×

“ถ้าไม่มีวินัย คุณจะตกเป็นทาสของแพสชัน” เอเลียด คิปโชเก จากเด็กวิ่งส่งนมสู่นักวิ่งมาราธอนเร็วที่สุดในโลก

17.09.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

9 MINS READ

 

  • เอเลียด คิปโชเก ยอดนักวิ่งชาวเคนยาวัย 33 ปี สร้างสถิติโลกมาราธอนใหม่ที่ 2.01.39 ชั่วโมง พร้อมกับการคว้าแชมป์ BMW Berlin Marathon 2018 เป็นสมัยที่ 3
  • คิปโชเกมีเคล็ดลับการวิ่งอยู่ท่ีระเบียบวินัยบนพื้นฐานของชีวิตที่เรียบง่าย และความหลงใหลในการวิ่งตั้งแต่วัยเด็กที่ต้องวิ่งไปโรงเรียนทุกวัน
  • จุดเปลี่ยนของชีวิตอยู่ที่การพบกับ แพทริก แซง ตำนานนักวิ่งชาวเคนยาเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิกในปี 2001 และการตัดสินใจเปลี่ยนจากการแข่งขัน 5,000 เมตรมาลงแข่งขันมาราธอนในปี 2013
  • คิปโชเกเป็นทั้งนักวิ่ง นักพูด และนักอ่าน จนหลายคนยกให้เขาเป็นนักปราชญ์แห่งวงการวิ่ง ด้วยถ้อยคำที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่ต้องการแรงกระตุ้นสำหรับการเริ่มต้นลงทุนสู่ความสำเร็จ

 

วันอาทิตย์ วันที่ใครหลายคนตื่นเช้าวางแผนไปกับการเดินทางท่องเที่ยว หลีกหนีการทำงานหรือสิ่งที่อาจทำให้เรารู้สึกเหนื่อย วันนี้เป็นวันพักผ่อนเพื่อชาร์จแบตให้เต็มก่อนจะลุยกันอีกครั้งในวันจันทร์

 

 

แต่ข้ามไปอีกมุมหนึ่งของโลก มีมนุษย์คนหนึ่งที่เลือกใช้วันอาทิตย์ของเขาตื่นตั้งแต่ตี 5 เพื่อลุกขึ้นมาฝึกซ้อมตามโปรแกรมที่เขาได้วางไว้ที่ระยะทาง 18-22 กิโลเมตร เริ่มต้นที่ความเร็ว 5.30-5.45 นาทีต่อกิโลเมตร จนถึง 4 นาทีต่อกิโลเมตร เพื่อเป้าหมายในการทำลายเวลาที่ดีที่สุดของเขาเองในสนามแข่งขัน จนสุดท้ายเขาได้กลายเป็นมนุษย์ที่วิ่งมาราธอนเร็วที่สุดในโลกด้วยเวลา 2.01.39 ชั่วโมง ในการแข่งขัน BMW Berlin Marathon 2018 ประจำปี 2018

 

นั่นอาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้นักวิ่งวัย 33 ปี เอเลียด คิปโชเก จากเคนยา ถูกขนานนามว่าเป็น ยูเซน โบลต์ แห่งวงการมาราธอน และหนึ่งในนักวิ่งระดับตำนานของโลกที่มีรายได้มหาศาล แต่ยังทำความสะอาดห้องน้ำของตัวเอง มีระเบียบวินัยแม้ว่าจะยืนอยู่ในตำแหน่งผู้ที่วิ่งมาราธอนได้เร็วที่สุดในโลก และเป็นนักปราชญ์แห่งวงการที่มักสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนจากทั่วโลก ด้วยแง่คิดที่เขาได้รับจากการวิ่งด้วยสองเท้าตั้งแต่วัยเรียน

 

การใช้สองเท้าเป็นพาหนะเดินทาง กับการเริ่มต้นปลูกต้นไม้ในวัยเด็กของคิปโชเก

 

 

“ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเริ่มต้นปลูกต้นไม้คือ 25 ปีก่อน และช่วงเวลาที่ดีที่สุดรองลงมาคือการเริ่มต้นวันนี้” เป็นอีกหนึ่งประโยคที่ เอเลียด คิปโชเก กล่าวถึงสิ่งที่เขาเรียนรู้จากการวิ่งตลอดมาให้กับนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ถึงการเริ่มต้นลงทุนกับเวลา หากคุณต้องการความสำเร็จในอนาคต

 

การเริ่มต้นลงทุนของคิปโชเกเกิดขึ้นในวัยเด็ก วันที่การวิ่งคือพาหนะเดินทางสำหรับเขา จากบ้านไปสู่โรงเรียน แต่หารู้ไม่ว่าช่วงเวลานั้นคือการเริ่มสะสมไมล์ของเขาจนต่อยอดมาสู่ความสำเร็จในวันนี้

 

 

ลูกคนเล็กที่เติบโตใน Kapsisiywa หมู่บ้านเล็กๆ ทางตอนเหนือของเคนยา โดยมีแม่เป็นครู และคุณพ่อเสียชีวิตตั้งแต่วัยเด็ก

 

หลังจากเรียนจบ คิปโชเกได้ยกระดับการวิ่งของเขาด้วยการขนนมสดจากเพื่อนบ้านไปขายในตลาด แต่ส่วนหนึ่งที่เขาตัดสินใจวิ่งอย่างต่อเนื่อง เพราะเขามีแรงบันดาลใจมาจาก แพทริก แซง ตำนานนักวิ่งชาวเคนยา เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก

 

ปี 2001 คือจุดเริ่มต้นของการร่วมงานกับ แพทริก แซง ไอดอลในวัยเด็กของเขา

 

“เมื่อก่อนจะมีเด็กคนหนึ่งเข้ามาหาผมและขอโปรแกรมฝึกซ้อม และทุก 2 สัปดาห์ผมจะมอบโปรแกรมให้เขา และทุกอย่างก็เกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือน” แซงให้สัมภาษณ์ถึงวันที่เขาพบเจอกับเด็กผู้ค้นพบหนทางของตัวเองตั้งแต่วัยเยาว์

 

สุดท้ายคิปโชเกก็ฝึกซ้อมจนสามารถคว้าแชมป์ภูมิภาคได้สำเร็จ และวันนั้นจึงเป็นครั้งแรกที่แซงถามชื่อของเด็กคนนั้น และเขาก็ได้พบว่าแม่ของคิปโชเกคือครูของแซงเมื่อตอนเขาเรียนอนุบาล

 

ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น โดยแซงเป็นผู้ที่มอบอุปกรณ์สำคัญสำหรับนักวิ่งทุกคน นั่นคือนาฬิกาเรือนแรกให้กับคิปโชเก ทั้งคู่เติบโตขึ้นมาในเวทีการวิ่งพร้อมๆ กันหลังจากนั้น โดยแซงเป็นเหมือนทั้งโค้ชและผู้ให้คำปรึกษาทุกๆ เรื่องในคนเดียวกัน

 

 

“ในวัยเยาว์ คุณหวังเสมอว่าสักวันหนึ่งคุณจะกลายเป็นคนมีชื่อเสียง และในระหว่างการเดินทางสู่เป้าหมายนั้น คุณต้องการใครสักคนที่จะคอยให้กำลังใจ ไม่สำคัญว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร แต่เขาคนนั้นต้องเป็นคนที่เชื่อมั่นในความฝันของคุณ

 

“สำหรับผมแล้วเมื่อคุณเจอคนวัยเยาว์ที่มีแพสชัน คุณไม่ควรทำให้เขาผิดหวัง แต่ควรให้คำแนะนำและความช่วยเหลือเพื่อดูพวกเขาเติบโต” แซงกล่าวถึงประสบการณ์การทำงานร่วมกับคิปโชเกตั้งแต่วัยเด็ก

 

ซึ่งคิปโชเกก็ยอมรับว่าหากเขาไม่ได้พบกับแพทริก แซง ในวันนั้น ชีวิตของเขา เส้นทางชีวิตของเขาอาจจะไม่ได้มาถึงจุดนี้

 

แซงหน้านักวิ่งสถิติโลกในวัย 18 ปี

 

 

เมื่อคุณค้นพบสิ่งที่คุณชอบเร็ว คุณก็จะสามารถเดินหน้าไปได้ไกลในสายงานนั้น คือสิ่งที่ผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์หลายคนมักจะกล่าวกับวัยรุ่นที่กำลังค้นหาตัวเอง แต่สำหรับคิปโชเกที่ค้นพบตัวเองตั้งแต่วัยเด็กแล้ว เขาไม่ได้เพียงแค่ไปไกล แต่เขาไปในความเร็วที่น่าตื่นเต้นอีกด้วย

 

เมื่อปี 2003 เพียง 2 ปีหลังจากร่วมงานกับแซง คิปโชเกก็แจ้งเกิดในการแข่งขันระดับโลก เมื่อเขาสามารถเอาชนะ Hicham El Guerrouj เจ้าของสถิติโลกในการแข่งขัน 5,000 เมตรชิงแชมป์โลกที่สตาร์ท เดอ ฟรองซ์ ใกล้กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งในเวลานั้นคิปโชเกมีอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น

 

ปี 2012 กับ 13 กิโลเมตรแห่งความเปลี่ยนแปลงของคิปโชเก

 

 

การก้าวเข้าสู่เวทีระดับสากลของเขาที่ระยะ 5,000 เมตรต่อยอดสู่การแข่งขันโอลิมปิก ซึ่งเขาสร้างความสำเร็จสูงขึ้นเรื่อยๆ ในตำแหน่งโพเดียม จากเหรียญทองแดงในปี 2004 จนถึงเหรียญเงินในปี 2008 แต่แล้วเขาก็ต้องพบกับกิโลเมตรแห่งความเปลี่ยนแปลงในชีวิตการวิ่งของเขา

 

 

ปี 2012 เชื่อหรือไม่ว่าคิปโชเกจบการแข่งขันคัดเลือกตัวแทนทีมชาติเคนยาไปโอลิมปิกในอันดับที่ 7 และทำให้เขาพลาดโอกาสไปแข่งขันโอลิมปิก ซึ่งนับเป็นความผิดหวังที่สุดในชีวิตของเขา เพราะเป้าหมายสำคัญที่สุดในชีวิตอย่างหนึ่งของคิปโชเก คือเหรียญทองโอลิมปิก

 

แต่คิปโชเกได้เลือกใช้ความผิดหวังทั้งหมดนั้นเป็นแรงผลักดัน จากการวิ่ง 5,000  เมตร สู่การวิ่ง 42.195 กิโลเมตร หรือระยะมาราธอน และเป็นการตัดสินใจเดินออกจากลู่วิ่งสู่ถนนใหญ่นั่นเอง

 

คิปโชเกใช้เวลาไม่นานเหมือนกับทุกครั้งที่เขาลงแข่งวิ่ง และประเดิมสนามด้วยการคว้าแชมป์มาราธอนที่ฮัมบูร์กปี 2013 ด้วยเวลา 2.05.30 ชั่วโมง ก่อนจะจบรายการ BMW Berlin Marathon 2018 ไม่กี่เดือนถัดมา ด้วยผลงานเหรียญเงินตามหลัง วิลสัน คิปแซง เพื่อนร่วมชาติ อีกหนึ่งนักวิ่งที่สร้างสถิติโลกไว้เช่นกัน

 

แต่หลังจากนั้นคิปโชเกก็สร้างสถิติลงแข่ง 8 รายการ คว้าเหรียญทอง 8 รายการ รวมถึงก้าวไปสู่เป้าหมายใหญ่สุดของเขา เหรียญทองโอลิมปิกที่นครรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล เมื่อปี 2016 ได้สำเร็จ จนวงการวิ่งเริ่มตั้งคำถามว่ามีอะไรไหมที่คิปโชเกทำไม่ได้

 

Breaking2 กับความต้องการทดสอบขีดจำกัดของมนุษย์

 

 

 
 
 
 
 
View this post on Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

The historic moment @globalsportscommunication @nike @breaking2

A post shared by Eliud Kipchoge (@kipchogeeliud) on

 

“มีคนบอกว่าถ้าคุณสามารถวิ่งมาราธอนได้ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง คุณจะตาย ผมพลาดเวลานั้นไปเพียง 25 วินาที และสำหรับผมแล้วคนทั้งโลกห่างจากความสำเร็จนั้นเพียง 25 วินาทีเท่านั้น”

คิปโชเกได้กล่าวถึงวันที่เขาและทีมนักวิทยาศาสตร์กีฬาชั้นนำ รวมถึงทีมงาน Nike ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ทดสอบขีดจำกัดของมนุษย์ ด้วยเป้าหมายนำมนุษย์คนแรกเข้าเส้นชัยในการวิ่งระยะมาราธอนให้ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง โดยใช้ชื่อว่า Breaking2

 

โดยในการทดสอบวิ่งที่สนามแข่งรถมอนซา ในอิตาลี พร้อมกับนักวิ่งชั้นนำของโลกที่มาช่วยทำหน้าที่ Pacer ช่วยให้คิปโชเกเข้าเส้นชัยด้วยเวลาดีที่สุดที่ศักยภาพของมนุษย์จะสามารถนำพาไปได้ สุดท้ายเขาทำเวลาได้ทั้งหมด 2.00.25 ชั่วโมง ห่างไปเพียง 25 วินาทีเท่านั้น

 

 

 
 
 
 
 
View this post on Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

Keep goin, Toon! You’ve inspired us all with your epic run. I know you can #break2191k. We are all behind you! @artiwara #breakthrough

A post shared by Eliud Kipchoge (@kipchogeeliud) on

 

ซึ่งหลังจากความพยายามสร้างสถิติใหม่ด้วย Breaking2 แล้ว คิปโชเก ยังได้ส่งกำลังใจจากแดนไกลมาถึง ตูน บอดี้สแลม กับโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ผ่านการโพสต์ภาพรองเท้า Nike พร้อมกับแคปชัน

 

“สู้ต่อไปตูน คุณได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับพวกเราด้วยการวิ่งที่ยิ่งใหญ่ เราเชื่อว่าคุณจะวิ่งได้ 2,191 กิโลเมตร พวกเราพร้อมสนับสนุนคุณ”

 

และ #ToonKeepInSpiring ให้กำลังใจตูนในการ #Break2191KM ให้สำเร็จอีกด้วย

 

นักปราชญ์แห่งวงการวิ่ง

 

 

ในวงการกีฬา สำหรับนักกีฬาทุกคนที่สามารถสร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการได้สำเร็จ มักจะสามารถกลั่นกรองความยากลำบากของเส้นทางการฝึกซ้อมและความพยายามมาเป็นคำพูดที่ช่วยสร้างแรงกระตุ้นให้คนทั่วไปทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

 

สำหรับคิปโชเกถือว่าเป็นหนึ่งในนักกีฬาตัวอย่างที่สามารถสร้างผลงานในสนามและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลกได้พร้อมๆ กัน เพราะเขาสามารถเรียบเรียงคำพูดและสิ่งที่เขาได้อ่านจากห้องสมุดภายในแคมป์ ฝึกซ้อมบวกกับประสบการณ์มาสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลก จนหลายคนยกย่องให้เขาเป็นนักปราชญ์แห่งวงการวิ่ง

 

 

 
 
 
 
 
View this post on Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

It was my privilige to speak at @theoxfordunion last night in front of a wonderful audience. “To be succesful you must be self disciplined and consistent”

A post shared by Eliud Kipchoge (@kipchogeeliud) on

 

Bernard Lagat เจ้าของเหรียญโอลิมปิก 2 สมัย และหนึ่งในทีมนักวิ่งช่วยเหลือคิปโชเกใน Breaking2 ได้กล่าวถึงการร่วมเดินทางกับคิปโชเกระหว่างทัวร์ในเอเชียว่า คิปโชเกสามารถเป็นนักพูดให้แรงบันดาลใจได้

 

“เราอยู่ด้วยกัน 2 สัปดาห์ และเขาไม่เคยใช้ประโยคซ้ำเลยสักครั้งเดียว”

 

หนึ่งในประโยคที่สะท้อนแง่คิดในการใช้ชีวิตและการวิ่งของเขาคือ “คนที่มีระเบียบวินัยในชีวิตเท่านั้นถึงจะได้รับอิสรภาพ ถ้าคุณไม่มีระเบียบวินัยคุณจะเป็นทาสของของอารมณ์และแพสชัน”

 

ซึ่งเวลาที่เขาสามารถทำได้ และตารางฝึกซ้อมที่เขาตื่นขึ้นในเวลาตี 5 ทุกวันไม่เว้นแม้แต่วันอาทิตย์เพื่อฝึกซ้อม เป็นบทพิสูจน์ด้วยตัวเองว่า ทุกประโยคที่เขาพูด เขาได้ลงมือทำจริงจนนำพาเขาสู่ความสำเร็จด้วยการทำลายสถิติครั้งแล้วครั้งเล่า

 

คิปโชเกยังเป็นนักข่าวตัวยง อ่านหนังสือตั้งแต่ปรัญชา อัตชีวประวัติในวงการกีฬา แต่หนังสือที่เขาชอบมากที่สุดคือ The 7 Habits of Highly Effective People เขียนโดย Stephen R. Covey

 

นอกจากการอ่านแล้ว คิปโชเกยังมีสมุดจดบันทึกที่เขาใช้จดบันทึกการฝึกซ้อมตลอดอาชีพนักวิ่ง ซึ่งปัจจุบันเขามีทั้งหมด 15 เล่มแล้ว หนึ่งในประโยคที่เขาเขียนลงในหนังสือเพื่อเตือนสติในการเดินทางสู่เป้าหมายของเขาคือ ‘แรงบันดาลใจ+ระเบียบวินัย = ความสม่ำเสมอ’

 

เป้าหมายหลังการวิ่ง

 

 

 
 
 
 
 
View this post on Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

My favourite kind of run ?

A post shared by Eliud Kipchoge (@kipchogeeliud) on

 

หลังจากการก้าวข้ามเส้นชัยสุดท้ายของคิปโชเกจบลง ด้วยความรักและความเคารพที่เขามีต่อการวิ่ง คิปโชเกวางแผนที่จะเปิดธุรกิจเกี่ยวกับการวิ่ง และเปิดร้านขายอุปกรณ์กีฬา รวมถึงเดินทางไปทั่วโลกเพื่อส่งเสริมให้เยาวชนมีความรักในกีฬา

 

“เมื่อวันที่ผมเกษียณจากการวิ่ง ผมอยากจะเดินทางไปทั่วเคนยาและทั่วโลก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนรักกีฬา ผมจะสร้างการแข่งขัน 10 กิโลเมตร 20 กิโลเมตร หรือระยะมาราธอนให้เยาวชนทุกคนสามารถลงแข่งขันและสร้างรายได้ที่ดี

 

“แต่ผมไม่ต้องการให้เยาวชนทิ้งการเรียน เพราะเราสามารถใช้การศึกษามาช่วยพัฒนากีฬาไปข้างหน้า ผมอยากให้ประเทศต่างๆ ลงทุนกับกีฬาและสร้างอาชีพให้กับเยาวชน”

 

แต่ในวันนี้ความท้าทายของคิปโชเกยังไม่จบลงทั้งในและนอกสนาม เพราะสำหรับวงการวิ่งโดยเฉพาะสำหรับเคนยา ที่ผ่านมาถูกรายล้อมไปด้วยข่าวการใช้สารกระตุ้น ซึ่งคิปโชเกก็ต้องการพิสูจน์ให้เยาวชนทั่วโลกเห็นว่า คุณสามารถประสบความสำเร็จได้โดยไม่ต้องพึ่งทางลัด

 

“ผมจะเป็นคนแรกที่พูดว่า ถ้าคุณมีการฝึกซ้อมดีที่ มีสมาธิที่ดี รักษาสุขภาพ หลังจากนั้นคุณก็จะสามารถสร้างสถิติโลก คว้าเหรียญรางวัล

 

“ผมบอกทุกคนเสมอว่านี่คือสิ่งที่ง่ายมาก จงทำงานหนัก ถ้าคุณทำงานหนัก ทำตามสิ่งที่ต้องทำ และแยกสิ่งที่สำคัญให้ชัดเจน หลังจากนั้นคุณจะสามารถทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยมโดยไม่ต้องพึ่งเส้นทางลัด แต่ถ้าคุณใช้ทางลัด คุณจะไม่เป็นอิสระ”

 

End Credit เบื้องหลังความสำเร็จและระเบียบวินัยคือความเรียบง่ายที่คิปโชเกพบเจอในบ้านเกิดเคนยา

 

 

ตัดภาพกลับมาสู่วันธรรมดาของคิปโชเกที่เคนยา นอกจากการฝึกซ้อมในช่วงเช้า และช่วงเย็นแล้ว คิปโชเกทำทุกอย่างเหมือนพ่อบ้านคนหนึ่ง เขาหั่นผัก ทำอาหาร ล้างห้องน้ำ และตัดหญ้า

 

“เป็นแคมป์ฝึกซ้อมที่เรียบง่าย แคมป์นี้ถูกตั้งขึ้นเป็นตัวอย่างสำหรับนักวิ่งรุ่นต่อไปที่ไม่มีรายได้” Valentijn Trouw ผู้จัดการของคิปโชเกกล่าวถึงชีวิตที่เรียบง่ายของเจ้าของสถิติโลกมาราธอนในแคมป์ฝึกซ้อม

 

หนึ่งวันของเขาคือการตื่นตั้งแต่ตี 5 เริ่มวิ่งในช่วงเช้า ก่อนที่ช่วงบ่ายเขาจะนอนพักเป็นเวลา 1 ชั่วโมง และล้างอุปกรณ์การวิ่งของเขาก่อนจะเริ่มต้นซ้อมวิ่งครั้งที่ 2 ตอน 16.00 น. และหลังจากมื้อเย็น เขาจะรวมตัวกันเล่นเกม แต่ทุกคืนเขาต้องเข้านอนก่อน 21.00 น.

 

จากการลงทุนด้วยต้นทุนที่มีเพียงน้อยนิด การสะสมไมล์การวิ่งของเขาแทบไม่ต่างกับการเลือกลงทุนเม็ดเงินในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับอนาคต แน่นอนทุกการลงทุนมีความเสี่ยง เหมือนกับที่คิปโชเกยอมรับว่าชีวิตของเขาคงไม่เป็นแบบนี้ถ้าเขาไม่ได้พบกับโค้ชแพทริก แซง

 

 

แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่นำพาเขามายืนอยู่หน้าสถิติโลกใหม่ในกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 กันยายนที่ผ่านมาคือระเบียบวินัย เพราะคิปโชเกมองว่ากีฬาของเขาคืออาชีพหนึ่งที่เขาต้องพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง และระเบียบวินัยนี้เองที่ช่วยให้เขาหลุดพ้นจากสิ่งที่เขาไม่ต้องการทำ และสามารถเดินทางทำในสิ่งที่เขารักและเชื่อมั่น

 

ทำในสิ่งที่เชื่อ เชื่อในสิ่งที่ทำ เหมือนกับที่คิปโชเกเคยกล่าวไว้ว่า “อย่าเป็นเพียงแค่นักวิ่งที่เร็วที่สุดในโลก แต่เป็นนักวิ่งที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์”

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising