วันนี้ (12 พฤษภาคม) ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ กล่าวถึงกรณีที่ ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ให้ข้อมูลที่พาดพิงถึงพรรคก้าวไกล กรณีให้ความเห็นในการดำเนินกิจกรรมภายใต้ #ตามหาความจริง และถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า พรรณิการ์ วานิช และคณะก้าวหน้า ครอบงำหรือควบคุมกิจกรรมทางการเมืองนั้นอาจเข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง โดยมีโทษถึงยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคว่า (https://thestandard.co/pprp-mp-asked-moving-forward-party-to-stop-provoking-with-progressive-movement/)
กรณีนี้ตนคิดว่าสิ่งที่พรรคก้าวไกลในฐานะพรรคการเมืองซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนมีสิทธิ์ทวงคืนความยุติธรรมที่มีเงื่อนงำมาสิบปี การเปิดเผยข้อเท็จจริงกรณีการสูญเสียจากเหตุการณ์ชุมนุมในเดือนพฤษภาคม ปี 2553 เป็นสิ่งที่ควรทำ สังคมต้องไม่ลืมความรุนแรงที่เกิดขึ้น ตลอดสิบปีที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตยังไม่เคยได้รับความเป็นธรรม นักโทษคดีการเมืองที่ออกมาเรียกร้องตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ยังคงถูกจองจำอย่างไม่มีวันรู้เลยว่าชะตากรรมของตนจะเป็นอย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ไม่ต้องฝักใฝ่ฝ่ายใด จิตใต้สำนึกความเป็นมนุษย์ทั่วไปน่าจะคิดได้ว่ามันไม่ปกติ คุณทิพานันต้องการให้ประเทศเดินหน้าแบบไหนกัน ในขณะที่เผด็จการซ่อนขยะเหม็นเน่าไว้ใต้พรมมาเป็นเวลาสิบปี
เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเริ่มต้นจากความอยุติธรรมในบ้านเมืองนี้ แต่จบด้วยความสูญเสียที่ต้องแลกด้วยชีวิตคนบริสุทธิ์ 99 ศพ วันนี้การทวงถามความจริงไม่ใช่หน้าที่ของพรรคก้าวไกลหรือคณะก้าวหน้า แต่ควรเป็นหน้าที่คนในชาติด้วยซ้ำ
ประเด็นการยุบพรรคที่คุณทิพานันกล่าวนั้น หากจะยุบเพราะพวกเราทวงถามความเป็นธรรมให้ชีวิตผู้บริสุทธิ์แล้ว มันน่าสังเวชกว่ากรณีเงินบริจาคเท่ากับเงินกู้ของพรรคอนาคตใหม่เสียอีก
อย่างไรก็ตาม ณัฐชากล่าวว่าพวกคุณไม่สามารถปิดปากคนอื่นเพียงเพราะไม่อยากรู้ความจริงได้อีกต่อไป อยากฝากให้เผด็จการทั้งหลายหัดเห็นหัวประชาชนเสียบ้าง และการที่ ส.ส. พรรคก้าวไกลออกมาร่วมสนับสนุนแคมเปญและแฮชแท็กดังกล่าว เพราะมันเป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลสืบทอดเจตนารมณ์มาจากพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบไป คือการเรียกร้องต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชน
ส่วนประเด็นที่ว่าพรรณิการ์และคณะก้าวหน้าครอบงำพรรคก้าวไกลนั้นตลกมาก ไม่มีใครครอบงำเราได้ เพราะเราคือสายเลือดเดียวกันที่บอบช้ำจากการทำร้ายของศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้เราต้องเลือกปกป้องสิทธิและเรียกร้องเสรีภาพเหมือนกัน เพียงแต่ตนยังเป็น ส.ส. ก็ทำหน้าที่ขับเคลื่อนในสภา ส่วนคณะก้าวหน้าก็ดำเนินงานนอกสภาเพื่อความเป็นธรรมของสังคม กรณีนี้ดูเหมือนพรรครัฐบาลต้องการชี้ช่องให้อำนาจเดิมๆ เล่นงาน เล่นสกปรกทางการเมือง เรามาช่วยกันแก้ไขประเทศชาติจะดีกว่า ให้ผ่านวิกฤตโควิด-19 แล้วจะยุบหรือไม่ยุบให้ประชาชนเป็นคนตัดสินใจ เพราะสิ่งที่รัฐบาลบริหารประเทศที่ผ่านมามันสะท้อนให้ประชาชนเห็นอยู่แล้ว หากทำดี ประชาชนจะอยู่ข้างเราเอง พรรคก้าวไกลพร้อมอยู่เคียงข้างประชาชน
ณัฐชากล่าวว่าพรรคก้าวไกลคือประชาชน เรามีสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่จะหาความจริง อย่างน้อยเพื่อปกป้องศักดิ์และศรีของวีรชนที่สละชีวิต
ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยจากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ที่ https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
