×

‘สัญญาใหม่ซาลาห์’ ปัญหาใหม่ที่เขย่าหัวใจแฟนลิเวอร์พูล

06.10.2021
  • LOADING...
โมฮาเหม็ด ซาลาห์

“ในเวลานี้เขาดีกว่า (ลิโอเนล) เมสซี และ (คริสเตียโน) โรนัลโด”

 

คำพูดดังกล่าวมาจาก คริส ซัตตัน อดีตศูนย์หน้าดาวดังของพรีเมียร์ลีกในช่วงยุค 90 ผู้เคยจับคู่กับ อลัน เชียเรอร์ พาแบล็กเบิร์น โรเวอร์ส คว้าแชมป์ประวัติศาสตร์ในฤดูกาล 1994/95 ในรหัส ‘SAS’ ซึ่งปัจจุบันเป็นนักวิเคราะห์ทางสถานีโทรทัศน์ BBC

 

โดยคนที่ได้รับคำชมคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กองหน้ากึ่งปีกที่ผลงานร้อนแรงสุดๆ ในเวลานี้ ด้วยผลงาน 9 ประตู จาก 9 เกมในฤดูกาลนี้ และเพิ่งจะแสดงให้เห็นถึงความสามารถอันเอกอุที่ทำให้สื่อทุกสำนักยกย่องว่า เวลานี้ดาวเตะทีมชาติอียิปต์นั้นได้ก้าวขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลระดับโลกของจริง และฟอร์มในปัจจุบันของเขาร้อนแรงยิ่งกว่าใครบนโลกใบนี้

 

ฟอร์มระดับนี้ของซาลาห์สมควรจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับทีมมหาอำนาจของวงการฟุตบอลอังกฤษ เพราะนั่นหมายถึงพวกเขามีโอกาสที่กลับมาลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกสมัย หลังจากที่เจอโชคเล่นงานจนขาพับขาอ่อนในฤดูกาลก่อนจากปัญหาอาการบาดเจ็บยกแผงของผู้เล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก

 

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับเป็นเครื่องหมายคำถามตัวเท่าบ้านสำหรับฝ่ายบริหารของลิเวอร์พูล โดยเฉพาะต่อกลุ่มเจ้าของสโมสร Fenway Sports Group (FSG) ว่าพวกเขาจะมีวิธีดำเนินการอย่างไรกับนักฟุตบอลที่ปฏิเสธไม่ได้แล้วว่าสำคัญที่สุดต่อทีมในเวลานี้ (และความจริงเป็นมาหลายฤดูกาลแล้ว)

 

เมื่อซาลาห์ต้องการสัญญาฉบับใหม่ที่คู่ควรกับความสามารถและความทุ่มเทของเขาเท่านั้น

 

ข้อเรียกร้องจากราชาแห่งอียิปต์

ปัจจุบันซาลาห์อยู่ในวัย 29 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่วงการฟุตบอลจะรู้กันว่า นี่คือช่วงเวลาที่นักฟุตบอลจะ ‘พีก’ ที่สุดด้วยองค์ประกอบทุกด้าน ไม่ว่าจะด้วยวัยวุฒิ คุณวุฒิ ประสบการณ์ หรือสภาพร่างกาย

 

พูดง่ายๆ คือ นาทีทองที่จะมีระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี ก่อนที่สภาพร่างกายจะเสื่อมถอยตามธรรมชาติ

 

ซาลาห์เองมั่นใจว่าเขากำลังไต่ระดับมาถึงจุดสูงสุดของชีวิตการเล่นแล้ว และประตูในเกมกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่พาบอลแหวกหลบ 4 นักเตะแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ราวกับนักมายากลเสกกระต่ายออกมาจากหมวก ก่อนจะยิงผ่านประตูฝีมือดีอย่างเอแดร์สันที่หมดสิทธิ์จะป้องกันด้วยประการทั้งปวง ก็เป็นการตอกย้ำให้ทุกคนได้รู้ถึงพรสวรรค์ในตัวของเขา

 

ประตูนี้เกิดขึ้นจากการสัมผัสบอลทั้งหมด 7 ครั้งในระยะเวลา 10 วินาทีที่ เจอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีม บอกว่า จะเป็นประตูที่ผู้คนพูดถึงไปอีก 50-60 ปีเลยทีเดียว

 

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับซาลาห์ไม่ใช่เรื่องของพรสวรรค์หรือฝีเท้าการเล่น หากแต่เป็นความเป็นมืออาชีพ ความกระหายในการเล่นที่ไม่สิ้นสุดที่ทำให้แม้จะเข้าสู่ฤดูกาลที่ 5 กับลิเวอร์พูลแล้ว (อย่างรวดเร็ว) ฟอร์มการเล่นของเขายังคงอยู่ในระดับมาตรฐานที่ยอดเยี่ยมเสมอ

 

อาจจะมีหลายช่วงเวลาที่เดอะค็อปไม่พอใจกับการเล่นของสตาร์ชาวอียิปต์ที่ดูเหมือนจะเห็นแก่ตัวเกินไป แต่สุดท้ายแล้วซาลาห์ก็จะกลับมาเรียกฟอร์มได้ทันเวลาเสมอ และหากมองไปยังผลงานในภาพรวมแล้วก็ยิ่งปฏิเสธไม่ได้ถึงความยอดเยี่ยม

 

ปัจจุบันซาลาห์ทำไปแล้ว 134 ประตู จากการลงเล่น 212 นัด หรือเฉลี่ยแล้วจะทำได้ 1 ประตูในการเล่นทุก 130 นาที และเป็นเจ้าของผู้ทำครบ 100 ประตูให้ลิเวอร์พูลได้เร็วที่สุด

 

ซาลาห์ยังเชื่อในความเป็นมืออาชีพของเขา ซึ่งหากได้สังเกตรูปร่างของเขาในฤดูกาลนี้ในการถอดเสื้อฉลองประตูบางนัด จะมองเห็นมัดกล้ามที่สวยงามที่ไม่ใช่นอนหลับฝันดีแล้วตื่นขึ้นมาจะมีรูปร่างแบบนี้เลย แต่ต้องเกิดจากการฝึกฝนตัวเองอย่างหนักและมีวินัยอย่างสูง

 

หากยังรักษาสภาพร่างกายแบบนี้ซาลาห์ เชื่อว่าเขาจะรักษาฟอร์มการเล่นระดับสูงไปได้อีกอย่างน้อยถึงวัย 34-35 ปีเป็นอย่างต่ำ

 

นั่นทำให้เขาต้องการที่จะได้รับรางวัลตอบแทนผลงานและความพยายามด้วยสัญญาฉบับใหม่ โดยจำนวนเงินที่เขาต้องการนั้น เจมส์ เพียร์ซ คนข่าวสายลิเวอร์พูล มีการแย้มผ่านการยกตัวอย่างว่า “สมมติอยู่ที่” 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

 

ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่สูง แต่ไม่ได้สูงจนเกินไป เพราะเป็นตัวเลขในระดับเดียวกับที่ซูเปอร์สตาร์พรีเมียร์ลีกได้รับ โดยตัดคนที่ได้มากที่สุดคือ โรนัลโด (510,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์) แล้วก็จะมี เควิน เดอ บรอยน์ (แมนฯ ซิตี้ 400,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์), ดาบิด เด เคอา (แมนฯ ยูไนเต็ด 375,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์), จาดอน ซานโช (แมนฯ ยูไนเต็ด 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์) และ ราฟาเอล วาราน (แมนฯ ยูไนเต็ด 340,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์)

 

The Athletic คำนวณตัวเลขแล้ว หากสมมติซาลาห์ต้องการค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 350,000 ปอนด์จริงๆ คิดแล้วเบ็ดเสร็จคือเงิน 72.8 ล้านปอนด์

 

เพียงแต่ปัญหาคือ ลิเวอร์พูลไม่เคยจ่ายเงินในระดับนี้ให้กับใครมาก่อน และผลกระทบของมันคือสิ่งที่ฝ่ายบริหารกังวล

 

หรืออาจจะไม่ได้กังวลเลยก็ไม่แน่ใจ?

 

เหตุผลที่ยังไม่มีสัญญาใหม่ให้ซาลาห์

ตามสิ่งที่ เจมส์ เพียร์ซ รายงานไว้ จุดยืนของลิเวอร์พูลชัดเจนว่า “ต้องการที่จะเก็บซาลาห์เอาไว้กับทีม” ต่อไป

 

แต่ปัญหาคือ พวกเขาไม่ต้องการที่จะทำลายเพดานโครงสร้างค่าเหนื่อยที่พยายามรักษาตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา

 

แนวทางในการสร้างทีมของลิเวอร์พูลในยุคของ FSG โดยเฉพาะในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้นเป็นแนวทางที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยพวกเขาจะไม่ซื้อนักฟุตบอลระดับซูเปอร์สตาร์สำเร็จรูป หากแต่จะมองหานักฟุตบอลฝีเท้าดีที่มีศักยภาพและแววที่จะพัฒนาขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลในระดับโลกได้ผ่านการลงทุนจำนวนไม่มากนัก

 

เมื่อนักฟุตบอลเหล่านี้ยกระดับขึ้นมาแล้วก็จะตอบแทนให้ด้วยค่าตอบแทนที่สูงขึ้นตามลำดับ และที่สำคัญคือการจ่ายค่าตอบแทนแบบ Incentive หรือการจ่ายตามผลงานผ่านการให้โบนัส เช่น จำนวนการลงสนาม จำนวนประตู จำนวนความสำเร็จ และอื่นๆ แล้วแต่จะระบุในสัญญา และนั่นทำให้ลิเวอร์พูลกลายเป็นหนึ่งในสโมสรที่จ่ายค่าเหนื่อยแก่ผู้เล่นสูงที่สุดชนิดที่แฟนบอลหลายคนงง (แต่การให้ค่าตอบแทนตามผลงานก็ชวนให้เข้าใจได้ว่าทำไมลิเวอร์พูลรักษาระดับมาตรฐานผลงานได้สม่ำเสมอ เพราะมีแรงจูงใจสูงในการเล่นนั่นเอง)

 

ที่ผ่านมา FSG ไม่มีการปฏิบัติต่อนักฟุตบอลคนใดแตกต่างเป็นพิเศษ ทุกคนได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน การเจรจาสัญญาใหม่จะเกิดขึ้นเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น จะไม่มีใครที่ได้สิทธิพิเศษในการเจรจาต่อรองผ่านการเรียกร้องหรือกดดันผ่านสื่อ (ยกเว้นรายของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีม ที่ เจอร์เกน คล็อปป์ ยื่นมือมาช่วยเป็นพิเศษ หลังการเจรจามีปัญหาไม่คืบหน้า)

 

ในช่วงปิดฤดูกาล FSG ได้จัดแจงต่อสัญญาของกลุ่มนักเตะแกนหลักหลายราย อาทิ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์,​ อลิสสัน, ฟาบินโญ, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ฯลฯ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ถูกพิจารณาแล้วว่ายังสำคัญต่อสโมสร และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ลิเวอร์พูลเสริมทัพผู้เล่นแค่รายเดียวคือ อิบราฮิมา โคนาเต

 

แต่ในรายของซาลาห์ ความยากคือข้อเรียกร้องของดาวเตะรายนี้สูงเกินกว่าเพดานค่าเหนื่อยของสโมสรมาก โดยตามข้อมูลจาก Sportac แล้วนักฟุตบอลที่ได้รับค่าตอบแทนสูงสุดในเวลานี้คือ ฟาน ไดจ์ค ในวัย 30 ปี ที่ 220,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ รองลงมาคือ ติอาโก อัลกันตารา และซาลาห์ที่ 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ เท่ากัน

 

ขณะที่ ซาดิโอ มาเน ยังได้อยู่แค่ 100,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ น้อยยิ่งกว่า นาบี เกตา หรือ อเล็กซ์ ออกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ที่เป็นตัวสำรองด้วยซ้ำไป

 

ถ้าให้ซาลาห์ที่ 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ นั่นหมายถึงโครงสร้างค่าเหนื่อยของสโมสรจะพังทลายลง

 

อีกอย่างที่ FSG นำมาเป็นปัจจัยในการพิจารณาคือ อายุของซาลาห์ที่ปัจจุบันอยู่ที่ 29 ปี แม้จะอยู่ในช่วงพีก แต่พวกเขาเชื่อว่าทุกอย่างจะเริ่มตกลงภายในระยะเวลา 2 ปี ซึ่งก็เป็นระยะเวลาที่สัญญาฉบับปัจจุบันที่ซาลาห์เซ็นไว้ในปี 2018 ครบพอดี

 

นั่นหมายถึงหากพวกเขายอมเสนอสัญญาใหม่ให้ตามที่ซาลาห์ต้องการจริง สิ่งที่ได้รับตอบแทนกลับมาอาจจะไม่คุ้มค่ากับที่จะต้องจ่ายไป ซึ่งขัดต่อหลักแนวทาง Moneyball ที่ยึดมั่นมาโดยตลอด 

 

และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาทำแบบนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีกรณีของ จินี ไวจ์นัลดุม ที่ไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้อง จนสุดท้ายยอมเสียมิดฟิลด์จอมขยันที่มีผลงานสม่ำเสมอที่สุดของทีมไปแบบฟรีๆ ชนิดที่แฟนบอลหลายคนยังไม่เข้าใจจนถึงทุกวันนี้

 

อย่างไรก็ดี กรณีแบบนี้เคยมีบทเรียนของอาร์เซนอลที่ต่อสัญญากับ เมซุต โอซิล และ ปิแอร์ เอเมอริก-โอบาเมยอง อย่างรีบเร่งและจ่ายเงินมหาศาล แต่หลังจากนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นคือ ผลงานการเล่นที่ตกต่ำลงอย่างมาก ขณะที่สโมสรต้องแบกภาระค่าเหนื่อยมหาศาล โดยเฉพาะรายของอดีตดาวเตะทีมชาติเยอรมนีที่จะผ่องถ่ายขายออกไปก็ไม่มีใครซื้อ จนสุดท้ายต้องยอมตัดทิ้งทั้งเลือดและน้ำตา

 

FSG เชื่อว่า พวกเขายัง ‘มีเวลา’ ที่จะพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ ไตร่ตรองอย่างถ้วนถี่อีกครั้ง เพราะตามสัญญาของซาลาห์แล้วยังเหลืออีก 2 ปีด้วยกัน และดูเหมือนจะมีเป้าหมายใหม่ที่เล็งไว้คือ คาริม อเดเยมี กองหน้าดาวรุ่งจากเรดบูล ซัลซ์บวร์ก ที่มีข่าวล่าสุดว่าจะคว้าตัวมาร่วมทีมในช่วงเดือนมกราคมนี้ ในช่วงที่ซาลาห์และมาเนจะเดินทางไปเล่นฟุตบอลแอฟริกันคัพออฟเนชันส์พอดี

 

หากให้มองแล้วก็เป็นไปได้ที่ FSG จะซื้อเวลาดูทางเลือกต่างๆ อย่างถ้วนถี่ก่อน รวมถึงดูตัวเลือกใหม่ๆ ที่จะเข้ามาเสริมแนวรุกในอนาคต เพราะฤดูกาลหน้า (2022/23) ถูกคาดว่าจะเป็นช่วงที่ลิเวอร์พูลกลับมาเริ่มต้นสร้างทีมชุดใหม่อีกครั้งหลังจากนิ่งงันมาหลายปี

 

เพียงแต่ปัญหาคือ นี่เป็นการเจรจาสัญญาในชีวิตจริงไม่ใช่ในเกม นักฟุตบอลเองก็มีความรู้สึก และพวกเขาก็คาดหวังว่าสโมสรจะ ‘ภักดี’ ต่อพวกเขาเช่นเดียวกับที่พวกเขาทุ่มเทให้กับสโมสร ซึ่งที่ผ่านมาท่าทีของซาลาห์ต่อ FSG ที่ผ่านทาง รามี อับบาส เอเจนต์ส่วนตัวของเขา ก็ค่อนข้างชัดเจนในทำนอง “เห็นหรือยัง เห็นหรือเปล่า”

 

เรื่องการต่อสัญญาของซาลาห์จึงเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่สำหรับ FSG ที่มีระดับความเสี่ยงในการลงทุนสูงสุด

 

เลือกทางไหนก็เสี่ยง หรือต่อให้ไม่เลือกเลยก็ยังเสี่ยง

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising