×

เลือกตั้ง 2566 : ป.ป.ช. เตรียมตรวจสอบ ‘พิธา’ ค้ำประกันหนี้ หากมีคนร้องเรียน ส่วนขาดคุณสมบัติ ส.ส. หรือไม่ กกต. อยู่ระหว่างการพิจารณา

โดย THE STANDARD TEAM
09.06.2023
  • LOADING...

วันนี้ (9 มิถุนายน) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) นิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยความคืบหน้าการแจ้งบัญชีทรัพย์สินของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กรณีการค้ำประกันเงินกู้ 460 ล้านบาท ว่าทาง ป.ป.ช. ได้ตรวจสอบพบว่า พิธาได้เคยยื่นการค้ำประกันเงินกู้เข้ามา 1 ก้อนมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นก้อนเดียวกันหรือไม่ ต้องขอเวลาตรวจสอบก่อนว่าเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาจากการตรวจสอบของ ป.ป.ช. ยังไม่เคยมีใครร้องเรียนเรื่องนี้เข้ามา 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่มีการตั้งคำถามว่า เมื่อมีการค้ำประกันแล้วไม่ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินจะมีความผิดหรือไม่นั้น นิวัติไชยกล่าวว่า การค้ำประกันถือว่ายังไม่มีหนี้ที่เกิดขึ้นจริง แต่เป็นเพียงสิทธิ์จากการกู้ยืมเงิน หากลูกหนี้ตัวจริงผิดนัดชำระก็จะไปเรียกจากคนค้ำประกันที่ต้องเป็นคนรับผิดชอบ แต่ตอนนี้เป็นสิทธิ์ของลูกหนี้กับผู้ค้ำประกันเท่านั้นเอง ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ ป.ป.ช. ต้องพิจารณาว่าจำเป็นต้องยื่นรายการนี้ด้วยหรือไม่ แต่การตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่าพิธาเคยยื่นมา 1 บัญชีเกี่ยวกับการค้ำประกัน  

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การยื่นบัญชีทรัพย์สินหรือการยื่นค้ำประกันในลักษณะดังกล่าวหลังรับตำแหน่ง ส.ส. ต้องยื่นภายหลังหรือไม่ นิวัติไชยกล่าวว่า หากยื่นบัญชีทรัพย์สินไปแล้วก็ไม่จำเป็นต้องมาแจ้ง เว้นแต่ยื่นในกรณีพ้นจากตำแหน่งภายใน 30 วัน เพราะกฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่าให้ยื่นเฉพาะรับตำแหน่งกับพ้นตำแหน่งเท่านั้น แต่ระหว่างที่ดำรงตำแหน่ง หากมีความผิดปกติก็เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. ที่ต้องตรวจสอบที่มาของรายได้และหนี้สิน 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จากนี้จะมีการเรียกพิธาเข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่ นิวัติไชยกล่าวว่า การตรวจสอบก็เป็นไปตามขั้นตอนปกติ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล เช่น ถ้ามีการยื่นบัญชีทรัพย์สินเข้ามาก็ต้องดูว่าเป็นทรัพย์สินจริงหรือไม่ เป็นของใคร ส่วนจะมีปัญหาในภายหลังหรือไม่ ตนยังตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ป.ป.ช.

 

นิวัติไชยยังได้กล่าวถึงกรณีการถือหุ้น ITV ของพิธานั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นนั้นเป็นชื่อของพิธาจริง ถือครองหุ้นอยู่ 4.2 หมื่นหุ้น มูลค่า 4 หมื่นกว่าบาท ซึ่งต้องตรวจสอบอีกครั้งว่ายื่นมาในฐานะอะไร เนื่องจากว่ามีรายงานว่าเป็นผู้จัดการมรดก โดยตามกฎหมายหากเป็นเจ้าของก็ต้องยื่น ส่วนกรณีหากมีการยื่นในภายหลังอาจจะเข้าข่ายความผิดหรือไม่ก็ต้องดูที่เจตนา ตนไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องมีเรื่องเจตนาและระยะเวลา ขณะที่การตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าได้ยื่นบัญชีดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2562 เป็นการยื่นเพิ่มเติมภายหลังเข้ารับตำแหน่งแล้ว ไม่ใช่เป็นการยื่นหลังมีประเด็นแล้ว 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การถือหุ้นของพิธาจะต้องระบุประเภทกิจการการหรือไม่ นิวัติไชยกล่าวว่า มันระบุอยู่ในใบหุ้นอยู่แล้ว  

 

“หน้าที่หรือคุณสมบัติต้องห้าม ไม่ใช่หน้าที่โดยตรงของ ป.ป.ช. แต่ ป.ป.ช. มีหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของการมีอยู่จริงของทรัพย์สิน ถ้ามีอยู่แล้วยื่นมาก็ถือว่าไม่ได้มีเจตนาปกปิด แต่ถ้ามีแล้วไม่ยื่นก็ถือว่ามีเจตนาหรือจงใจปกปิด ส่วนหลังตรวจสอบแล้วบัญชีทรัพย์สินนั้นจะขัดกับคุณสมบัติการเป็น ส.ส. หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบของ กกต. ซึ่ง กกต. รับทราบและอยู่ระหว่างการพิจารณา” นิวัติไชยกล่าว

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising