในชุมชนของเขามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 คนด้วยกัน ขณะที่ นยานดวี เอ็มมานูเอล (Nyandwi Emmanuel) ชาวบ้านในละแวกเดียวกันเผยว่า ญาติของเขาเสียชีวิต 3 คน เนื่องจากบ้านพังถล่มลงมาในช่วงกลางดึก
ฟรองซัวส์ ฮาบิเตเกโก (François Habitegeko) ผู้ว่าการจังหวัดทางตะวันตกของรวันดากล่าวว่า “เป้าหมายหลักของเราในตอนนี้คือการเข้าถึงบ้านทุกหลังที่ได้รับความเสียหาย เพื่อให้แน่ใจว่าเราสามารถช่วยเหลือผู้ที่อาจติดอยู่ได้” โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือประชาชนได้บางส่วนและนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว
สำหรับสถานการณ์ในปัจจุบัน ฮาบิเตเกโกระบุว่าน้ำในแม่น้ำเซเบยา (Sebeya) ได้ไหลทะลักล้นตลิ่ง ขณะผืนดินที่ชุ่มไปด้วยน้ำฝนที่ตกหนักต่อเนื่องหลายวันทำให้เกิดดินถล่ม และปิดเส้นทางการจราจรหลายสาย ด้านรัฐบาลรวันดาออกแถลงการณ์ว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงจัดหาที่อยู่ชั่วคราวให้กับประชาชน
ทั้งนี้ รวันดาและยูกันดาเผชิญกับฝนตกหนักและต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคม อีกทั้งยังมีรายงานแผ่นดินถล่มอยู่บ่อยครั้งด้วย
ภาพ: MARIAM KONE / AFP
อ้างอิง: