×

มิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ เคาะราคา IPO ที่ 7.95 บาท ขาย 280 ล้านหุ้น เปิดจองซื้อ 18-20 เม.ย. นี้ จ่อเข้าเทรด SET ภายในเดือนนี้

17.04.2023
  • LOADING...
ราคา IPO

บมจ.มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ MGC ตั้ง บล.ฟินันซ่า-บัวหลวง เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เคาะราคา IPO ที่ 7.95 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อวันที่ 18-20 เมษายนนี้ ขายผ่าน 5 โบรกเกอร์ คาดนำหุ้นเข้าเทรดได้ภายในเดือนเมษายนนี้

 

วราห์ สุจริตกุล ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันซ่า ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายการหุ้นสามัญ เพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของ บมจ.มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ MGC กล่าวว่า หลังจาก บมจ.มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) ได้รับอนุญาตให้เสนอขายหลักทรัพย์ฯ จากสำนักงาน ก.ล.ต. ปัจจุบันแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) มีผลใช้บังคับแล้ว 

 

โดยล่าสุดได้กำหนดราคาเสนอขาย IPO ที่ 7.95 บาทต่อหุ้น โดยจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 280 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลัง IPO และจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในวันที่ 18-20 เมษายน 2566 และคาดว่าจะสามารถนำหุ้น MGC เข้าซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ ภายในเดือนเมษายนนี้

 

สำหรับการกำหนดราคา IPO ที่ 7.95 บาทต่อหุ้นนั้น จากข้อมูลในแบบไฟลิ่งระบุว่า จะมีอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (P/E) อยู่ประมาณ 14.72 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2565 ซึ่งเท่ากับ 603.50 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ บมจ.มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ MGC ได้แต่งตั้ง บล.ฟินันซ่า จำกัด และ บล.บัวหลวง ร่วมกันเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย พร้อมแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 3 ราย ประกอบด้วย บล.เอเซีย พลัส, บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) และ บล.ทิสโก้

 

สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ MGC เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้วางแผนยุทธศาสตร์ขยายระบบนิเวศทางธุรกิจ MGC-ASIA Ecosystem ด้วยโมเดลธุรกิจที่แตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น ผ่านการขยายฐานผลิตภัณฑ์ บริการ และกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุม สามารถตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์แห่งการเดินทาง (Lifestyle Mobility) ได้อย่างครบวงจร  

 

ปัจจุบันระบบนิเวศทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ มีสินค้าและบริการที่หลากหลาย ประกอบด้วย ธุรกิจจำหน่ายรถยนต์แบรนด์ระดับโลก ได้แก่ Rolls-Royce, BMW, MINI, Honda บิ๊กไบค์ BMW Motorrad, Harley-Davidson, ธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายเรือยอชต์ Azimut รายเดียวในประเทศไทย, ธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายเรือแม่น้ำ Chris-Craft รายเดียวในประเทศไทยและอาเซียน, ธุรกิจรถยนต์มือสองพร้อมการรับประกัน, ธุรกิจจัดหาลูกค้าสำหรับบริการให้เช่าเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว VistaJet, ตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารสายการบินชั้นนำ, ธุรกิจให้บริการหลังการขายและให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ MMS Bosch Car Service, ธุรกิจบริการเช่ารถยนต์ทั้งระยะสั้นและระยะยาว พร้อมพนักงานขับ

 

นอกจากนี้มิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ ยังได้ร่วมทุนกับบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) จัดตั้งบริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด ขยายธุรกิจให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร ครอบคลุมสินเชื่อเช่าซื้อ ลีสซิ่ง และสินเชื่อรีไฟแนนซ์ สำหรับยานยนต์และมารีนในระดับลักชัวรี และร่วมทุนกับฮาวเด้น กรุ๊ป หนึ่งในโบรกเกอร์รายใหญ่ที่สุดในยุโรปและมีชื่อเสียงระดับโลก ขยายธุรกิจนายหน้าประกันภัยภายใต้บริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด ซึ่งธุรกิจทั้งสองเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและส่งเสริมธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทฯ

 

สำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของมิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ ที่จะเพิ่มศักยภาพการขยายธุรกิจ โดยบริษัทมีแผนจะขยายธุรกิจภายใต้ 4 กลยุทธ์หลัก ได้แก่

  

  1. ขยายพอร์ตธุรกิจเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ระบบนิเวศทางธุรกิจภายใต้ชื่อ MGC-ASIA Ecosystem ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์แห่งการเดินทาง (Lifestyle Mobility Ecosystem) 

 

  1. เตรียมความพร้อมสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจจัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ด้วยการพัฒนาบุคลากรและมาตรฐานการให้บริการ

  

  1. บริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการสร้างผลกำไรให้กลุ่มบริษัทฯ ในระยะยาว

 

  1. ยกระดับการให้บริการโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจ (Digitalization) เตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงสู่ Digi-Tech Lifestyle Mobility 

 

ขณะที่ เจิดนภางค์ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงินและบัญชีกลุ่ม บมจ.มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ MGC กล่าวว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ MGC-ASIA สามารถสร้างการเติบโตของรายได้อย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง แม้เผชิญความท้าทายจากโควิดและปัญหาซัพพลายเชนดิสรัปชัน แต่ด้วยการมีพอร์ตธุรกิจที่หลากหลาย รวมทั้งการบริหารที่ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์อย่างรวดเร็ว ทำให้ภาพรวมรายได้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง 

 

โดยผลการดำเนินงานปี 2563, 2564 และ 2565 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 20,275.3, 21,350.3 และ 23,076.2 ล้านบาท ตามลำดับ เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 6.7% ต่อปี เนื่องจากเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิดที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีกำไรสุทธิปี 2563, 2564 และ 2565 อยู่ที่ 188.8, 295.5 และ 595.6 ล้านบาท ตามลำดับ จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายและบริการ การเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้น ในขณะที่สัดส่วนต้นทุนการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อรายได้รวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

 

ทั้งนี้ สำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ เพื่อรองรับแผนงานขยายการลงทุนในบริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด ลงทุนในบริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ขยายศูนย์ให้บริการหลังการขายและซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ ปรับโครงสร้างเงินทุนผ่านการชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินงาน รองรับการเติบโตในอนาคต

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising