×

เปิดมุมมองเรื่องความสวยความงามกับ จูเน่-เพลินพิชญา โกมลารชุน

29.07.2020
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 mins. read
  • เปิดมุมมองเรื่องความสวยความงามกับ จูเน่-เพลินพิชญา โกมลารชุน สาวน้อยที่ค่อยๆ เติบโตทางความคิด และเรียนรู้ที่จะพัฒนาความสวยด้วยการเอาใจใส่ตัวเองจากภายในสู่ภายนอก  

เชื่อว่ามีหลายคนตั้งตารอชมผลงานการแสดงของ จูเน่-เพลินพิชญา โกมลารชุน ซึ่งหลังจากที่เธอประกาศจบการศึกษาจากการเป็นสมาชิกวง BNK48 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตอนนี้เธอก็มีผลงานใหม่อย่าง ฉลาดเกมส์โกงเดอะซีรีส์ ในบท ลิน ที่น่าติดตามมากๆ ในตอนนี้ THE STANDARD POP มีโอกาสได้เจอเธอทั้งที จึงอยากชวนจูเน่มาคุยในมุมของเรื่องความสวยความงามกันบ้าง ซึ่งเราก็เพิ่งรู้ว่าเธอคือหน่ึงในคนที่รักสวยรักงามสุดๆ แถมยังแสดงมุมมองเรื่องความสวยผ่านความคิดเชิงบวกที่น่าสนใจอีกด้วย ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านเรื่องราวความงามของเธอกันเลย 

 

 

คะแนนรักสวยรักงามที่มีต่อตัวเอง

ถ้าต้องให้คะแนนความรักสวยรักงามตัวเอง เน่ให้ตัวเองคะแนนเต็มสิบเลยค่ะ (หัวเราะ) หลักๆ คือก็ได้มาจากคุณแม่ เพราะคุณแม่ก็เป็นแฟชั่นนิสต้ามาก่อน แล้วตอนเด็กๆ เน่ก็จะเริ่มสนใจความสวยความงามตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว และชอบแต่งตัวด้วย จะเป็นเด็กที่มีความอยากสวย อยากเข้าวงการบันเทิง อยากเป็นดารา คือมีความมุ่งมั่นชัดเจนมาก แล้วมันทำให้เน่สนใจทุกอย่างที่เกี่ยวกับเรื่องความงาม ทำให้ชอบแสวงหาไอเท็มต่างๆ มาแต่งเติมเสริมสวยอยู่เรื่อยๆ 

 

ความเปลี่ยนแปลงหลังเข้าวงการ

ก่อนเข้าวงการเน่เป็นคนรักสวยรักงามอยู่แล้ว พอเข้าวงการมาเลยรู้สึกว่ามันปรับตัวง่ายกว่าคนที่เขาอาจจะไม่เคยสนใจเรื่องความสวยความงามเลย ทำให้การดูแลตัวเองทั้งรูปร่าง เสื้อผ้าหน้าผม มันไม่ได้เป็นกิจวัตรที่เรารู้สึกว่าเหนื่อยที่ต้องทำ แต่ก็ยอมรับว่าพอเข้าวงการมาแบบนี้ก็ต้องเพิ่มการดูแลตัวเองมากขึ้นเป็นพิเศษ เช่น มีการไปหาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ มีการไปทำทรีตเมนต์บำรุงผิว เรียกว่ามีการดูแลตัวเองเรื่องความสวยความงามที่สม่ำเสมอขึ้น มันเหมือนเราต้องมีความรับผิดชอบต่องานที่เราทำ และการดูแลตัวเองก็เป็นส่วนหนึ่งของงานเหมือนกันค่ะ

 

 

Beauty Tips ยามเช้าของจูเน่ 

ทุกเช้าหลังตื่นนอน อย่างแรกที่เน่ทำคือจะดื่มน้ำก่อนเลยค่ะ เป็นคนชอบดื่มน้ำเปล่า และก่อนนอนก็จะดื่ม แต่หลังๆ เพิ่งมาค้นพบทริกดีๆ ว่าเราไม่ควรดื่มน้ำเยอะเกินไปก่อนนอน คนท่ัวไปอาจเคยเข้าใจว่าการดื่มน้ำเยอะๆ ก่อนนอนจะไปช่วยซ่อมแซมร่างกายของเราให้มีความชุ่มชื้นในระหว่าง 8 ชั่วโมงที่เราจะนอนหลับ แต่มันก็กลายเป็นว่าพอตื่นเช้ามาเราก็ต้องรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำ หรือบางคืนเราจำเป็นต้องตื่นมากลางดึกเพื่อลุกไปเข้าห้องน้ำ มันทำให้การนอนหลับของเราไม่มีคุณภาพ ไม่ Deep Sleep เน่เพิ่งได้คุยกับคุณหมอมาแล้วก็พบว่าวิธีที่ดีคือเราไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำให้เยอะเกินไป เราอาจจะแค่จิบๆ ก่อนนอนก็พอ ไม่อย่างนั้นเราจะนอนหลับไม่สนิท 

 

ขั้นตอนการดูแลผิวหน้ายามเช้า

หลังจากดื่มน้ำเสร็จก็จะล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าค่ะ บางทีก็ล้างด้วยน้ำเกลือค่ะ จะทำเป็นประจำเลย หลังจากใบหน้าสะอาดแล้วก็จะตามด้วยครีมบำรุงตามสภาพผิวของเรา ซึ่งเน่เป็นคนผิวผสมที่แพ้ง่ายด้วย ขั้นตอนการทาครีมของเน่ตอนเช้าจะทาโทนเนอร์สองตัวเพื่อช่วยเรื่องความชุ่มชื้น ปกป้องผิวให้แข็งแรง เพราะโดยพื้นฐานเน่จะค่อนข้างเป็นสิวง่ายและแพ้ง่ายด้วย จึงใช้โทนเนอร์สำหรับคนผิวแพ้ง่าย และช่วยลดรอยแดง จากนั้นก็ทาเซรั่มสูตร BHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวต่างๆ อีกตัวจะเป็นเซรั่มที่เติมความชุ่มชื้นให้ผิว แต่จะไม่บำรุงหนักๆ เท่ากับตอนกลางคืน ด้วยความที่เป็นคนผิวผสม มันก็จะมีบางช่วงที่หน้ามันอยู่ ดังนั้นเวลาแต่งหน้าตอนเช้าต้องเน้นบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นจริงๆ เน่จะวอร์มครีมก่อนทาทุกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าครีมซึมเข้าไปสู่ผิว เพราะถ้ามันไม่ซึมเนี่ย จะค้นพบเลยว่าแต่งหน้าไม่ติดทนนาน 

 

 

3 ไอเท็มที่พกติดตัวตั้งแต่เริ่มรักสวยรักงาม 

เน่จะมีประมาณ 3 ไอเท็มที่ชอบพกติดตัวมาตลอด หนึ่งคือลิปมันที่จะต้องมีเฉดสีชมพูเบาๆ สองคือที่เขียนคิ้วแบบฝุ่น เพราะเขียนง่ายและช่วยให้ได้ทรงคิ้วที่ดูเป็นธรรมชาติ สามคือคอนซีลเลอร์ค่ะ อันนี้เป็นสามไอเท็มที่เริ่มพกมาตั้งแต่ ม.ต้น หลังจากนั้นก็จะเริ่มมีสิ่งที่ตามมา เช่น แป้งฝุ่นต่างๆ ที่พกติดตัวเอาไปใช้ จุดเริ่มต้นของการเลือกไอเท็มเหล่านี้ เน่คิดว่าก็คงจะไม่ต่างจากคนอื่นๆ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากคุณแม่ เวลาเราอยู่กับโต๊ะเครื่องแป้งของคุณแม่ก็จะค้นพบเครื่องสำอางมากมาย มันน่าลอง น่าเล่นไปหมด เน่เคยเอาอายแชโดว์สีน้ำเงิน สีม่วง มาทาตาดู ลองเอาอายไลเนอร์มากรีดตาดู แล้วก็เกิดมาในยุคที่ยูทูเบอร์ดังๆ ทั้งไทยและต่างประเทศมากมายที่มาแชร์ไอเดียการแต่งหน้าต่างๆ ซึ่งมันเข้าถึงง่าย เราชอบดูเขาแต่งหน้า ก็เลยได้เรียนรู้จากช่องทางเหล่านี้ด้วย 

 

ลุคซิกเนเจอร์ของตัวเอง 

เน่ขอตั้งชื่อลุคแต่งหน้าของตัวเองว่าลุคสบายใจค่ะ เป็นลุคที่มีที่มานะคะ (หัวเราะ) คือทุกวันนี้ด้วยความที่เราก็อยู่ในวงการบันเทิง ต้องทำงาน ต้องแต่งหน้าแทบทุกวัน และมีช่างแต่งหน้ามากมายที่มาแต่งหน้าให้เรา แต่บอกตรงๆ ว่าจะหาช่างที่แต่งหน้าได้ถูกใจเน่ยากมาก อาจจะเป็นเพราะบนใบหน้าของเน่จะมีปัญหาในหลายๆ จุดที่พี่ๆ ช่างแต่งหน้าอาจจะไม่สังเกตและไม่รู้ แต่สำหรับตัวเราเองจะรู้ดีว่าเรามีปัญหาอะไรบ้าง เช่น คิ้วของเราไม่เท่ากันนะ ฝั่งนี้จะโค้งมากกว่า อีกฝั่งจะต่ำกว่า แล้วตาเราเนี่ย ฝั่งขวาจะตาตกมากกว่าฝั่งซ้าย จมูกฝั่งขวาจะบานกว่าฝั่งซ้าย เน่เป็นคนที่สังเกตรายละเอียดบนใบหน้าของตัวเองละเอียดมาก ทำให้การแต่งหน้าให้ตัวเองเป็นที่มาของลุคสบายใจ เพราะเราจะแก้ไขและอำพรางจุดบกพร่องบนใบหน้าของตัวเองได้ เราแก้ไขมันได้อย่างตรงจุด ก็เลยกลายเป็นลุคที่แต่งแล้วสบายใจจริงๆ ค่ะ ซึ่งไอเท็มหลักๆ ที่ใช้แต่งลุคสบายใจคือคุชชัน ลิปสติกกับแก้มใช้อันเดียวกันเลย ที่เขียนคิ้ว และเป็นคนที่ชอบให้ขนตาเด้งขึ้น ก็เลยไปลิฟต์ขนตา มันจะได้เด้งสวยตลอดเวลา 

 

 

คิ้วคือส่วนที่ต้องให้เวลากับมันมากที่สุด

เพราะว่าการมีคิ้วกับขนตาที่สวย เน่คิดว่ามันดูดีที่สุดแล้ว ดังนั้นเน่จึงให้ความสำคัญกับการเขียนคิ้วมากๆ คิ้วจะใช้เวลาเยอะที่สุดเลย เพราะส่วนตัวจะชอบคิ้วที่เป๊ะ แต่ต้องมีความเป็นธรรมชาติ ต้องดูเป็นทรงคิ้วที่สวย แต่ต้องไม่หนาจนเกินไป เน่เลยชอบแต่งคิ้วด้วยการปัดมาสคาร่าแบบใส หรือปัดให้ขนคิ้วเรียงเส้นก็พอแล้ว ขั้นตอนการเติมคิ้วให้ดูเป็นทรงสวยเนี่ย จากพื้นฐานเดิมคิ้วจะน้อยอยู่แล้วและมีสีไม่เข้ม ก็เลยจะต้องเขียนคิ้วก่อน เน่จะชอบใช้แบบฝุ่น เพราะให้ความเป็นธรรมชาติมากที่สุด แต่จะใช้ในปริมาณที่น้อยๆ โดยจะใช้กับพู่กันเขียนคิ้วหัวตัด จะวาดหางคิ้วให้เป๊ะก่อน หางคิ้วควรจะเพรียว หัวคิ้วจะไม่หนา แทบไม่เขียนเลย แต่จะเบลนด์ให้ดูฟุ้งๆ หน่อย แล้วใช้มาสคาร่าใสปัดทับ 

 

ผู้หญิงสวยที่สุดตอนเห็นคุณค่าในตัวเอง 

เน่คิดว่าความสวยงามมันต้องมาพื้นฐานของความเป็นจริงค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสวยความงาม รวมถึงเรื่องอื่นๆ ก็ตาม อย่างที่บอกว่าชีวิตของเรามันสวยงาม มันคือการที่เรามองโลกในแง่บวก มันทำให้สิ่งที่ดูเหมือนธรรมดาสามารถกลายสิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจขึ้นมาได้ มันดูว้าวขึ้นมาได้ มันเปรียบเหมือนกับห้องหนึ่งในบ้านของเราที่เรามองเห็นมันทุกวัน อาจจะไม่ได้มองเห็นความสวยงามของมันด้วยความคุ้นเคย แต่เรากลับไปมองห้องของคนอื่นๆ ว่าทำไมสวยกว่าห้องเรา จนเราลืมที่จะหันกลับมามองสิ่งที่เรามีว่ามันก็มีคุณค่าและความสวยงามของมันเหมือนกัน 

 

 

เน่ว่ามุมมองและทัศนคติเป็นเรื่องสำคัญมากนะคะ มันเป็นพื้นฐานความคิดและจิตใจของเราที่สามารถจะต่อเติมพลังบวกให้กับตัวเอง หรือจะทำลายพลังดีๆ ของตัวเองไปก็ได้ มันอยู่ที่วิธีคิดและมุมมองเลย อย่างเน่จะรู้จักตัวเองว่าเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความสวยความงามอย่างที่บอกมาตั้งแต่ต้น ก็เลยหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะแชร์ให้ฟังว่ามันก็มีบางเวลาที่เน่จะมองตัวเองในแง่ลบเหมือนกัน ยิ่งเราอยู่ในวงการแล้วเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น มันจะเกิดความคิดเหล่านี้อยู่เรื่อยๆ จนมันมีช่วงที่เราไม่มั่นใจในตัวเองจริงๆ มันเลยทำให้ตัวเองเหมือนหลงทางไปมา จนสุดท้ายก็ค้นพบว่าการเห็นคุณค่าของตัวเองมันก็สำคัญนะ เราไม่จำเป็นต้องถ่อมตัวไปตลอด เวลามีคนชม เราก็จะถ่อมตัวว่าไม่หรอก ไม่สวยหรอก แต่รู้ไหมว่าการที่คิดว่าเราไม่สวยไปเรื่อยๆ ทำให้หลังๆ เราเริ่มคิดว่าเราไม่สวยจริงๆ 

 

เน่เลยคิดว่ามันสำคัญนะกับการรักษาสายตาที่มองเห็นคุณค่าของตัวเองเอาไว้ให้ได้ เวลามีคนชมว่าเราสวย มีเสน่ห์ เราก็ต้องคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี ไม่ต้องปฏิเสธ ก็แค่รับไว้ปกติ แล้วการที่เราสามารถคิดบวกกับตัวเองได้ เราจะเป็นคนที่มีความสุขขึ้น ซึ่งมันต้องเริ่มจากมายด์เซตที่มีกับตัวเองก่อน ดังนั้นสำหรับเน่ ผู้หญิงสวยที่สุดตอนที่มองเห็นคุณค่าในตัวเองค่ะ 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising