ด้วยสภาวะอันตึงเครียดของสงครามระหว่างศรัสเซียและยูเครนที่ลากยาวมาจนถึงสัปดาห์ที่ 3 ทำให้หลายธุรกิจขนาดใหญ่ทั่วโลกพร้อมใจกันสนับสนุนยูเครนด้วยการปิดร้านและถอนสาขาออกจากประเทศรัสเซียชั่วคราว หนึ่งในนั้นก็คือฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกันอย่าง ‘McDonald’s’ ที่ได้ปิดร้านกว่า 850 สาขาทั่วประเทศรัสเซียไปเป็นที่เรียบร้อย
แต่ใครจะไปคิดว่าการปิดทุกสาขาของ McDonald’s ในครั้งนี้ จะทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ในรัสเซียต่างพากันออกไปซื้ออาหารของ McDonald’s มากักตุนไว้ในตู้เย็นที่บ้านของตนเองทันที อย่างกรณีของชายชาวรัสเซียคนหนึ่งที่ได้โพสต์ภาพตู้เย็นของเขาที่เต็มไปด้วยเบอร์เกอร์ของ McDonald’s กว่า 50 ชิ้นลงในเธรดของเว็บไซต์ Reddit จนกลายเป็นไวรัล
ในขณะที่ชาวรัสเซียบางส่วนก็ได้นำสินค้าที่กักตุนเหล่านี้ไปขายต่อในราคาที่สูงลิบผ่านช่องทางออนไลน์ของรัสเซียอย่างเว็บไซต์ Avito หรือแพลตฟอร์มที่คล้ายกับ eBay ของสหรัฐอเมริกา
โดยสินค้าของ McDonald’s ที่ประกาศขายบนเว็บไซต์ Avito นั้นมีหลากหลายมาก ยกตัวอย่างเช่น เบอร์เกอร์ Big Mac ในราคา 36 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,203 บาท จากเดิม Big Mac ในประเทศรัสเซียนั้นราคาอยู่ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 33.42 บาทไทยเท่านั้น รวมไปถึงเซ็ต ‘McDonald’s Breakfast’ ประกอบไปด้วย McMuffin แพนเค้กมันฝรั่ง และซอส ในราคากว่า 18 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 602 บาท
เซ็ตรวมซอส ‘A collection of sauces’ ของ McDonald’s พบที่ราคาเซ็ตละ 400 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 13,368 บาท ไปจนกระทั่งถุงกระดาษ แก้ว และแพ็กเกจจิ้งของทางแบรนด์ที่มีช่วงราคาตั้งแต่ 70-375 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,340-12,530 บาท แต่ที่พีคสุดเห็นจะเป็นเชอร์รีพายของ McDonald’s มีราคาสูงถึง 800 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 26,736 บาทเลยทีเดียว
ถึงแม้ว่าในขณะนี้สงครามยังยังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะถูกบอยคอตจากธุรกิจยักษ์ใหญ่ทั่วโลก เหตุการณ์ในครั้งนี้สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่าผลที่ตามมา แม้จะเป็นการปิดสาขาของ McDonald’s นั้น ได้สร้างผลกระทบและความวุ่นวายให้กับประชาชนในประเทศรัสเซียได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
อ้างอิง: