เกาะเสม็ดคือหนึ่งจุดหมายปลายทางที่คู่ควรแก่วันหยุดพักผ่อน นอกเหนือจากขึ้นชื่อเรื่องการเป็นเกาะแห่งปาร์ตี้ที่เดินทางไม่ไกลจนเกินไปนัก ใครจะไปคิดว่า อีกมุมหนึ่งทางทิศเหนือของเกาะเสม็ดจะมีคาเฟ่แสนสงบซ่อนตัวอยู่บริเวณหาดของอ่าวน้อยหน่า ภายในบริเวณหมู่บ้านทะเล รีสอร์ต
Love Island Cafe ไม่ใช่คาเฟ่ที่สร้างขึ้นมาเพื่อตอบรับกับบรรยากาศทะเลสวยๆ ของเกาะเสม็ด หรือเพียงแค่เอาใจเหล่าอินสตาแกรมมาเบิล (Instagrammable) ที่มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เท่านั้น แต่ความเลิศรสของที่นี่คือรสชาติขนมหวานที่พิถีพิถันจากเชฟมากประสบการณ์ ที่เมื่อได้ลิ้มลองแล้ว คุณอาจจะลืมริ้วทะเลสวยข้างหน้าไปเลยก็ได้
ภาพที่ 1
นั่งเรือจากลาแผ่นดินใหญ่มาไม่ถึง 20 นาที คุณก็จะพบกับอ่าวน้อยหน่าอันเป็นอ่าวอันดับแรกสุดทางตอนเหนือของเกาะที่ใกล้ๆ กับท่าเรือและนางพันธุรัต หากคุณเข้าพักที่โรงแรมหมู่บ้านทะเล รีสอร์ต ก็จะมีเรือไปรับถึงที่ฝั่ง และมาลงที่โรงแรมทันที หรือถ้าคุณไม่ได้พักที่นี่ก็โบกมือหยอยๆ เรียกสองแถวแล้วบอกว่า “ไปอ่าวน้อยหน่า ไปหมู่บ้านทะเล” แค่นี้ก็จบ อาคารหลังเล็กกะทัดรัดที่เมื่อก่อนเป็นเพียงแค่ห้องเก็บของเกรอะกรัง ตอนนี้กลายมาเป็นคาเฟ่ที่ชื่อว่า Love Island Cafe ซ่อนตัวอยู่ใต้ร่มไม้หูกวางขนาดใหญ่ มีเตียงผ้าใบสีสวยไว้บริการ รวมถึงเก้าอี้หวายสานจำนวนหนึ่ง และแน่นอนว่า เขามีชิงช้าด้วย ถ่ายรูปสวยๆ ตรงนี้ได้หนึ่งจุด!
ภาพที่ 2
“ชิลม้ากกกกก” ต้องขอกล่าวตวัดท้ายเสียงสูงเพื่อให้ผู้ฟังรู้สึกว่ามันมากกกกกจริงๆ คล้ายจะเป็นกระท่อมเล็กๆ ที่มุงด้วยใบจากแห้งๆ เลือกใช้โทนสีสดใสเพื่อตอบรับกับทะเลตรงหน้า ส่วนต้นหูกวางด้านใบก็ทำหน้าที่ร่มเงาที่ยอดเยี่ยม หากคุณมาทะเลแต่ไม่อยากร้อน ให้แสงที่ลอดผ่านต้นไม้ลงมาช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นขึ้นก็ยอดเยี่ยมแล้ว
ภาพที่ 3
อย่างที่เล่าให้ฟังตั้งแต่แรกว่า ที่นี่โดดเด่นในเรื่องขนมหวานอย่างมาก ฉะนั้นการที่คุณเปิดประตูเข้าไปในร้าน คุณก็จะพบกับขนมประจำวันที่เขาเลือกมาเสิร์ฟคุณจากการทำสดๆ กันหลังร้านนี่แหละ พิธีรีตรองก็ไม่ต้องเยอะ ด้วยขนาดร้านที่ไม่ใหญ่ ฉะนั้น คุณ พนักงาน รวมถึงเชฟ ก็จะกลายเป็นชุมชนเล็กๆ ไปโดยปริยาย พูดคุยทักทายพวกเขาได้นะ
นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มหลากหลายไว้บริการคุณ หากอยากจะดื่มกาแฟสักแก้วก็ดี หรือเบียร์เย็นๆ สักขวดก็ได้ อยู่บนเกาะแสนชิลแบบนี้ จะใช้เวลาให้มีความสุขที่สุดอย่างไรก็ได้จริงไหม
ภาพที่ 4
สิ่งแรกที่คุณควรจะได้ชิมคือ ‘สโคน’ ที่เรียกว่าเป็นหนึ่งในทีเด็ดของคาเฟ่นี้ ใครจะไปคิดว่าเราจะต้องมานั่งกินสโคนแบบผู้ดีจิบชาบนเกาะเสม็ดที่เลื่องลือว่าควรจะต้องเมาให้สุด เต้นให้สุดล่ะ? แต่ที่นี่กลับมีสโคน และเราก็ไม่พลาด ด้วยเนื้อสัมผัสที่ไม่กระด้าง แต่ก็ไม่ชุ่มฉ่ำเกินไป รวมถึงแยมที่ผลิตเองบนเกาะ บิดนิด ทาหน่อย ปาดวิปครีมลงไป ไม่มีอะไรจะเลอเลิศไปกว่านี้แล้ว
ภาพที่ 5
ของหวานทั้งหมดในร้าน (จริงๆ ก็ทุกอย่างแหละ) อยู่ภายใต้การดูแลของ เชฟนัท-สิทธา บุญโพธิ์อภิชาติ ผู้เคยผ่านประสบการณ์ระดับสูงในการทำงานกับร้านอาหารระดับโลกมาแล้วตั้งแต่ Amber ในฮ่องกง Huka Lodge ในนิวซีแลนด์ และ Eleven Madison Park ร้านดังระดับโลกในนิวยอร์ก ที่เขาได้รับคำเชิญชวนของเพื่อนให้มาติดเกาะอยู่ที่นี่ รวมถึงเขาอยากจะพักเบรกจากความวุ่นวายในชีวิต ตัดสินใจผันตัวมาเป็นเชฟขนมหวานบนเกาะเสม็ดแห่งนี้
โดยสองจานที่คุณเห็นนี้คือ ฝีมือเชฟนัทที่เลือกทำสิ่งที่เขาถนัดคือ ช็อกโกแลตที่เข้มข้นมาในรูปแบบต่างๆ เช่น ด้านซ้ายที่ทำรูปร่างเหมือนผลส้มสวยเนียน เคาะจนแตกโพละออกมาเพื่อรับรสส้ม ส่วนทางด้านขวาคือ บานอฟฟีหน้าตาไม่คุ้นเคย เชฟใช้เทคนิคการทำช็อกโกแลตให้แข็งตัวเสมือนเป็นบรรจุภัณฑ์ของสิ่งที่อยู่ภายในอีกที เพื่อคงไว้ซึ่งรสชาติและง่ายดายต่อการเก็บ และรสชาติก็หวานละมุน ใครรักของหวาน ที่นี่คืออีกร้านที่คุณไม่ควรพลาด!
ภาพที่ 6
อิ่มท้องอิ่มใจแล้ว จะมีอะไรที่ดีไปกว่าการได้นั่งมองทะเลโง่ๆ (เห็นหลายๆ คนเขาชอบพูดแบบนี้กัน) ‘โง่ๆ’ ที่หมายถึงไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้น อยากนั่งเฉยๆ แต่ถ้าหากความโปรดักทีฟในชีวิตมันยั้งไม่อยู่ รู้สึกว่านั่งเฉยๆ ก็เกรงจะน่าเบื่อไป ลองหยิบหนังสือสักเล่มไปเป็นเพื่อนสิ เพอร์เฟกต์!
Love Island Cafe
Open: เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 07.00-19.00 น.
Address: โรงแรมหมู่บ้านทะเล รีสอร์ต เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง
Budget: 200 บาท
Contact: โทร. 09 4698 2644 หรือทางเพจ www.facebook.com/loveislandcafe
Map: