ยังคงสร้างคอนเทนต์ที่ดังเปรี้ยงปร้างออกมาอย่างต่อเนื่องสำหรับ Netflix ยักษ์ใหญ่ด้านวิดีโอสตรีมมิง ที่เพิ่งโชว์ผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2021 ซึ่งทำได้เกินความคาดหมาย ทั้งรายได้ที่ทำได้ 7.48 พันล้านดอลลาร์ กับจำนวนสมาชิกใหม่ 4.4 ล้านราย ซึ่งเดิมนักวิเคราะห์ประเมินว่า จะเพิ่มขึ้นเพียง 3.84 ล้านรายเท่านั้น
Netflix ซึ่งเพิ่งเปิดตัว ‘Squid Game’ กลายเป็นปรากฏการณ์ทั่วโลก และมีรายงานว่าสร้างมูลค่า 900 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 3 หมื่นล้านบาทให้กับบริษัท และสร้างกระแสอื่นๆ ให้เพิ่มขึ้นอีกมากมาย
ท่ามกลางคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสะท้อนความนิยมจากผู้บริโภค ในอีกฟากหนึ่ง ‘ราคาหุ้น’ ก็สะท้อนความพึงพอใจจากฝั่งนักลงทุนเช่นเดียวกัน
ตามการคำนวณของ CNBC พบว่า หากคุณลงทุน 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 33,120 บาท (อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐเท่ากับ 33.12 บาท ณ วันที่ 25 ตุลาคม 2021) ใน Netflix เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2011 ที่ราคาหุ้น 15.63 ดอลลาร์ มูลค่าตลาดของหุ้นของคุณจะอยู่ที่ 40,430 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.34 ล้านบาทในวันที่ 19 ตุลาคม 2021 ซึ่งเป็นเวลาที่ผ่านมา 10 ปีด้วยกัน
ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนการเติบโตกว่า 3,900% ซึ่งนี่ถือเป็นผลตอบแทนที่มากกว่าการลงทุนในดัชนี S&P 500 ที่จะได้รับผลตอบแทน 356.8% ในช่วงเวลาเดียวกัน และจะมีมูลค่าประมาณ 4,568 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะเดียวกัน Market Cap ของ Netflix ได้เพิ่มขึ้นจาก 5.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.9 แสนล้านบาท เป็น 2.79 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 9.24 ล้านล้านบาท
ราคาหุ้นของ Netflix เพิ่มขึ้นควบคู่การเติบโตของจำนวนลูกค้า มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากบริการความบันเทิงยอดนิยมไปสู่แพลตฟอร์มสตรีมมิงที่โดดเด่น ซึ่งมีการใช้งานในกว่า 190 ประเทศ
ณ สิ้นปี 2011 Netflix มีสมาชิก 23.5 ล้านราย ขณะที่ผลประกอบการที่เพิ่งเปิดเผยออกมาระบุว่า ขณะนี้ Netflix มีผู้ใช้บริการที่ชำระเงินแล้วประมาณ 214 ล้านราย และคาดว่าจะเพิ่มอีก 8.5 ล้านรายในไตรมาสหน้า ซึ่งคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อที่พอจะทาบรัศมีกันได้คือ Disney+ ที่มีจำนวนสมาชิก 116 ล้านคน
ย้อนกลับไป Netflix เปิดตัว Original Content รายการแรกคือ House of Cards ในปี 2013 และตอนนี้มีรายการและภาพยนตร์ที่เป็น Original Content กว่า 6,000 รายการเมื่อต้นปีนี้ บริษัทกล่าวว่ามีแผนที่จะใช้จ่ายเงิน 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 5.6 แสนล้านบาท สำหรับลงทุนใน Original Content ประจำปี 2021
“เราอยู่ในดินแดนที่ไม่คุ้นเคย” รีด แฮสติงส์ ซีอีโอร่วมของ Netflix กล่าวในระหว่างแถลงผลประกอบการไตรมาส 3/2021 “เรามีเนื้อหามากมายที่มาในไตรมาสที่ 4 อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้นเราจะต้องผ่านมันไปให้ได้ และเราหวังว่าปีหน้าก็จะเป็นปีที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน”
ขณะเดียวกัน Netflix กำลังเข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่ๆ ซึ่งล่าสุดได้มีการบอกกับนักลงทุนว่าได้เริ่มผลักดันวิดีโอเกมในบางประเทศแล้ว ถึงแม้ว่า “มันยังคงเป็นวันแรกสำหรับความคิดริเริ่มนี้”
กระนั้นความสำเร็จของ Netflix ไม่ได้มาโดยปราศจากความล้มเหลว ขณะนี้ Netflix ได้ถูกวิจารณ์โดยพนักงานบางคน เช่นเดียวกับ GLAAD และกลุ่มผู้สนับสนุน LGBTQ+ สำหรับเรื่อง Dave Chapelle ซึ่งถูกระบุว่าเป็นการเหยียดเพศ นอกจากนี้ Netflix เพิ่งไล่พนักงานออกเนื่องจากถูกกล่าวหาว่าเปิดเผยข้อมูลความลับให้กับ Bloomberg
แม้ว่าหุ้นของ Netflix จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่หุ้นแต่ละตัวก็สามารถทำผลงานได้เหนือกว่าหรือต่ำกว่ามาตรฐาน และผลตอบแทนในอดีตไม่ได้คาดการณ์ถึงผลลัพธ์ในอนาคต นักลงทุนตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ศึกษาตัวเลือกของคุณอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Netflix คาดการณ์ว่า Squid Game จะสร้าง Impact Value สูงถึงเกือบ 3 หมื่นล้านบาท เป็นมูลค่าที่เกือบเท่ากับ ‘สตาร์ทอัพยูนิคอร์น’ เลยทีเดียว
- จาก K-Pop สู่ ‘Squid Game’ เจาะวิธีที่ ‘อุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีใต้’ ใช้ Soft Power เข้ามาเป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ
- นอกจากคนดูจะชอบแล้ว ‘Squid Game’ จาก Netflix ยังโดนใจ ‘นักลงทุน’ พาหุ้นที่เกี่ยวข้องพุ่งกระฉูด
- Squid Game บทพิสูจน์ข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดของ Netflix ในสงครามสตรีมมิง นั่นคือ ‘ซีรีส์ภาษาต่างประเทศ’
อ้างอิง:
- https://www.cnbc.com/2021/10/20/how-much-money-youd-have-if-you-invested-1000-dollars-in-netflix-10-years-ago.html
- https://www.cnbc.com/2021/10/19/netflix-nflx-q3-2021-earnings.html
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP