×

บล.ภัทร ปรับลดประมาณการ GDP ไทย จาก 1.4% เป็นติดลบ 0.4%

โดย THE STANDARD TEAM
13.03.2020
  • LOADING...

บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ปรับประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยลงอีกครั้งจาก 1.4% เป็นติดลบ 0.4% หลังการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ที่องค์การอนามัยโลกประกาศให้เป็นการระบาดครั้งใหญ่ของโลก หรือ Pandemic 

 

โดยสำหรับกรณีฐานประเมินว่า การกักกันและการสกัดการระบาดจะจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศเศรษฐกิจหลักในไตรมาสสองและไตรมาสสามของปีนี้ แต่ผลกระทบต่อไทยนั้นจะรุนแรง เพราะเศรษฐกิจไทยพึ่งพาการส่งออกและการท่องเที่ยวอย่างมาก

 

ประเด็นหลักที่มีผลต่อการประเมินการเติบโตของเศรษฐกิจ ได้แก่ การท่องเที่ยวซึ่งมีสัดส่วน 12% ใน GDP ของประเทศในปี 2019 โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาจะลดลง 50% ในไตรมาสแรกและไตรมาสสองของปีนี้ ก่อนที่จะฟื้นตัวอย่างช้าๆ ในครึ่งหลังของปี ตลอดทั้งปีจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาจะลดลง 25% ซึ่งจะมีผลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจมากกว่าที่คาดไว้ในช่วงก่อนหน้า 

 

ขณะที่เครื่องยนต์เศรษฐกิจตัวอื่นจะยังไม่เติบโตนัก จากความท้าทายที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่วนราคาน้ำมันดิบที่ลดลงอาจจะให้ทิศทางบวกเล็กน้อยต่อการเติบโตของเศรษฐกิจการท่องเที่ยวจะยังคงได้รับผลกระทบหนักในไตรมาสสอง ดังนั้นการคาดการณ์ในกรณีฐานจึงประเมินว่า เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค ซึ่งหมายถึงการหดตัวสองไตรมาสติดต่อกัน อีกทั้งคาดการฟื้นตัวจะอยู่ในรูปตัวยู (U Shape) ขณะที่กิจกรรมทางการท่องเที่ยวและกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะค่อยๆ กลับสู่ภาวะปกติในครึ่งหลังของปี

 

จากเศรษฐกิจที่ตกต่ำและจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดลงดอกเบี้ยนโยบายลงที่ระดับ 0% จึงคาดว่าในการประชุมครั้งต่อไปวันที่ 25 มีนาคม 2563 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% ลงไปที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.75% อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแนวทางการดำเนินนโยบายอย่างระมัดระวังของ กนง. จึงไม่คาดว่าหลังจากนั้น กนง. จะลดดอกเบี้ยอีก

 

ทั้งนี้สิ่งที่ควรให้ความสำคัญคือการใช้มาตรการให้ความช่วยเหลือด้านสินเชื่อแบบเฉพาะกลุ่มและการเสริมสภาพคล่องเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาสภาพคล่องลุกลามไปสู่ปัญหาการล้มละลาย โดยภาครัฐควรจะมีการออกมาตรการทางการคลังแบบตรงเป้าหมายมากขึ้น เพื่อบรรเทาผลกระทบและกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

ภายใต้ข้อสมมุติกรณีที่เศรษฐกิจโลก ‘ถดถอยเล็กน้อย’ คาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวเหลือ 1.4% และคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะติดลบ 2% ในปี 2020 เพราะคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยว การส่งออก ซึ่งผลต่อเนื่องไปยังภาคเศรษฐกิจอื่นๆ และความเชื่อมั่นในประเทศ โดยคาดว่าทั้งปีการท่องเที่ยวจะหดตัว 40% (นักท่องเที่ยวที่เดินทางเขาจำนวนลดลง 16 ล้านราย) เพราะความเชื่อมั่นยังไม่ดีขึ้น ในกรณีดังกล่าว กนง. จะลดดอกเบี้ยลงสองครั้ง ครั้งละ 0.25% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยสิ้นปีอยู่ 0.50%

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจอาจหดตัวมากกว่าที่คาด หากการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสยาวนานกว่าที่คาด และการปรับลดคาดการณ์นี้ไม่ได้นำการระบาดของไวรัสในประเทศมาร่วมประเมินด้วย ซึ่งก็มีความเป็นได้ โดยในกรณีเช่นนั้น การบริโภคในประเทศจะชะลอตัวมากกว่าที่คาด ในทางตรงกันข้าม หากมาตรการกักกันและการคิดค้นยาได้ผล ก็จะเป็นปัจจัยที่ช่วยลดความกังวลของประชาชน และนักท่องเที่ยวและทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็วกว่าคาด

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising