×

#พูดหยุดโกง ต้องหยุด ‘กลวง’ ก่อนพูด!…แคมเปญรณรงค์ให้พูดในวันที่ประชาชนรอให้คนทำ

20.08.2021
  • LOADING...
#พูดหยุดโกง ต้องหยุด ‘กลวง’ ก่อนพูด!...แคมเปญรณรงค์ให้พูดในวันที่ประชาชนรอให้คนทำ

HIGHLIGHTS

  • ความจริงทาง ป.ป.ช. หรือเอเจนซีที่รับผิดชอบงานชิ้นนี้น่าจะได้รับบทเรียนมาจากแคมเปญ ‘วัคซีนที่ดีที่สุด คือวัคซีนที่ฉีดได้เร็วที่สุด’ ว่าประชาชน ‘จับโป๊ะ’ วิธีการให้ดารา คนดัง หรืออินฟลูเอนเซอร์ขึ้นอินสตราแกรมรัวๆ พร้อมติดแฮชแท็กเดียวกัน ซึ่งมันไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว ยิ่งเจอคอนเซปต์ภาพที่ดูประดิษฐ์เข้าไปอีกก็ยิ่งดูออก 
  • อีกทั้งเมื่อมองลึกเข้าไปในประเด็นที่คนดัง ‘บางคน’ เลือกมาพูดต้านโกงก็ดูเบาหวิวเหลือเกิน โดยเฉพาะในวันที่ภาคประชาชนแทบจะตั้งกระทรวงการด่าเพื่อพัฒนาชาติกันเองอยู่รอมร่อ และกล้าวิพากษ์วิจารณ์ความไม่โปร่งใสต่างๆ ในสังคมจนแทบจะทะลุหลังคาโลกไปแล้ว แต่คนที่กล้าออกมาพูดจริงๆ กลับถูกจับกุม คุมขัง ยกเลิกการจ้างงาน ฯลฯ  
  • ซ้ำร้ายไปกว่านั้น แคมเปญนี้ยังเกิดขึ้นจากหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของภาครัฐ กับรัฐบาลที่ประชาชนยังคงตั้งคำถามถึงการได้มาซึ่งอำนาจที่ดูไม่ค่อยบริสุทธิ์ยุติธรรมสักเท่าไร รวมทั้งใช้อำนาจปกปิดบัญชีทรัพย์สินของตัวเอง และประชาชนก็ยังไม่ได้คำตอบที่โปร่งใสมาจนถึงทุกวันนี้

 

ทอล์กออฟเดอะทาวน์สมดังใจไม่ต่างจากแคมเปญ ‘วัคซีนที่ดีที่สุด คือวัคซีนที่ฉีดได้เร็วที่สุด’ สำหรับแคมเปญ #พูดหยุดโกง ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แต่ก็คงไม่ใช่กระแสตอบรับที่ตรงใจของผู้จัดทำสักเท่าไร เพราะงานนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ทั้งประเด็นและวิธีการ แลดูเก่า ล้าสมัย และไม่จริงใจเอาเสียเลย 

 

                        

 

ความจริงทาง ป.ป.ช. หรือเอเจนซีที่รับผิดชอบงานชิ้นนี้น่าจะได้รับบทเรียนมาจากแคมเปญ ‘วัคซีนที่ดีที่สุด คือวัคซีนที่ฉีดได้เร็วที่สุด’ ว่าประชาชน ‘จับโป๊ะ’ วิธีการให้ดารา คนดัง หรืออินฟลูเอนเซอร์ขึ้นอินสตราแกรมรัวๆ พร้อมติดแฮชแท็กเดียวกัน ซึ่งมันไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว ยิ่งเจอคอนเซปต์ภาพที่ดูประดิษฐ์เข้าไปอีกก็ยิ่งดูออก อีกทั้งเมื่อมองลึกเข้าไปในประเด็นที่คนดัง ‘บางคน’ เลือกมาพูดต้านโกงก็ดูเบาหวิวเหลือเกิน โดยเฉพาะในวันที่ภาคประชาชนแทบจะตั้งกระทรวงการด่าเพื่อพัฒนาชาติกันเองอยู่รอมร่อ และกล้าวิพากษ์วิจารณ์ความไม่โปร่งใสต่างๆ ในสังคมจนแทบจะทะลุหลังคาโลกไปแล้ว แต่คนที่กล้าออกมาพูดจริงๆ กลับถูกจับกุม คุมขัง ยกเลิกการจ้างงาน ฯลฯ ซ้ำร้ายไปกว่านั้น แคมเปญนี้ยังเกิดขึ้นจากหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของภาครัฐ กับรัฐบาลที่ประชาชนยังคงตั้งคำถามถึงการได้มาซึ่งอำนาจที่ดูไม่ค่อยบริสุทธิ์ยุติธรรมสักเท่าไร รวมทั้งใช้อำนาจปกปิดบัญชีทรัพย์สินของตัวเอง และประชาชนก็ยังไม่ได้คำตอบที่โปร่งใสมาจนถึงทุกวันนี้

 

 

ในแง่ของการเลือกคนดังที่มาร่วมเคมเปญก็พอเข้าใจได้ว่าทางคณะผู้จัดทำอยากได้มุมมองที่หลากหลาย จึงมีทั้งคนที่ Call out ประเด็นต่างๆ ในสังคมอยู่แล้ว และเลือกเน้นย้ำประเด็นนั้นๆ ในแคมเปญนี้ อย่างเช่น อ๊อฟ-ปองศักดิ์ รัตนพงษ์ ที่พูดถึงการเข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียม, พลอย-ภัทรากร ตั้งศุภกุล ที่พูดถึงสิทธิในการเข้าถึงวัคซีนที่มีคุณภาพ หรือ ไม้-วฤษฎิ์ ศิริสันธนะ พูดถึงการงดเว้นสิทธิพิเศษของบรรดา VIP ในสังคม แต่ก็มีอีกหลายๆ คนที่ร้อยวันพันปีไม่ว่าจะง้างปากอย่างไร ก็ไม่เคยออกมาพูดถึงปัญหาสังคม จนเหมือนสติกเกอร์ #พูดหยุดโกง ที่ติดไว้ในภาพเป็นข้อความที่แปะไว้เตือนใจตัวเองคนเดียวเสียมากกว่า (ซึ่งจริงๆ ตั้งค่าไพรเวตไว้ดูซ้ำๆ คนเดียวก็ได้นะ) อีกทั้งความที่ไม่ ‘อิน’ แมสเสจที่เลือกส่งออกมา จึงดูผิดที่ผิดเวลา และเกาไม่ถูกที่คัน ในวันที่ประชาชนตั้งคำถามถึงความโปร่งกับหลายๆ เรื่องในสังคม เหมือนให้การบ้านกันไปเลือกประเด็นมา แล้วแต่ละคนก็เลือกประเด็นที่ตัวเองจะเจ็บตัวน้อยที่สุด แต่กลับเจ็บหนักที่สุด เพราะมันไม่มีความจริงใจใดๆ ที่สัมผัสได้เลย

 

ที่น่าขำก็คือบางแมสเสจก็ดูย้อนแย้งกับเรื่องราวและข่าวคราวของเพื่อนร่วมแคมเปญ เช่น ข้อความของ ลุค อิชิคาว่า ที่ว่าด้วยเรื่องการปกปิดไทม์ไลน์เมื่อไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยงการแพร่ระบาดโควิด ในขณะที่เพื่อนร่วมโครงการอย่าง ดีเจมะตูม-เตชินท์ พลอยเพชร ก็เคยถูกตั้งคำถามกับเรื่องนี้ในกรณีจัดปาร์ตี้วันเกิดเมื่อต้นปี และมีเพื่อนๆ จำนวนหนึ่งปกปิดไทม์ไลน์ เอาเข้าจริงๆ แค่ขอไอดีไลน์ หรือไดเรกแมสเสจส่งไปเตือนกันเองก็ได้ หรืออย่าง แนท-อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ ที่พูดถึงกรณีโกงนมโรงเรียน ทั้งๆ ที่เด็กไทยยังไม่รู้ว่าจะไปโรงเรียนจริงๆ ได้เมื่อไร อีกทั้งเมื่อปีก่อนคุณแม่ของแนทก็มีข่าวปัญหาเรื่องเงินๆ ทองๆ อยู่ด้วย 

แม้เรื่องนี้จะไม่ได้เกี่ยวกับตัวแนทเต็มๆ แต่ถ้าใครนึกถึงหรือจำได้ก็คงเกิดอาการ ‘เอ๊ะ…’ ในใจอยู่เหมือนกัน ผู้เขียนไม่อาจฟันธงว่าโครงการนี้เกิดขึ้นจากความสมัครใจหรือว่าจ้าง แต่เมื่อเห็นว่าได้รับการสนับสนุนจากกองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็พาลให้คิดว่าน่าจะมีค่าตอบแทนอยู่บ้าง จุดนี้ยิ่งทำให้ความน่าเชื่อถือของโครงการลดลง รวมไปถึงภาพลักษณ์ของคนดังบางคนที่ร่วมแคมเปญนี้ด้วย ที่หลายคนเคยบอกว่าทุกการ Call out มีราคาที่ต้องจ่าย ก็คิดว่าต้องจ่ายด้วยแรงต้านทานของสังคม ไม่คิดว่าจะมีราคาค่างวดแบบนี้

 

สุดท้ายก็อยากฝากไปถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าไม่ต้องเสียเวลารณรงค์ให้ประชาชน #พูดหยุดโกง เพราะประชาชนจำนวนมากพูดไปหมดแล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ ถ้าจะให้ดีอยากให้ทางคณะกรรมการเองทำแคมเปญ #ฟังแล้วนำไปตรวจสอบ โดยไม่ต้องแชร์ในโซเชียลมีเดียใดๆ ก็ได้ แค่ทำเป็นจดหมายเวียนในองค์กรเท่านั้นก็ถือเป็นพระคุณอย่างสูงแล้วจ้ะ  

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising