×

22 พฤษภาคม 2557 – คสช. ก่อรัฐประหารรัฐบาลเลือกตั้ง

โดย THE STANDARD TEAM
22.05.2023
  • LOADING...
รัฐประหาร

ย้อนกลับไปวันนี้เมื่อ 9 ปีที่แล้ว หรือวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำโดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก่อรัฐประหาร ยึดอำนาจรัฐบาลรักษาการของ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ซึ่งรักษาการแทน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 

 

คสช. ประกาศให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 สิ้นสุดลง และต่อมาได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 แทน

 

รัฐประหารโดย คสช. นับเป็นรัฐประหารครั้งที่ 13 ในประวัติศาสตร์ไทย เกิดขึ้นหลังวิกฤตการณ์การเมืองซึ่งเริ่มเมื่อเดือนตุลาคม 2556 เพื่อคัดค้านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ

 

ก่อนหน้านั้น 2 วัน คือ วันที่ 20 พฤษภาคม 2557 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่เวลา 03.00 น. กองทัพบกตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) และให้ยกเลิกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ตั้งขึ้น กอ.รส. ใช้วิธีการปิดควบคุมสื่อ ตรวจพิจารณาเนื้อหาบนอินเทอร์เน็ต และจัดประชุมเพื่อหาทางออกวิกฤตการณ์การเมืองของประเทศ

 

วันที่ 21-22 พฤษภาคม 2557 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ผอ.รส.) เรียกประชุมผู้แทนรัฐบาล, วุฒิสภา, คณะกรรมการการเลือกตั้ง, พรรคเพื่อไทย, พรรคประชาธิปัตย์, นปช. และ กปปส. ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อหาข้อสรุปในการก้าวผ่านวิกฤตการณ์ทางการเมือง แต่ไม่อาจหาข้อสรุปได้ 

 

พล.อ. ประยุทธ์ และผู้บัญชาการเหล่าทัพ จึงประกาศกระทำรัฐประหารในที่ประชุม และควบคุมตัวผู้เข้าร่วมประชุม ยกเว้นตัวแทนวุฒิสภาและคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยนำตัวไปยังกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ซึ่งใช้เป็นกองบัญชาการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

 

คสช. ยึดอำนาจการปกครองเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ตั้งแต่เวลา 16.30 น. หลังรัฐประหารมีประกาศให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 สิ้นสุดลง ยกเว้นหมวด 2 คณะรัฐมนตรีรักษาการหมดอำนาจ ตลอดจนให้ยุบวุฒิสภา 

 

จนเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2557 มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ซึ่งให้มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติทำหน้าที่แทนสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และรัฐสภา วันที่ 21 สิงหาคม 2557 สภามีมติเลือก พล.อ. ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี

 

นอกจากนี้ คสช. ยังได้ดำเนินการภารกิจด้านการปฏิรูป โดยการตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ซึ่งต่อมาถูกยุบและตั้งเป็นสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) รวมถึงการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นั่นคือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ในปัจจุบัน ก่อนคืนอำนาจให้ประชาชนเลือกตั้งใหม่ในอีก 5 ปีต่อมา คือ วันที่ 24 มีนาคม 2562

 

กว่า 9 ปีหลังการยึดอำนาจโดย คสช. ประเทศไทยอยู่ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ ภายใต้กลไก กติกา และ ส.ว. แต่งตั้ง 250 คน ซึ่งมีอำนาจร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีตามบทเฉพาะกาล 5 ปีแรกนับแต่มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ พล.อ. ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 หลังการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562

 

พล.อ. ประยุทธ์ ประกาศเดินหน้าอาสาเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 3 โดยลงสนามเลือกตั้งเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ทว่าผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 พรรครวมไทยสร้างชาติได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร 36 ที่นั่ง จาก 500 ที่นั่ง แม้จะเพียงพอสำหรับการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีเพื่อให้รัฐสภาโหวตลงมติ แต่ยังต้องจับตาว่าจะมีเสียงสนับสนุนเพียงพอสำหรับส่ง พล.อ. ประยุทธ์ ขึ้นสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรีสมัยที่ 3 ได้หรือไม่

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising