แฟนๆ ทีมฟุตบอลสโมสรลิเวอร์พูลในประเทศไทยมีอยู่จำนวนมาก แต่สิ่งที่คนไม่ค่อยรู้คือเบื้องหลังการบริหารของผู้จัดการทีมที่ชื่อว่า เจอร์เกน คลอปป์ ที่หลายคนยกย่องในเรื่องความเป็นผู้นำ การใช้จิตวิทยา และบุคลิกที่น่าเกรงขาม
เขาคือคนที่ทำให้ทีมลิเวอร์พูลกลับมายิ่งใหญ่และคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 6
เราจะเรียนรู้อะไรจากการบริหารทีมฟุตบอลเพื่อนำมาปรับใช้กับการทำงานได้บ้าง
เคน นครินทร์ คุยกับ เมธา พันธุ์วราทร คอลัมนิสต์และแฟนตัวยงของทีมลิเวอร์พูล เพื่อหาว่าอะไรคือเคล็ดลับความสำเร็จของ เจอร์เกน คลอปป์
1. ไว้ใจ
หนึ่งในพรสวรค์ที่สำคัญของคลอปป์คือเรื่องของความไว้เนื้อเชื่อใจ ที่เริ่มจากเขาและถูกส่งต่อถึงคนที่ทำงานด้วย
“ผมไม่ใช่คนแบบวันแมนโชว์ ผมไม่เคยเป็นคนแบบนั้นเลยตลอดชีวิต และผมก็ไม่อยากจะเป็นคนแบบนั้น บทเรียนที่ดีที่สุดที่เราจะได้เรียนรู้ในแต่ละวัน คือการได้พูดคุยกับคนที่ฉลาดๆ เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขารู้มากกว่าที่เรารู้”
ก่อนการแถลงข่าวเปิดตัวคลอปป์เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2015 ทีมงานมีการประชุมเพื่อวางแผนสื่อและถามคลอปป์ว่า ปกติแล้วเขามีสิ่งที่อยากกำหนดทิศทางเพื่อรับมือกับสื่ออย่างไร เช่น คำถามที่อยากให้ถาม คำถามที่ไม่อยากตอบ คลอปป์บอกกับทีมงานแค่ว่า “ไม่เป็นไร” และปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทีมงาน
คลอปป์เชื่อใจทุกคนแม้กระทั่งนักฟุตบอลที่ไม่น่าเชื่อใจมากที่สุดหลายๆ คน ยกตัวอย่างเช่น อัลแบร์โต โมเรโน, เดยัน ลอฟเรน, ดิว็อค โอริกี้ หรือแม้แต่ ลอริส คาริอุส ที่แฟนๆ ไม่ค่อยชอบ แต่คลอปป์ไม่เคยไม่เชื่อใจนักเตะเหล่านี้ กลับให้กำลังใจและให้โอกาส สุดท้ายนักเตะเหล่านี้ก็ตอบแทนความไว้ใจให้
2. ใส่ใจ
คลอปป์เป็นคนที่ใส่ใจคนรอบกายทุกคนอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นสตาฟฟ์หรือนักฟุตบอล
คลอปป์จะถามถึงสารทุกข์สุขดิบ ความเป็นอยู่ ชีวิตในเวลานี้ ความรักเป็นอย่างไร นอนหลับดีไหม เพราะสำหรับคลอปป์ ฟุตบอลไม่ใช่สิ่งสุดท้ายของชีวิต การดำเนินชีวิตต่างหากที่เป็นสิ่งสุดท้ายจริงๆ
มีครั้งหนึ่งที่สตาฟฟ์ไม่รู้ว่านักเตะในทีมอย่าง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กำลังจะได้เป็นพ่อคน จนคลอปป์ถึงกับโวยว่า “ไม่รู้ได้อย่างไร นี่มันเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาเลยนะ”
คลอปป์สร้างสถานการณ์ที่ ‘ทุกคนรู้สึกได้ว่าเขาคือคนสำคัญ’ มีความสุข รู้หน้าที่ ได้รับความเคารพจากคนอื่น รู้สึกเป็นที่ต้องการ ซึ่งคลอปป์มองว่าชีวิตคนเราจริงๆ มันควรจะเป็นไปในแบบนี้
3. ก้มหน้าทำงาน
คลอปป์เป็นผู้จัดการทีมที่เชื่อในเรื่องคุณค่าของการทำงานหนัก ความตั้งใจจะนำมาซึ่งความสำเร็จ
ทุกครั้งที่ทีมผิดพลาดจนนำไปสู่ความพ่ายแพ้ สิ่งที่คลอปป์ทำไม่ใช่การเรียกลูกทีมมาตำหนิหรือโทษฟ้าโทษฝน แต่คือการนำลูกทีมกลับมาตั้งใจซ้อมใหม่ ก้มหน้าก้มตาทำงานกันต่อไป
กว่าจะเล่นได้แบบทุกวันนี้ ลิเวอร์พูลประสบปัญหาทางแท็กติกการเล่นมากมาย เช่น ช่วงแรกเน้น Gegenpressing อย่างหนัก สุดท้ายเครื่องพัง หรือเกมรับมีปัญหาอย่างหนัก แต่ทุกอย่างเมื่อผ่านไปก็สามารถแก้ไขได้
“ทุกโอกาสที่พลาดไปไม่ใช่ความล้มเหลว แต่คือข้อมูลที่มีประโยชน์ เอาข้อมูลมาปรับใช้แล้วพยายามใหม่อีกครั้ง”
4. มั่นคงไม่ไหวหวั่น
จุดแข็งที่ดีมากๆ ของคลอปป์คือ การเป็นคนที่มีความมั่นคงสูง
บางครั้งอาจจะดูเหมือนดื้อที่ยึดมั่นในระบบการเล่น หรือสไตล์การเล่นของตัวเองอย่างมาก ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงอะไรง่ายๆ ทั้งๆ ที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนัก แต่การที่คลอปป์ทำแบบนั้นเพราะเขาเชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองและทีมงานคิดมาเป็นอย่างดีแล้ว
เขารู้ดีที่สุดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ เขาไม่สนใจความคิดเห็นจากกระแสสังคม สื่อ หรือแฟนบอล
“ขอเพียงแค่มีแผนเดียว พูดแบบเดียว เชื่อแบบเดียว มันอาจจะไม่สมบูรณ์แบบเสมอไป เพราะเราเองก็ไม่สมบูรณ์แบบ แต่นี่แหละคือทางของเรา”
ถ้าจะมีใครสักคนที่จะทำให้เขาเปลี่ยนใจได้ก็มีแค่ตัวเขาเอง เหมือนที่ลิเวอร์พูลเปลี่ยนสไตล์การเล่นในฤดูกาลนี้ มีเกมรับที่แข็งแกร่งเพราะมี 2 เกมคือ เกมที่เจอโรมาและแมนฯ ซิตี้ ที่เสียประตู 2 และ 3 ลูกตามลำดับในช่วงท้ายเกม ทำให้คลอปป์เชื่อว่าเขาต้องปรับแผนใหม่ให้เกมรับต้องมั่นคงขึ้น หนึ่งในทางแก้คือ การหาผู้รักษาประตูใหม่อย่าง อลิสสัน
5. เอกจิตวิทยา โทการสื่อสาร
ความสามารถทางการใช้จิตวิทยาในการคุมทีมของคลอปป์สูงมากเป็นลำดับต้นๆ ของวงการ
หนึ่งในคำพูดที่สำคัญที่สุดของคลอปป์เกิดขึ้นในวันเปิดตัวคุมทีมลิเวอร์พูล เมื่อได้พูดประโยคหนึ่งว่า “We have to change from doubters to believers. Now.”
คลอปป์วิเคราะห์จิตใจของผู้เล่นได้ว่า บางครั้งอาจจะกดดันตัวเองมากเกินไป เช่น กรณีของ ซาดิโอ มาเน ที่เล่นเหมือนกดดันตัวเองที่ยิงประตูไม่ได้ ทั้งๆ ที่เกมโดยรวมทำได้ดี คลอปป์จะเป็นคนบอกให้ไม่ต้องกังวล เล่นอย่างที่เคยเล่น ทุกอย่างจะกลับมาเอง
เมื่อปี 2018 คูตินโญพยายามย้ายออกจากลิเวอร์พูล โดยหนึ่งในความพยายามคือการพูดคุยกับนักเตะแกนนำทีมเพื่อช่วยกล่อมให้คลอปป์ปล่อยตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่คลอปป์ไม่ชอบ สุดท้ายหลังคูตินโญย้ายไปแล้ว สิ่งแรกที่คลอปป์ทำคือการเรียกลูกทีมมารวมกันในห้องแต่งตัวที่สนามซ้อม แล้วบอกว่าถึงคูตินโญจะเป็นนักเตะที่เก่ง เป็นเพื่อนที่ดี แต่เขาย้ายไปแล้วก็จบแค่นั้น เขาไม่อนุญาตให้ใครในทีมพูดถึงว่าการย้ายทีมครั้งนี้จะกระทบต่อผลงานของทีม เพราะถ้านักเตะใช้ข้ออ้างการย้ายไปของคูตินโญปกป้องผลงานที่แย่ของทีม เท่ากับทีมได้อ่อนแอแล้ว
ในสถานการณ์ลุ้นแชมป์ที่ทีมกำลังเริ่มถูกคาดหวังและมีความกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ คลอปป์จะรีบโยนความกดดันออกทันที เช่น บอกว่าทีมลุ้นแชมป์ไม่ได้มีแค่ 2 ทีม หรือการบอกว่าเขาคิดว่าทีมอย่างแมนฯ ซิตี้จะชนะทุกนัดที่เหลือ ส่วนทีมของเขามองกันที่นัดต่อนัด
สามารถฟังพอดแคสต์ The Secret Sauce
ผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ที่คุณสะดวกหรือใช้อยู่แล้วได้เลย
Credits
The Host นครินทร์ วนกิจไพบลูย์
The Guest เมธา พันธุ์วราทร
Show Creator นครินทร์ วนกิจไพบูลย์
Show Producers เชษฐพงศ์ ชูประดิษฐ์, ปวริศา ตั้งตุลานนท์
Episode Editor เชษฐพงศ์ ชูประดิษฐ์
Sound Designer & Engineer กฤตพล จียะเกียรติ
Marketing & Coordinator อภิสิทธิ์ หรรษาภิรมย์โชค
Art Director อนงค์นาฏ วิวัฒนานนท์
Proofreader พรนภัส ชำนาญค้า
Webmaster รพีพรรณ เกตุสมพงษ์