โลกเสมือน Metaverse ของ Microsoft กำลังมา! เน้นไปที่ซอฟต์แวร์ระดับองค์กรก่อน เริ่มต้นด้วย PowerPoint และ Excel

หากคุณคิดว่าโลกเสมือน Metaverse จะออกมาในรูปแบบเกมเท่านั้น คุณกำลังคิดผิด เพราะบริษัทซอฟต์แวร์ระดับโลกอย่าง Microsoft Corp. กำลังมีแผนที่จะนำเทคโนโลยี Metaverse มาใช้กับโปรแกรม PowerPoint และ Excel

โดยบริษัทกำลังปรับผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ตัวชูโรงของบริษัทเพื่อสร้าง Metaverse ที่เป็นเวอร์ชันองค์กรมากขึ้น ซึ่งเป็นแนวคิดที่สนับสนุนโดย มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ร่วมก่อตั้ง Facebook ซึ่งสัญญาว่าจะให้ผู้ใช้งานได้ใช้ชีวิต ทำงาน และเล่นในโลกเสมือนจริงที่เชื่อมต่อถึงกันได้อย่างลื่นไหล

อย่างแรกที่จะออกมาก่อนเลยคือ โปรแกรมแชตและการประชุมอย่าง Teams ของ Microsoft ที่เราสามารถสร้างตัวละครแบบดิจิทัล ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบและจะพร้อมใช้งานในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 โดยผู้ใช้จะสามารถแชร์ไฟล์ของ Office อย่างสไลด์ PowerPoint ในโลกเสมือนจริงได้

“การแพร่ระบาดครั้งนี้ทำให้มีการใช้งานซอฟต์แวร์ต่างๆ ในเชิงพาณิชย์มากขึ้น จนขนาดว่าผู้ใช้งานจะรู้สึกเหมือนอยู่ในนิยายวิทยาศาสตร์เลยทีเดียว” สัตยา นาเดลลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Microsoft กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg Television นอกจากนั้น นาเดลลาเองก็ได้ใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อเยี่ยมชมหอผู้ป่วยโควิดในโรงพยาบาลที่สหราชอาณาจักร และชมโรงงานผลิตของ Toyota รวมถึงเยี่ยมชมสถานีอวกาศนานาชาติมาแล้ว

ฟีเจอร์ใหม่ของ Teams เปิดตัวเมื่อวันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน ในการประชุม Ignite ของบริษัท โดยฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สร้างพื้นที่ที่พนักงานสามารถพบปะกันได้ โดยเทคโนโลยีนี้ใช้ซอฟต์แวร์ของ Microsoft ที่ประกาศเมื่อต้นปีนี้ในชื่อ Mesh ซึ่งสามารถใช้เทคโนโลยีได้ทั้ง AR และ VR ในแว่นตาอัจฉริยะหลากหลายรูปแบบ รวมถึงแว่นตา HoloLens ของ Microsoft เอง ในส่วนของลูกค้าที่ไม่มีอุปกรณ์แว่นตาอัจฉริยะที่สามารถแสดงภาพ 3 มิติได้ ก็สามารถสัมผัสประสบการณ์โลกเสมือนในแบบ 2 มิติจากจอภาพแบบปกติแทนได้

“มุมมองของผู้ใช้ทั่วไปต่อ Metaverse ที่มองว่าจะเป็นโลกแห่งอนาคตที่ผู้คนเข้ามาสร้างชีวิตใหม่ในโลกเสมือนออนไลน์ได้นั้นยังต้องใช้เวลาอีกสักพักใหญ่ แต่การใช้งานในแง่ธุรกิจ เราสามารถเริ่มใช้ได้ตั้งแต่ตอนนี้เลย” นาเดลลากล่าว

“อย่างบริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจ Accenture ก็มีการใช้ซอฟต์แวร์ของ Microsoft เพื่อสร้างโลกเสมือนเลียนแบบสำนักงานใหญ่ของบริษัท ในการปฐมนิเทศพนักงานใหม่ในช่วงการระบาดใหญ่ โดยทางบริษัท Accenture ได้จัดกิจกรรมดังกล่าวมาแล้วมากกว่า 100 ครั้ง ซึ่งเข้าถึงพนักงานไปแล้วมากกว่า 10,000 คน” กล่าวโดย จาเร็ด สปาทาโร รองประธาน Microsoft

“นอกจากนั้นคุณยังสามารถสัมผัสประสบการณ์ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง Best Buy ใน Metaverse คุณสามารถดูอุปกรณ์ต่างๆ ในโลกเสมือนนั้นได้เลย” สปาทาโรกล่าว “ทุกวันนี้การดูผ่านเว็บไซต์ไม่ได้เชื่อมต่อกับโลกจริงได้ดีขนาดนั้น”

นอกจากนั้น Microsoft ยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า Dynamics 365 Connected Spaces ในวันอังคารที่ 2 พฤศจิกายนอีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้ผู้คนเคลื่อนไหวและโต้ตอบกันภายในร้านค้าต่างๆ และในโรงงานได้

“Microsoft เป็นผู้นำในด้านแอปพลิเคชันระดับองค์กรสำหรับ Metaverse และเราคาดว่าแพลตฟอร์มเกม Xbox ของบริษัทจะมีส่วนร่วมในเทคโนโลยีนี้ในอนาคตเช่นเดียวกัน” นาเดลลากล่าว “เราจะใช้เทคโนโลยีโลกเสมือนนี้มาใช้กับเกมอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเกมอย่าง Halo, Minecraft และ Flight Sim ของเรา ก็อาจสามารถพัฒนาเป็น Metaverse ได้ ซึ่งมันเป็น 2D ในวันนี้ แต่คำถามที่สำคัญของเราคือ เราจะทำให้มันเป็นโลก 3D เต็มรูปแบบได้หรือไม่ ซึ่งเรากำลังวางแผนที่จะทำเช่นนั้นอยู่”

แอปพลิเคชัน Metaverse ของ Microsoft จะทำงานร่วมกับแว่นตา Oculus ที่สร้างโดยบริษัท Meta Platforms Inc. ซึ่งชื่อเดิมคือ Facebook แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าวิสัยทัศน์ของบริษัทต่างๆ เกี่ยวกับ Metaverse จะสามารถไปในทางเดียวกันได้ในแบบไหน สมมติเล่นๆ ว่าหากนาเดลลาและซักเคอร์เบิร์กต้องการพบกันใน Metaverse พวกเขาจะต้องทะเลาะกันเพื่อเลือกใช้ซอฟต์แวร์ Teams ของ Microsoft หรือ Horizon Workrooms ของ Meta หรือไม่

นาเดลลากล่าวว่า “Microsoft มุ่งเน้นไปที่การทำให้ Metaverse ใช้งานได้จริง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยให้ผู้คนคุ้นเคยกับโลกเสมือนนี้ ที่นักวิจารณ์บางคนเรียกแนวคิดนี้ว่าน่าขนลุก ซึ่งไม่มีอะไรน่าขนลุกกับการไปเยี่ยมหอผู้ป่วยโควิดจากระยะไกล เพื่อให้แพทย์สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้ หรือสามารถให้ความช่วยเหลือทางไกลในสายการผลิตของโรงงานในช่วงวิกฤตโควิด เมื่อสายการผลิตนั้นมีปัญหา และสามารถแก้ไขได้โดยวิศวกรที่ทำงานจากที่บ้านในช่วงการแพร่ระบาด”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

อ้างอิง: