วันนี้ (17 สิงหาคม) ที่อาคารรัฐสภา ไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ ในฐานะสมาชิกกรรมาธิการงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ในสัดส่วนของพรรคก้าวไกล ได้อภิปรายสงวนคำแปรญัตติ ในฐานะกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ในมาตรา 4 ภาพรวม โดยเสนอให้พิจารณาปรับลดงบประมาณของประเทศลง 5%
พริษฐ์ได้ตั้งข้อสังเกตว่างบประมาณปี 2566 จำนวน 3.1 ล้านล้านบาท มีลักษณะของการใช้เงินผิดจุด ยังไม่ตอบโจทย์ ไม่จำเป็น และไม่เป็นธรรม โดยยกตัวอย่างโครงการซ่อมแซมถนน และโครงการปรับปรุงแหล่งน้ำ ซึ่งรวมกันทั้งประเทศแล้วมีสัดส่วนมากกว่า 50% ของงบประมาณลงทุนทั้งหมด ว่ามีความกระจุกตัวในบางจังหวัดอย่างชัดเจน โดยในส่วนของโครงการซ่อมแซมถนนของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท พบว่า 7 จังหวัดที่ได้งบประมาณสูงสุด ได้รับงบประมาณรวมกันเป็นสัดส่วนถึง 25% ของงบประมาณซ่อมแซมถนนทั้งประเทศ ขณะที่โครงการปรับปรุงแหล่งน้ำของกรมชลประทาน 7 จังหวัดที่ได้งบประมาณสูงสุด ได้รับงบประมาณรวมกันถึง 36% ของงบประมาณปรับปรุงแหล่งน้ำของทั้งประเทศ
พริษฐ์ยังชี้ให้เห็นว่า เมื่อลงไปดูรายละเอียดในงบซ่อมถนน จะเห็นได้ว่า 7 จังหวัดที่ได้รับงบประมาณสูงสุด คือจังหวัดที่มี ส.ส. เขตมาจากพรรคที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสังกัดอยู่ทั้งหมด ขณะที่งบปรับปรุงแหล่งน้ำ จะเห็นได้ว่า 7 จังหวัดที่ได้รับงบประมาณสูงสุด คือจังหวัดที่มี ส.ส. เขตมาจากพรรคที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สังกัดอยู่ถึง 3 จาก 7 จังหวัด หรือคิดเป็น 43%
“ตัวเลขไม่โกหกใคร และคำถามที่ประชาชนอดสงสัยไม่ได้ คือรัฐบาลได้จัดสรรงบโดยคำนึงถึงความเดือดร้อนของทุกคนอย่างเป็นธรรม หรือจัดสรรงบบนพื้นฐานของผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเองกันแน่” พริษฐ์กล่าว
พริษฐ์ยังได้อภิปรายต่อไปว่า การจัดสรรงบประมาณยังขาดการจัดลำดับความสำคัญ และการคำนึงถึงปัญหาภาพใหญ่ของประเทศ มีการจัดสรรออกเป็นโครงการเล็กๆ จนกลายเป็นเบี้ยหัวแตกจำนวนมากกว่า 2,500 โครงการ ที่มากกว่า 70% เป็นโครงการที่มีมูลค่าน้อยกว่า 100 ล้านบาท และไม่มีการจัดสรรเพียงพอเพื่อเตรียมความพร้อมในการแก้ 2 วิกฤตสำคัญในอนาคต คือปัญหาสังคมสูงวัย และปัญหาภาวะโลกรวนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต