วันนี้ (27 มกราคม) ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ (นปถ.) ครั้งที่ 1/2565 โดยมี พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1), พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.), นิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และ บุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดี ปภ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ไปยังแต่ละจังหวัด เพื่อพิจารณาแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการสร้างความปลอดภัยทางถนน หลังเกิดกรณี พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ ‘หมอกระต่าย’ เสียชีวิตเนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ชน บริเวณทางม้าลายหน้าสถาบันไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา
พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า การประชุมวันนี้คณะกรรมการ นปถ. ได้พิจารณาแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการสร้างความปลอดภัยทางถนนในภาพรวม และหารือวาระเร่งด่วนด้านการบริหารจัดการปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในกลุ่มคนเดินเท้า ประเด็นการป้องกันอุบัติเหตุรถชนคนบริเวณทางข้ามภายใต้ 3 มาตรการ ดังนี้
- มาตรการด้านกฎหมาย โดยจะเพิ่มโทษกรณีผู้ขับขี่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามสัญญาณจราจรหรือเครื่องหมายจราจร ตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จราจรทางบก พ.ศ. 2522 รวมถึงจัดให้เป็นฐานความผิดที่ต้องตัดคะแนนความประพฤติของผู้ขับขี่ ควบคู่กับการใช้เทคโนโลยีสนับสนุนการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย โดยติดตั้งกล้องวงจรปิดและกล้องตรวจจับความเร็วในจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ อาทิ บริเวณทางร่วม ทางแยก และทางข้าม พร้อมเร่งจัดทำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ประวัติและการกระทำความผิดของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ ข้อมูลทะเบียนรถ และข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้อง
- มาตรการด้านถนน โดยจัดทำมาตรฐานทางข้าม เพื่อเป็นต้นแบบในการสร้างทางข้ามให้มีความปลอดภัย พร้อมสำรวจมาตรฐานวิศวกรรมจราจรบริเวณทางข้ามทั่วประเทศ เพื่อวิเคราะห์และกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหา รวมถึงปรับปรุงวิศวกรรมจราจรบริเวณทางข้ามให้มีมาตรฐานความปลอดภัย โดยเฉพาะการชะลอความเร็วของรถก่อนถึงทางข้าม การจัดทำเส้นทางข้ามและข้อความบนพื้นทาง การติดตั้งป้ายเตือน ป้ายสัญลักษณ์ในจุดที่เหมาะสมและมองเห็นได้ชัดเจนทั้งผู้ขับขี่และคนเดินเท้า และการติดตั้งสัญญาณไฟสำหรับคนข้ามถนน
- มาตรการด้านผู้ใช้รถใช้ถนน โดยสร้างการรับรู้และความตระหนักด้านความปลอดภัยทางถนนในกลุ่มคนเดินเท้าให้กับประชาชนผ่านทุกช่องทาง โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ และการจัดกิจกรรมรณรงค์ พร้อมพัฒนาหลักสูตรและสื่อการเรียนรู้ด้านความปลอดภัยทางถนน เพื่อให้ความรู้และสร้างความตระหนักแก่กลุ่มเด็กและเยาวชนในสถานศึกษา
พล.อ. อนุพงษ์กล่าวว่า เพิ่มประสิทธิภาพการสร้างความปลอดภัยทางถนนในภาพรวมปี 2565 จะมุ่งเน้นการบริหารจัดการปัญหาอุบัติเหตุทางถนนจากพฤติกรรมเสี่ยง 4 ประการ ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ดื่มแล้วขับ ไม่สวมหมวกนิรภัย และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ผ่านกลไกการทำงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในทุกระดับ โดยขับเคลื่อนการจัดทำแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนให้สอดรับกับสภาพปัญหาและเป้าหมายการลดอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของแต่ละพื้นที่ รวมถึงเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายต่อเนื่องตลอดทั้งปี ควบคู่กับการรณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนตระหนักถึงปัญหาอุบัติเหตุทางถนนและร่วมกันใช้รถใช้ถนนโดยยึดหลักขับขี่ปลอดภัย เพื่อนำไปสู่เป้าหมายการลดอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 12 คนต่อแสนประชากร ภายในปี 2570