เชื่อว่าถ้าเอะอะอยากกินดื่มอะไร ไม่ว่าใครก็คงปากไวว่าขอไปซอยทองหล่อหรือสาทร แต่เราบอกเลยว่าสาทรหรือถนนสุขุมวิททั้งเส้นต้องมีร้อนๆ หนาวๆ เมื่อย่านเก่าเริ่มตื่นตัวพลิกฟื้นความฮิปในอดีตให้หวนกลับมาอีกครั้ง
เมื่อปีก่อน ซอยนานา ถนนไมตรีจิตต์ ซึ่งคู่ขนานกับถนนเยาวราชได้พิสูจน์ให้เราเห็นถึงความฮิปมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Teens of Thailand, Nahim Cafe x Handcraft หรือ Tep Bar ได้ปลุกปั้นย่านนี้ให้มีชีวิตชีวาทั้งช่วงกลางวันไปจนถึงยามค่ำคืน และความแรงนั้นก็ไม่มีท่าทีว่าจะตกลง พร้อมเปิดบาร์ 2 แห่งใหม่คือ Ba Hao และ Pijiu Bar ยังไม่นับรวมบาร์ใหม่ในเครือ Teens of Thailand ที่เตรียมเปิดเร็วๆ นี้
ถนนเจริญกรุงเองก็ดูเหมือนตื่นตัวกับเขาเหมือนกัน วันดีคืนดีก็ฮิปขึ้นมา โดยมีร้าน 80/20 นำทัพ ก่อนตามติดด้วย FooJohn, Little Market และ Outlaw Creative Cuisine ล่าสุดการมาถึงของ TCDC ยิ่งทำให้ย่านนี้ดีงาม และเตรียมปูเสื่อรอ Tropic City บาร์แห่งใหม่ที่จะเปิดถัดจาก 80/20
ย่านท่าเตียนก็ยังไม่หยุดนิ่ง แม้ว่าล่าสุด Tonkin – Annam จะได้ชื่อว่าใหม่ที่สุด แต่ก็กำลังใกล้ถูกล้มแชมป์ด้วย Supanniga Eating Room x Roots Coffee และบาร์แห่งใหม่ Ku Bar บนชั้น 3 ตึกโรงพิมพ์ด้านหลัง Brown Sugar ที่เข้ามาเพิ่มความฮิปให้กับถนนพระสุเมรุ หลังจากที่ย่านนี้เงียบไปพักใหญ่
Ba Hao
แสงไฟสีแดงชี้ชวนให้เราเชื่อว่า ปา เฮ่า (Ba Hao) คือบาร์อย่างไม่ต้องสงสัย (ซึ่งเราเดาผิด) ปา เฮ่า เป็นคำภาษาจีน แปลว่า เลขแปด ซึ่งเป็นเลขมงคลสำหรับชาวจีน และยังเป็นเลขที่บ้านจริงๆ ด้วย โดยอาศัยอาคารเก่า 4 ชั้นทำเป็นบาร์ ร้านอาหาร และห้องพัก
ที่นี่มีดีเรื่องอาหารจีนหน้าตาเรียบๆ ที่กินง่าย แต่รสชาติจัดหนัก Soft Tofu เต้าหู้เนื้อเบานุ่มราดซอสและไข่เยี่ยวม้า และ Duck Wontons เกี๊ยวเป็ดราดน้ำมันงาแบบเผ็ด ส่วนของหวานที่เป็นทีเด็ด Ba Hao’s Pudding พุดดิ้งน้ำเชื่อมเก๋ากี้ และ Coriander Ice Cream ไม่น่าเชื่อว่าผักชีที่คนญี่ปุ่นปลื้มนักหนาจะกลายเป็นของหวานเช่นกัน
ส่วนค็อกเทลนำเอาวัตถุดิบของย่านนี้มานำเสนอใหม่ผ่าน Opium เนโกรนีที่เพิ่มกลิ่นรสจีนด้วยเหล้าโสม Five Rivers รัมกับผงพะโล้ และ Forbidden Gold ลิเคอร์พีชและเบียร์ชิงเต่า (Tsingtao)
Open: 18.30-24.00 น. (ปิดวันจันทร์)
Address: 8 ซอยนานา ถนนไมตรีจิตต์ ป้อมปราบฯ กรุงเทพฯ
Contact: 09 1846 9659, 08 1454 4959
Page: www.facebook.com/8bahao
Map:
Pijiu Bar
ใครชอบกลิ่นอายเก๋ๆ แบบเซี่ยงไฮ้ ห้ามพลาด Pijiu Bar ภายใต้ทีม Beervana ผู้นำเข้าคราฟต์เบียร์ที่ควบรวมเอาความเป็นจีน ไม่เว้นแม้แต่ชื่อ ‘ผีจิ่ว’ ที่แปลว่าเบียร์ หรือโต๊ะเก้าอี้ที่แทบจะเหมือนกับโรงเตี๊ยมในหนัง ชอว์ บราเธอร์สไม่มีผิดเพี้ยน
ที่นี่เด่นเรื่องการหมุนเวียนคราฟต์เบียร์ทั้งไทยและเทศเข้ามาแบบไม่จำกัดค่ายผ่านเบียร์สดและเบียร์ขวด แต่ที่เด่นและเราเชื่อว่ามีเฉพาะที่ Pijiu Bar คือโคลด์คัตจากเยาวราช China Town Coldcut เป็ดรมควัน หมูรมควัน กุนเชียง กุนเชียงผสมตับเป็ดกับเหล้าจีน และหมูหวาน ที่กินเข้ากับเบียร์ได้แบบไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะเบียร์ดำ
แนะนำให้มาช่วง 6 โมงเย็นถึง 2 ทุ่มครึ่ง เพราะเบียร์ลดราคาเหลือเพียง 200 บาทถ้วน เร็วๆ นี้ Pijiu Bar ยังเตรียมเปิดร้านอาหารเชฟเทเบิ้ลที่หมุนเวียนเชฟมากหน้าหลายตามาปรุงอาหารบนชั้น 2 ด้วย
Open: เปิดบริการ 18.00-24.00 น. (ปิดวันจันทร์)
Address: ซอยนานา ถนนไมตรีจิตต์ ป้อมปราบฯ กรุงเทพฯ
Contact: โทร. 08-1839-2832,
Page: www.facebook.com/pijiubar
Map:
80/20
80/20 (เอ็ทตี้ ทเวนตี้) ไม่ใช่ร้านใหม่ธรรมดา เพราะเขาโดดเด่นเรื่องปรัชญาการทำอาหารที่คำนึงถึงความเป็นท้องถิ่น โดยเลือกใช้วัตถุดิบในประเทศ 80 เปอร์เซ็นต์ และวัตถุดิบนำเข้าอีก 20 เปอร์เซ็นต์ ด้วยคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจ จึงถูกนำไปรวมไว้ในนิทรรศการ Charoenkrung Neighborhood ของศูนย์ความรู้ด้านการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ (TCDC) ที่ไปรษณีย์กลาง บางรัก
ที่สำคัญการผสมผสานอย่างลงตัวของเชฟหลากหลายสัญชาติอย่างเชฟโจ้-ณพล จันทรเกตุ เชฟชาวไทย, เชฟซากิ โฮชิโนะ เชฟของหวานชาวญี่ปุน และเชฟแอนดรูว์ มาร์ติน ทำให้อาหารของที่นี่ก้าวข้ามข้อจำกัดหลายอย่าง ซึ่งเป็นคุณสมบัติของอาหารสมัยใหม่ อีกความตื่นเต้นคือเชฟเทเบิ้ลที่จำกัดเพียง 8 หัวต่อวันเท่านั้น
จุดเด่นอยู่ที่ In-house Preservation ที่ช่วยเสริมรสชาติในจานอาหาร อาทิ Foie Gras Terrine ปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำมะพร้าว, หอมดอง, แตงกวาดอง, แรดิชดอง, โพรชูตโตเป็ด, และริลเรตต์เป็ด (duck rillette) รวมถึงของหวานจากเชฟซากิ
Open: 18.00-24.00 น. (ปิดวันอังคาร) เฉพาะเสาร์-อาทิตย์ เพิ่มเวลา 10.00-14.00 น.
Address: 1052-1054 ถนนเจริญกรุง บางรัก กรุงเทพฯ
Contact: 0 2639 1135
Page: www.facebook.com/8020bkk
Map:
Tonkin – Annam
ตงกิน-อันนัม ร้านอาหารเวียดนามของกาย-ไลย มิตรวิจารณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและผู้ปลุกปั้น F.A.C.T Collective ที่นำเอาสูตรอาหารของครอบครัวซึ่งมีเชื้อสายเวียดนามมาแนะนำผ่านคำว่า ‘ตงกิน’ แปลว่า ภาคเหนือ และ ‘อันนัม’ แปลว่า ภาคกลาง นำเสนอรสชาติอาหาร 2 ภาคไว้ด้วยกันในร้านเดียว รับรองว่าถ้าเจอกาย คุณจะได้บทสนทนาเกี่ยวกับอาหารในมุมมองมนุษยวิทยาที่น่าสนใจ
เมนูแนะนำของที่นี่ ได้แก่ บั๋นห์แบ่ว (Bánh Bèo) แป้งข้าวนึ่งคล้ายขนมถ้วย, หน้าหมูสับ, หมูย่าง, ต้นหอม และหอมเจียว กินกับน้ำปลาเวียดนามผสมส้มจิ๋ว เกี๊ยวนึ่งเมืองเว้ จานเด่นจากภาคกลาง แป้งใสสอดไส้หมูสับ, กุ้งแห้ง, เห็ด และแคบหมู ส่วน แหนมเนือง สูตรของที่นี่แปลกจนเราไม่คุ้นเคย เพราะใช้เนื้อหมูสับแทนเนื้อหมูเด้ง และใช้แป้งแหนมเนืองกรอบนำเข้าจากเวียดนามโดยไม่ต้องแช่น้ำให้เสียเวลา รวมถึง กาแฟเวียดนาม ที่ใช้ซาบายองแทนไข่แดง
Open: 11.00-22.00 น. (ปิดวันอังคาร)
Address: 69 ซอยท่าเตียน (ธนาคารกรุงไทย) แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
Contact: 09 3469 2969
Page: www.facebook.com/tonkinannam
Map:
Ku Bar
คู บาร์ บาร์แห่งใหม่ที่บังเอิญกลายเป็นบาร์ลับ (speakeasy bar) ด้วยงบประมาณที่จำกัด ทำให้ก้อง-อนุภาส เปรมานุวัติ บาร์เทนเดอร์จากนิวยอร์ก ต้องเลือกใช้พื้นที่ชั้น 3 ของตึกด้านหลังร้าน Brown Sugar เพื่อแนะนำค็อกเทลที่เขาสั่งสมประสบการณ์มาจาก Angel’s Share บาร์สปีกอีซีที่โด่งดังระดับโลกในนิวยอร์ก
ด้วยความสนใจในรสอาหารไทย ทำให้ก้องนำเอากลิ่นอายไทยๆ ผสมลงในค็อกเทลที่หมุนเวียนวัตถุดิบไปตามฤดูกาล นำข้าวโพดคั่วมาผสมกับเหล้าเบอร์เบินเป็น Roasted Corn ที่ได้ความหอมและกลิ่นควัน หรือลิ้นจี่ผสมวอดก้าและนมเปรี้ยวเป็น Lychee แม้แต่กล้วยอบแห้งก็นำมาทำเป็นเครื่องดื่มได้เช่นกันด้วยการผสมกับเหล้าไทยเป็น Banana และ Gooseberry กูสเบอร์รีผสมวอดก้าและเหล้าเกรปฟรุต
Open: วันพฤหัสบดี-อาทิตย์ 17.00-24.00 น.
Address: ชั้น 3 ตรอกข้าง Brown Sugar เลขที่ 469 ถนนพระสุเมรุ พระนคร กรุงเทพฯ
Contact: 0 2067 6731
Page: www.facebook.com/ku.bangkok
Map: