เรย์ ดาลิโอ ผู้ก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ Bridgewater Associates เตือนรัฐบาลของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้เร่งดำเนินมาตรการลดการขาดดุลงบประมาณในทันที ก่อนที่สหรัฐฯ อาจเผชิญวิกฤตหนี้ครั้งใหญ่ภายใน 3 ปี
“หากไม่ทำ สหรัฐฯ จะเจอปัญหาแน่นอน” ดาลิโอกล่าวผ่านช่องพอดแคสต์ Odd Lots พร้อมเปรียบเทียบว่าสถานการณ์นี้เหมือน ‘อาการหัวใจวาย’ ที่ไม่รู้แน่ชัดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด แต่กำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ โดยเขาคาดการณ์ว่าวิกฤตอาจเกิดขึ้นภายใน 3 ปี บวกลบ 1 ปี
คำเตือนของดาลิโอมีขึ้นในช่วงที่รัฐบาลทรัมป์กำลังเผชิญกับความท้าทายในการรักษานโยบายลดหย่อนภาษี ในขณะที่ขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ ล่าสุดพุ่งแตะระดับ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และเสนอให้สหรัฐฯ ลดการขาดดุลให้อยู่ที่ 3% ของ GDP ทันที
“ถ้าไม่ทำ ตอนนั้นแหละที่คุณต้องรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่ตามมา” ดาลิโอกล่าว พร้อมเสริมว่า “เมื่อถึงเวลาที่เศรษฐกิจเจอกับภาวะหัวใจวายขึ้นมา ประชาชนจะไม่พอใจ และรัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบต่อเรื่องนี้”
ดาลิโออธิบายว่า การทำความเข้าใจประวัติศาสตร์และวัฏจักรหนี้ระยะยาวเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของเขาในการก่อตั้ง Bridgewater Associates และรับมือกับวิกฤตการเงินปี 2008 รวมถึงวิกฤตหนี้ยูโรโซนในเวลาต่อมา
ดาลิโอกังวลว่าสหรัฐฯ อาจเผชิญกับปัญหาขาดแคลนผู้ซื้อตราสารหนี้ แม้จะต้องออกพันธบัตรใหม่เพื่อใช้หนี้เดิม โดยในปี 2022 นักวิเคราะห์ของ JPMorgan เคยเตือนว่า เป็นครั้งแรกที่ธนาคารกลางต่างประเทศ ธนาคารพาณิชย์สหรัฐฯ และธนาคารกลางสหรัฐฯ พร้อมใจกันลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลในเวลาเดียวกัน
“เมื่อคุณต้องออกตราสารหนี้จำนวนมากเพื่อโปะหนี้เก่า ปัญหาไม่ได้อยู่แค่หนี้เดิมที่ค้างอยู่ แต่ยังรวมถึงการขายตราสารหนี้ใหม่อีกด้วย” ดาลิโอกล่าว พร้อมเสริมว่าผู้ซื้อหลักอย่างกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติและธนาคารกลางต่างๆ อาจไม่สามารถดูดซับหนี้จำนวนมากได้อีกต่อไป
ดาลิโอยังเตือนว่าหากสหรัฐฯ ใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับประเทศที่ถือครองพันธบัตรจำนวนมาก หรือแม้แต่ปรับโครงสร้างหนี้ อาจส่งผลสะเทือนอย่างรุนแรงต่อตลาดการเงิน “รัฐบาลอาจประกาศปรับโครงสร้างหนี้ โดยไม่เรียกมันว่าการผิดนัดชำระ แต่จะบอกว่าเป็นนโยบายที่จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น” ดาลิโอกล่าว
เมื่อถูกถามถึงแนวคิด ‘Mar-a-Lago Accord’ ซึ่งเป็นสมมติฐานว่าสหรัฐฯ อาจพยายามทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง โดยยังคงสถานะพิเศษในระบบการเงินโลก ดาลิโอแสดงความเห็นว่าเป็นไปได้ยาก
“มันอาจเป็นไปได้และอาจทำกันแบบลับๆ แต่ต้องเข้าใจว่าไม่ใช่แค่ดอลลาร์ที่จะอ่อนค่าลง ค่าเงินอื่นๆ ก็จะอ่อนค่าลงเช่นกัน” เขากล่าว พร้อมเปรียบเทียบสถานการณ์กับช่วงทศวรรษ 1970 และ 1930 ซึ่งค่าเงินทั่วโลกอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับทองคำและสินทรัพย์ที่มีมูลค่าคงที่
ดาลิโอยังกล่าวถึง Bitcoin ว่าอาจเป็น ‘เงินทางเลือก’ ในอนาคต เนื่องจากไม่สามารถถูกยึดหรือเก็บภาษีได้ง่ายเหมือนอสังหาริมทรัพย์
ส่วนทองคำ เขายอมรับว่ามีความน่าสนใจมากขึ้นเมื่อเทียบกับอดีต “ผมไม่ได้อยากเชียร์ให้ทุกคนแห่กันไปซื้อทองคำ แต่สิ่งที่ต้องตระหนักคือเราไม่มีทางรู้อนาคตทั้งหมด ดังนั้นการกระจายความเสี่ยงคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”
สำหรับสัดส่วนทองคำที่เหมาะสมในพอร์ตการลงทุน เขาประเมินว่าอยู่ที่ประมาณ 10-15% “ทองคำจำนวนเล็กน้อยสามารถช่วยป้องกันความเสี่ยงและกระจายพอร์ตได้ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือคุณไม่ควรมีความเสี่ยงที่มากเกินไปในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง” ดาลิโอกล่าว
อ้างอิง: