MONIX เปิดแผนรุกสินเชื่อดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชันฟินนิกซ์ ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 2.5 หมื่นล้านบาท ผ่านกลยุทธ์ ‘อีโคซิสเต็ม F.I.R.E.’ หวังชิงส่วนแบ่งตลาดขึ้นไปอยู่ Top 3 เตรียมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายในปี 2568 หวังสร้างการเติบโต
ถิรนันท์ อรุณวัฒนกูล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท มันนิกซ์ จำกัด ฉายภาพถึงแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจและภาคแรงงานในปี 2566 เริ่มฟื้นตัว ขณะเดียวกันความต้องการสินเชื่อก็เพิ่มขึ้น ทำให้แอปเงินกู้ถูกกฎหมายได้รับการตอบรับจากกลุ่มคนที่ต้องการเสริมสภาพคล่อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- แอป ‘ฟินนิกซ์’ ตั้งเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ปีนี้โตอีก 2 เท่า หลังยอดปล่อยสินเชื่อปีที่ผ่านมาโตกว่า 700%
- MONIX เผยยอดสินเชื่อนาโนฯ ปี 64 โตทะลุเป้าที่ 6,000 ล้าน เล็งใช้สินเชื่อบุคคลเจาะฐานลูกค้าเงินเดือน 3 หมื่นต่อในปีนี้
- ตลาดหุ้นน้องใหม่ไตรมาส 4 คึกคัก! 7 หุ้น IPO เตรียมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ เร็วๆ นี้
ในส่วนของการขยายตัวของตลาดนั้น ปัจจุบันภาพรวมตลาดสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์มียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ราวๆ 3.1 หมื่นล้านบาท อยู่ในอัตราสูงขึ้นเกือบ 50% และมีจำนวนผู้ให้บริการเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว อ้างอิงจากรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ MONIX ประเมินว่าปี 2566 ตลาดสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์จะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นต่อเนื่อง แต่ในมุมของผู้ประกอบการต้องระมัดระวัง รัดเข็มขัดค่าใช้จ่าย เพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ เพราะตลาดยังถืออยู่บนความเสี่ยงสูงกว่าสินเชื่อส่วนบุคคล โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่ยังไม่ดีขึ้นมากนัก
เช่นเดียวกับภาพรวมธุรกิจของ MONIX ในปี 2565 บริษัทให้บริการสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ผ่านแอป ‘ฟินนิกซ์’ (FINNIX) แอปเงินกู้ที่ให้บริการสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ และหลังจากเปิดให้บริการมานานกว่า 2 ปี ปัจจุบันมีฐานลูกค้ารวม 650,000 คน มียอดดาวน์โหลด 8 ล้านครั้ง
โดยปัจจุบันฐานลูกค้าส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 70% และต่างจังหวัด 30% จากนี้เตรียมขยายฐานลูกค้าต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นให้ได้สัดส่วนเท่ากัน
สำหรับแอป ‘ฟินนิกซ์’ (FINNIX) มีจุดแข็งคือ ระบบปฏิบัติการที่ผสานเทคโนโลยีเอไอ (AI) และแมชชีนเลิร์นนิง (ML) ช่วยประเมินความเสี่ยงของลูกค้าได้รวดเร็วและแม่นยำ โดยผู้กู้สามารถเลือกแผนการชำระหนี้ได้ตามศักยภาพของตัวเอง และส่วนใหญ่ลูกค้าที่สมัครสินเชื่อผ่านแอปฟินนิกซ์เป็นกลุ่มอาชีพอิสระ มีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 8,000-10,000 บาทต่อเดือน
และปัจจุบันบริษัทอนุมัติสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ให้ลูกค้ากว่า 650,000 ราย คิดเป็นอัตราการเติบโตกว่า 58% มีจำนวนสินเชื่อรวม 1.5 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตกว่า 117%
โดยปี 2566 ตั้งเป้ายอดดาวน์โหลดเพิ่มขึ้น 12 ล้านราย และปล่อยสินเชื่อรวม 2.5 หมื่นล้าน และปัจจุบันบริษัทยังสามารถรักษาอัตราหนี้เสียให้อยู่ในระดับเลขหลักเดียว ซึ่งหนี้เสียต้องมีความเสี่ยงไม่เกิน 15% ดังนั้นต้องบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ
ส่วนแผนการดำเนินงานในปี 2566 MONIX ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า ผ่านกลยุทธ์การสร้างอีโคซิสเต็ม F.I.R.E. ซึ่งประกอบด้วย
- F – Finance การพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น การให้วงเงินหรือคิดดอกเบี้ยตามความเสี่ยงที่แตกต่างกันจากข้อมูลของลูกค้า เพื่อขยายฐานลูกค้าสินเชื่อเพิ่ม 1 ล้านราย 2. I – Intel เตรียมเปิดตัวรายงานสุขภาพทางการเงินในปี 2566 ซึ่งเป็นนวัตกรรม AI เข้ามารายงานสุขภาพทางการเงินเชิงลึกของผู้กู้ เพื่อช่วยสะท้อนพฤติกรรมทางการเงินของลูกค้า
- R – Reward ต่อยอดระบบเกมให้รางวัลให้หลากหลาย อาทิ การเพิ่มวงเงินพร้อมทั้งส่วนลดการซื้อสินค้าจากพันธมิตร
- E – Empowerment ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรจากสายธุรกิจอื่นๆ เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้ลูกค้าของแอปฟินนิกซ์ให้มีสภาพคล่องทางการเงิน โดยตั้งเป้าสร้างโอกาสหาอาชีพเสริมให้ลูกค้าเพิ่มเป็น 30,000 ราย
ถิรนันท์กล่าวต่ออีกว่า บริษัทมีแผนที่จะ IPO ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2568 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า ตามหลักการต้องมีกำไรติดต่อกัน 2-3 ปี ซึ่งบริษัททำได้ต่อเนื่อง แต่ต้องมีความพร้อมในด้านการวางแผนธุรกิจให้ชัดเจน เพราะบริษัทเป็นเทคฯ คอมพานี
“เป้าหมายการระดมทุนก็เมื่อถึงเวลา โดยบริษัทต้องสร้างการเติบโต และพยายามที่จะครองส่วนแบ่งทางการตลาดให้ได้ 1 ใน 3 ถือเป็นเป้าที่เราอยากไปให้ถึง แต่ก็สามารถยืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์” ถิรนันท์กล่าว