×

Tried & Tested: “จงอย่าหยุด” สมุดบันทึกเมื่อผู้หญิงไม่ชอบวิ่งสมัครวิ่งเป็นครั้งแรก

19.09.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

7 Mins. Read
  • จดบันทึกประสบการณ์การวิ่งของคนที่จารึกเอาไว้ต้นทางว่าไม่ชอบวิ่ง กับมุมมองที่ค่อยๆ เปลี่ยนไปเมื่อถึงปลายทาง
  • ต่างคนก็มีการเดินทางสายสุขภาพเป็นของตัวเอง ด้วยจังหวะฝีเท้าที่ต่างกัน ดังนั้นจะเร็วหรือช้าไม่สำคัญ ขอแค่ใจกล้าที่จะท้าทายตัวเองหลุดจากกรอบความคิดที่ว่า ‘ทำไม่ได้’ แค่นั้นเป็นพอ 

“เพิ่งไปสมัครวิ่งมา” คำพูดที่ไม่เคยคิดว่าจะหลุดจากปากผู้หญิงตัวเตื้องอย่างฉัน แม้สังคมรอบข้างต่างชวนกันออกไปจ๊อกกิ้ง บางครั้งฉันสารภาพว่ารู้สึกไม่ต่างอะไรกับเต่า ในขณะที่ทุกคนปล่อยพลังฝีเท้าฉิวดั่งว่าเป็น The Flash แซงหน้าไป

 

‘การวิ่ง’ ฟังดูไกลตัวและเป็นสิ่งที่ยากเหลือเกิน

 

วิวยามเช้าอันสดชื่นของภูเก็ต

 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกเสียทีเดียวที่ฉัน ‘ตั้งใจวิ่ง’ เมื่อราวๆ 4 ปีก่อน ขณะที่ตั้งปณิธานเปลี่ยนชีวิตและไลฟ์สไตล์ของตัวเองเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นในระยะยาวเพื่อเป็นของขวัญชิ้นพิเศษให้กับตัวเองก่อนก้าวเข้าสู่เลข 3 อย่างเต็มตัว ฉันตามหากิจกรรมเคลื่อนไหวที่ชอบโดยลองออกไปวิ่งในสวน ด้วยความหวังที่ว่าแดดอ่อนๆ ยามเย็นในสวนสีเขียวใกล้บ้านน่าจะทำให้ฉันผู้รักกิจกรรมกลางแจ้งชอบการวิ่งได้ไม่ยาก และฉันจะได้สัมผัสความรู้สึกอิสระ หัวโปร่งโล่ง ตัวเบาแบบที่ใครหลายคนเขาว่ากันเสียที

 

แต่เปล่าเลย จังหวะหัวใจที่เต้นรัวราวกับจะหลุดออกจากอกทำให้วิ่งต่อเนื่องได้ไม่เกิน 2 นาที ฉันพาร่างน้ำหนักเกินๆ จากการกินดื่มแบบชีวิตเดียวเปรี้ยวให้คุ้มมาเกิน 10 ปี และบั้นท้ายไซส์ L สำหรับคนสูงเพียง 150 นิดๆ เดินต่อไปให้ครบ 2 รอบ มันไม่ใช่เรื่องหมูๆ โดยเฉพาะเมื่อจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าครั้งสุดท้ายที่ออกกำลังกายคือ ‘เมื่อไร’

 

รู้แต่บันทึกเอาไว้ว่าตัวเองไม่ชอบวิ่ง

 

Make Waves Move Mountains กับธีมสีชมพูที่เห็นได้จากบนฟ้า

 

ทันทีที่ Roxy ต่อสายหาเพื่อชวนไปร่วมกิจกรรมที่ภูเก็ต ฉันตอบตกลงอย่างไม่คิดมาก เพียงเพราะนึกถึงแสงแดด สายลม และการโต้คลื่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันหลงรักมานาน ซึ่งงานนี้ Roxy แบรนด์เสื้อผ้าแอ็กทีฟแวร์สำหรับผู้หญิง จับมือกับบางกอกแอร์เวย์ส และโรงแรมถาวรปาล์ม บีช รีสอร์ท ภูเก็ต ฯลฯ จัดงาน Roxy Make Waves Move Mountains Tour กิจกรรมที่ชวนผู้หญิงมาออกกำลังกายที่จัดขึ้นรอบโลก โดยรวมเอาแรงบันดาลใจจากขุนเขาและเกลียวคลื่นเพื่อให้ผู้หญิงเพลินกับการขยับร่างกายและมีสุขภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งมีทั้งวิ่งฟันมาราธอนและโยคะท่ามกลางธรรมชาติ เริ่มต้นวิ่งจากแหลมพรหมเทพ จังหวัดภูเก็ต เลียบผ่านจุดชมวิวจนจบที่หาดในหาน

 

เป็นครั้งแรกที่ฉันตกลงวิ่ง ‘มาราธอน’ เป็นครั้งแรก แม้จะเป็นฟันรันแค่ 4.5 กิโลเมตร แต่สำหรับคนไม่เคยวิ่งแล้ว ระยะทางดูห่างออกไปเรื่อยๆ

 

ในฐานะมนุษย์เมืองยุ่งๆ คนหนึ่งที่ไม่เคยสนใจเลยว่าเขาเตรียมตัววิ่งกันอย่างไรบ้าง ฉันได้แต่ทำตามจากภาพเหล่านักวิ่งทั้งหลายที่มักเห็นบนโซเชียลมีเดีย คว้าแค่สมาร์ทวอตช์และหูฟังคู่ใจมาเผื่อเอาไว้ โดยบอกกับเพื่อนนักวิ่งสมัครเล่นข้างๆ ว่า “เดี๋ยวเราวิ่งไปเมาท์กันไปฆ่าเวลาแล้วกันนะ”

 

จุดสตาร์ทที่แหลมพรหมเทพ

 

เรารวมตัวกันตอนเช้าตรู่ที่แหลมพรหมเทพที่อากาศแลดูไม่ค่อยเป็นใจเหมือนฝนจะตก ขณะที่ทุกคนยืนชิตแชตยืดเส้นสายแลดูกระปรี้กระเปร่าราวกับวิ่งมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน หัวของฉันในฐานะมนุษย์กลางคืนผู้ตื่นสายได้แต่จินตนาการขอแค่ได้ซุกร่างเข้าผ้าห่มอุ่นๆ

 

“ถอนตัวกลับก่อนตอนนี้ดีไหมนะ” คำพูดนี้วนแล้ววนอีกอยู่ในหัวขณะหาวรอบที่สิบอะไรสักอย่าง

 

ทันใดนั้นชายที่เสียงฟังดูมีพลังราวกับซดกาแฟไปแล้วหลายถ้วยอย่างน่าอิจฉาลุกขึ้นมาจับไมค์ปลุกให้ทุกคนลุกขึ้นมาวอร์มอัพก่อนการวิ่งด้วยลีลาชวนขัน จากนั้นไม่นานทุกคนก็ประจำที่จุดวิ่ง

 

น้องสาวนักข่าวร่างผอมสูงผู้เป็นนักวิ่งป้ายแดงข้างๆ หันมามองฉันด้วยสายตาแบบที่ต่างตีความได้ว่า “อย่าทิ้งหนูนะพี่”

 

สิ้นเสียงนกหวีด พวกเราสาวเท้าออกไปข้างหน้า รั้งท้ายพาเหรดผู้หญิงในชุดสีชมพูอ่อนของ Roxy เราวิ่งเหยาะๆ ไปตามพื้นถนน แลกเปลี่ยนบทสนทนากับคนรู้จักรอบข้าง ภาพริมทางที่เห็นคือทะเลและเกลียวคลื่นที่ซัดฝั่งอยู่ลิบๆ ยามเช้า

 

เราวิ่งเคียงๆ กันไป ทางดิ่งบ้างตรงบ้าง นานเท่าไรฉันไม่รู้ ต่างคนต่างหยุดบทสนทนาและหยิบหูฟังขึ้นมาอยู่ในอาณาจักรความคิดของตัวเอง 

 

วิ่งผ่านจุดชมวิวกังหันลมของภูเก็ต

 

ขณะที่อุ้งเท้าขนาบไปกับพื้นถนน ฉันสังเกตว่าตัวเองวิ่งได้นานขึ้น ไกลขึ้น หัวใจไม่ได้จะหลุดออกมาจากอก หัวไม่ได้มึนตื้อราวกับมีหมอกอยู่เต็มศีรษะ ต้องขอบคุณการออกกำลังกายแบบเวตเทรนนิ่ง โยคะ และพิลาทิสที่ฉันทำมาเกือบ 4 ปีนับจากวันนั้นที่ออกวิ่ง ‘ครั้งแรก’

 

ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง ฝูงคนด้านหน้าเริ่มหยุดเดินกันยกใหญ่ ฉันยังคงวิ่งต่อไปและพบคำตอบว่าพวกเรากำลังอยู่บนเนินเขาลูกใหญ่ที่ชันและสูงขึ้นเรื่อยๆ รอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนหน้าของฉันพร้อมกับรู้สึกขอบคุณเทรนเนอร์อย่างสุดใจที่เคี่ยวเข็ญให้ฉันเข็นสเลดจนขาลากนับครั้งไม่ถ้วนในคลาสฟิตเนส “เราเทรนมาเพื่อสิ่งนี้ I got this.” ฉันกระหยิ่มในใจ

 

เท้าก้าวต่อไปข้างหน้าผ่านหน้าฝูงชนที่เดินเป็นแพบนถนนเส้นที่ปูสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่มีวี่แววจะราบลงเลย บรรดานักวิ่งเริ่มเดินช้าลง บ้างหยุดพักข้างทาง ขณะที่ขาเจ้ากรรมเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ปราชัยให้กับแรงโน้มถ่วง

 

ความล้าจากการเดินไต่เขาที่ไม่รู้จะสิ้นสุดตรงไหนกับหัวใจที่เต้นถี่จนรู้สึกถึงจังหวะหัวใจได้บนใบหน้าที่ร้อนผ่าวเริ่มกัดกินไปทั่วจนอยากยอมแพ้เสียแล้ว เหลือบมองไปตรงไหนก็ไม่เห็นที่นั่งพัก แล้วจู่ๆ ฉันเริ่มสังเกตเห็นคนไม่กี่คนที่ออกวิ่งไปอย่างช้าๆ ไม่สนใจฝูงชน และรู้ว่าจะถอยตอนนี้ก็ไม่ได้เสียแล้ว

 

“ทำยังไงก็ได้ แต่จงอย่าหยุด” ฉันพร่ำบอกตัวเอง

 

โตโน่ก็มาร่วมวิ่งเรียกเสียงเกรียวกราวจากสาวๆ ครั้งนี้ด้วย

 

สาวเท้าเดินจ้ำมาเรื่อยๆ อย่างหืดหอบจนมาถึงเนินที่สูงที่สุดผ่านซุ้มบริการนักวิ่ง คนจำนวนมากหยุดพักตรงนั้น บ้างนั่งลงดื่มน้ำ บ้างเริ่มสูดยาดม ฉันหันไปหาน้องที่วิ่งมาด้วยกันเพื่อพบว่าเธอหายไปในฝูงชนเสียแล้ว

 

หลังจากทัศนะถูกบังด้วยพื้นถนนมาสักพักใหญ่ เราพบว่าได้ผ่านเนินเขาที่สูงที่สุดมาได้ และภาพตรงหน้าคือทางราบค่อยๆ ดิ่งลงเผยให้เห็นวิวตระการตา และแสงแดดที่ค่อยๆ แย้มตัวออกมากระทบทักทายผืนทะเล เป็นภาพที่สวยราวกับเป็นรางวัลจากธรรมชาติของคนตื่นเช้า เท้าของฉันพาออกตัวไปตามถนนผ่านจุดชมวิวกังหันลม แซงหน้าคนกลุ่มใหญ่ที่ค่อยๆ ฟื้นตัวออกจากเนินสูง

 

And I get the feeling that it’s, it’s all a dream

And I wanna get up

To the rhythm of a wild, to the rhythm of a wild heart

That beats, that beats like a drum

 

เสียงกลองในเพลง Like a River Runs ของ Bleachers กระหึ่มก้องหูอย่างไม่เคยปลุกใจขนาดนี้มาก่อน และปลุกความคึกให้ชีพจรลงเท้า ฉันออกวิ่งอีกครั้งด้วยความรู้สึกสุข นาทีนั้นเรารับรู้ได้ถึงสายลมเย็นๆ ที่มากระทบผิวหน้า บวกกับภาพทิวทัศน์ที่ปรากฏตรงหน้า จนอดคิดในใจไม่ได้ว่า “ร่างกายของเราช่างเป็นสิ่งอัศจรรย์”

 

เป็นเวลานานเท่าไรก็ไม่รู้ที่วิ่งบ้างเดินเร็วบ้างทุกๆ 10-15 นาที นาฬิกาบอกว่าเราวิ่งมา 3 กิโลเมตรกันแล้ว เราเลาะเข้าสู่หน้าหาด วิ่งเหยาะไปตามพื้นทราย กระโดดหนีน้ำทะเลที่ซัดขึ้นฝั่ง สวนทางกับชายที่จูงสุนัขมาเดินอย่างอดนึกถึงเพลง Sometimes ของบริตนีย์ สเปียร์ส เป็นไม่ได้ กลิ่นของลมทะเลสดชื่น กอปรกับเสียงคลื่นและแสงแดดอ่อนๆ ชวนรู้สึกผ่อนคลาย ฉันโบกมือให้เพื่อนร่วมเส้นทางขณะนั้น ซึ่งเป็นสองสาว Roxy โทราห์ ไบรท์ (Torah Bright) นักสโนว์บอร์ดเหรียญทองโอลิมปิกจากออสเตรเลีย และไมเนอิ คินิมากา (Mainei Kinimaka) นักเซิร์ฟสาวจากฮาวายที่บินมาร่วมงานนี้ พร้อมวิ่งไปเก็บภาพประทับใจไปด้วยในจังหวะใกล้กัน พวกเธอส่งเสียงเชียร์ “You go, girl!”

 

วิวสวยๆ ของหาดในหานและสองสาว Roxy ที่วิ่งให้กำลังใจสาวนักวิ่งทุกคน

 

เรามาถึงโค้งสุดท้ายของการวิ่งและสังเกตเห็นว่าจำนวนเพื่อนร่วมวิ่งตรงหน้าบางตาลงมาก ฉันยังคงวิ่งไปเรื่อยๆ ด้วยจังหวะไม่เร็วไปไม่ช้าไป เดินเร็วบ้างเป็นระยะโดยเฉพาะบนหาดทราย เส้นชัยและเหรียญอยู่ตรงหน้า ขาของฉันพาก้าวไปข้างหน้าเร็วขึ้นอีกนิดเพื่อชัยชนะ

 

แล้วฉันก็ทำสำเร็จ

 

มันอาจไม่ใช่ภาพความสำเร็จยิ่งใหญ่แบบ เอเลียด คิปโชเก แต่ฉันก้มหัวรับเหรียญ Roxy อย่างภาคภูมิและประหลาดใจในตัวเอง พร้อมรับน้ำเย็นๆ มาดับกระหายอย่างมีความสุข มีคนจำนวนไม่น้อยมาถึงก่อนหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย หัวใจยังคงเต้นรัว ฉันทำได้ไม่เลวเลยสำหรับมือสมัครเล่นในการลงวิ่งครั้งแรกในชีวิต

 

ต้องขอบคุณสองเท้าและร่างกายที่แข็งแรงจากวินัยการออกกำลังกายไม่กี่ปีที่ผ่านมาที่ทำให้มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งพอที่ไม่ต้องกวนให้ใครเก็บร่าง และใจที่ร่มกว่าตอนเริ่มออกวิ่งครั้งแรกที่ไม่ยอมยกธงขาวง่ายๆ รวมถึงเพื่อนร่วมทางที่มอบบทเรียนหลายๆ อย่างระหว่างทางที่ทำให้สุดท้ายผู้หญิงไม่ชอบวิ่งกลายเป็นหนึ่งใน ‘นักวิ่ง’ ท่ามกลางฝูงชนเสื้อสีชมพูในครั้งนี้

 

“ฉันไม่แปลกใจเลย เพราะเธอเทรนมาเพื่อสิ่งที่หินกว่านี้ด้วยซ้ำ” เทรนเนอร์ชาวอเมริกันยินดีกับฉันเมื่อแจ้งถึงความสำเร็จเล็กๆ ที่เกิดขึ้น

 

 

ไม่น่าเชื่อว่าการวิ่งจะค่อยๆ ฉาบมุมมองของคนคนหนึ่งจากต้นทางให้เป็นอีกมุมเมื่อถึงปลายทางได้อย่างมหัศจรรย์ จากที่คิดว่าฉันจะต้องพึ่งพาเพื่อนร่วมทางให้ผ่านเส้นทางยากๆ ไปได้ แต่เปล่าเลย เพราะต่างคนก็มีเส้นทางเป็นของตัวเอง และเราต่างก็มีจังหวะฝีเท้าที่ต่างกัน

 

เวลาวิ่ง 2 นาทีที่เคยยาวนานหายใจไม่ทันกลับเป็น 10 นาทีสั้นๆ ที่รู้สึกเสรี หัวสมองปลอดโปร่ง ได้จัดระเบียบความคิดมากมายขณะเท้าแตะพื้นเป็นจังหวะ

 

นี่เองคือความสุขของนักวิ่งที่ฉันสงสัยมานาน

 

ปิดท้ายด้วยโยคะจาก ครูเอก-พงศ์พิพัฒน์ เกียรติประพิณ ผู้ก่อตั้ง Yoga & Me

 

ฉันเรียนรู้ว่าการวิ่งเป็นมากกว่าแค่เพื่อให้ก้าวไปข้างหน้า แต่เป็นบันทึกการเดินทางเฉพาะบุคคลที่แม้จะมีเส้นชัยเดียวกัน แต่ต่างมีจุดหมายที่ต่างกัน และแม้ว่าจะเร็วหรือช้า ตราบใดที่เราไม่ยอมหยุดแพ้ เราจะไปถึงเป้าหมาย และอะไรๆ ก็สำเร็จได้ทั้งนั้น

 

ถ้าถามว่าตอนนี้ฉันชอบวิ่งแล้วหรือยังอาจตอบได้ไม่เต็มปาก และเส้นทางการเป็น ‘นักวิ่ง’ ยังอยู่อีกไกลเมื่อเทียบกับคนรอบตัว รู้แต่เพียงว่าเพิ่งสมัครวิ่ง 10 กิโลเมตรกับโรงเรียนเก่าไปแบบไม่ต้องคิดเยอะมาก ส่วนจะทำได้ (ดี) หรือไม่นั้นไม่สำคัญ ขอแค่ใจกล้าที่จะท้าทายตัวเองหลุดจากกรอบความคิดที่ว่า ‘ทำไม่ได้’ แค่นั้นก็พอแล้ว

 

อ่านเรื่อง เริ่มวิ่งมาพร้อมกัน แต่ทำไมสู้เพื่อนไม่ได้สักทีได้ที่นี่

 

อ่านเรื่อง ออกกำลัง 100: วิธีพาร่างไปออกกำลังกายครั้งแรก ฉบับมนุษย์ตัวเตื้องไม่เคยเข้ายิมที่ง่ายกว่า 101 ได้ที่นี่

 

ภาพ: Courtesy of Roxy

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

FYI
  • งาน Make Waves Move Mountains Tour 2018 เป็นแคมเปญระดับโลกที่จัดโดย Roxy ร่วมกับ Anessa, ZA, ทิพยประกันภัย, สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส, โรงแรมถาวรปาล์ม บีช รีสอร์ท ภูเก็ต และเทศบาลตำบลราไวย์ เพื่อสนับสนุนให้ผู้หญิงออกมาสนุกกับการออกกำลังกายเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมๆ กับส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตและสถานที่ใกล้เคียง โดยจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 แล้ว ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งเสริมให้ผู้หญิงทำกิจกรรมแอ็กทีฟต่างๆ ได้ทาง www.roxy.co.th
  • สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส บินตรงจากทางกรุงเทพ-ภูเก็ต (ไป-กลับ) ทุกวัน วันละ 9 เที่ยวบิน โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bangkokair.com
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X