×

ธุรกิจร้านอาหารแข่งเดือด! ใครไม่แกร่งจริงอยู่ไม่ได้ ‘LINE MAN Wongnai’ ชี้แซนด์วิช-หม่าล่าฮอตสุด

25.07.2023
  • LOADING...
ธุรกิจร้านอาหาร

ธุรกิจร้านอาหารแข่งเดือด! หลังร้านใหม่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด หรือมากกว่า 1 แสนร้าน โดยเมนูแซนด์วิช อาหารตามสั่ง ชาบู หม่าล่า ฮอตสุด ‘LINE MAN Wongnai’ ชี้ร้านไหนไม่ปรับตัวอาจล้มหายไปจากตลาด พร้อมเปิดแผนหลังปิดดีลซื้อกิจการ FoodStory มาต่อยอดโซลูชัน ช่วยบริหารจัดการร้านอาหารให้อยู่รอดได้

 

“หลังจากโควิดคลี่คลายลง ทำให้จำนวนร้านอาหารเติบโตขึ้นกว่า 13.6% หลายๆ ร้านที่ปิดไปช่วงโควิดได้ทยอยกลับมาเปิดให้บริการ และส่วนใหญ่เป็นร้านประเภทอาหารตามสั่ง ตามด้วยเครื่องดื่ม-กาแฟ และอาหารอีสาน แน่นอนว่าเมื่อผู้เล่นเพิ่มขึ้นก็ทำให้การแข่งขันสูง ถ้าไม่ปรับตัวทั้งในแง่ของอาหารและการบริหารร้านเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคอาจทำให้ต้องปิดตัวลงได้” ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai กล่าวในงาน Restaurant 2023: Future’s Recipe

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

เห็นได้จากข้อมูลนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงปัจจุบัน ร้านอาหารที่เพิ่งเปิดใหม่ปิดตัวลง 50% ของจำนวนทั้งหมด และหากนับย้อนหลัง 3 ปีจะปิดตัวลงถึง 65% เนื่องจากธุรกิจร้านอาหารมีการแข่งขันสูง และทุกคนสามารถเป็นเจ้าของร้านอาหารได้ง่ายขึ้น

 

ดังนั้น บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสเข้าไปควบรวมกิจการ FoodStory และนำจุดแข็งของ FoodStory ที่เป็นผู้พัฒนาระบบจัดการร้านอาหาร ด้วยระบบ POS เข้ามาช่วยบริหารจัดการร้านอาหารให้อยู่รอดได้ในตลาด โดยประกอบด้วย

 

  1. Mobile Order ระบบสั่งอาหารผ่านการสแกน QR Code เพื่อส่งออร์เดอร์เข้าสู่ระบบ POS ตรงถึงพนักงานในครัว ลดปัญหาการรับออร์เดอร์ผิดพลาดหรือตกหล่น

 

  1. Master Data ระบบรวมศูนย์จัดการข้อมูลจากหลายสาขา สามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นของร้านอาหารทุกสาขาได้ทุกที่ 

 

  1. Inventory Management ระบบบริหารคลังวัตถุดิบ สามารถคำนวณสัดส่วนวัตถุดิบของแต่ละเมนู และตัดคลังวัตถุดิบอัตโนมัติ รวมถึงแจ้งสถานะสต๊อกเมื่อวัตถุดิบใกล้หมด

 

สิ่งที่น่าสนใจของระบบ POS จะช่วยให้ควบคุมต้นทุนวัตถุดิบและค่าแรงที่ปรับตัวสูงขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะจากการสำรวจพบว่า ต้นทุนอาหารแต่ละจาน 9% คือวัตถุดิบเหลือทิ้ง อาจเกิดมาจากการปรุงอาหาร เช่น การตัดแต่ง และเกิดการเน่าเสีย ซึ่งจริงๆ แล้วหากมีการจัดการวัตถุดิบเหลือทิ้งที่ดีก็จะจัดการปัญหาดังกล่าวได้

 

โดยปัจจุบันมีร้านอาหารกว่า 55,000 ร้านทั่วประเทศที่เลือกใช้ Wongnai POS และ FoodStory POS ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 40% ของตลาด และที่ผ่านมาได้สร้างมูลค่าการซื้อขายรวม (GMV) กว่า 1.8 แสนล้านบาท และจัดการออร์เดอร์ร้านอาหารไปรวมกว่า 636 ล้านออร์เดอร์ ซึ่งช่วยลดปริมาณการใช้กระดาษไปถึง 323 ตัน

 

และจากข้อมูลของร้านอาหารที่ใช้ระบบ Wongnai POS นั้นมีมูลค่าการซื้อขายรวมจากร้านประเภทนั่งกินในร้านที่กลับมาเติบโตสูงขึ้นหลังจากโควิดคลี่คลาย

 

ถึงกระนั้นร้านอาหารที่เติบโตสูงสุด ได้แก่ ร้านอาหารเช้า ข้าวต้ม แซนด์วิช ตามด้วยอาหารจีน หม่าล่า และร้านสุกี้ยากี้ ชาบู ขณะที่ร้านอาหารที่เติบโตลดลง ได้แก่ ร้านข้าวต้มมื้อดึก และร้านพิซซ่า ส่วนเมนูที่ขายดีบนแพลตฟอร์มเดลิเวอรี ได้แก่ ก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ และส้มตำ ส่วนกลุ่มเครื่องดื่มจะเป็นอเมริกาโน ชาเขียว และชานม

 

หัวเรือใหญ่ LINE MAN Wongnai กล่าวต่อไปว่า ในแง่ของพฤติกรรมลูกค้าหลังโควิดก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นเดียวกัน แม้หลายคนได้กลับมาใช้ชีวิตปกติแล้ว แต่การสั่งเดลิเวอรียังคงมีอยู่ แม้ไม่ได้โตเหมือนช่วงโควิด ขณะที่ความถี่ในการสั่งลดลง แต่มูลค่าคำสั่งซื้อสูงขึ้นมากกว่า 10% เมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา โดยกลุ่มลูกค้าหลักของแพลตฟอร์มจะเป็นกลุ่มอายุ 24-35 ปี

 

อย่างไรก็ตาม การควบรวมกันระหว่าง LINE MAN Wongnai กับ FoodStory จะทำให้บริษัทกลายเป็นเบอร์ 1 ของตลาด POS ผ่านการมีส่วนแบ่งตลาด 40% และยังสามารถทำตลาดได้ครอบคลุมทั่วประเทศ

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising