ใครแวะไปนั่งดื่มที่ 4th Wall รอบนี้ อย่าลืมสั่งเมนูค็อกเทลซิกเนเจอร์มาลอง เพราะบาร์เพิ่งปล่อยเมนูเล่มใหม่ที่มีค็อกเทล 12 ตัวให้เลือกจิบ โดยแต่ละแก้วได้แรงบันดาลใจมาจากยุค 1960 ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจหลักในการออกแบบร้าน ทอม เฮิร์น บาร์เมเนเจอร์ประจำเครือนี้ (หลายคนจะเห็นหน้าเขาบ่อยๆ ที่ Vesper) จึงดึงคัลเจอร์เจ๋งๆ ในยุคที่ว่ามาเปลี่ยนเป็นเครื่องดื่มเสียเลย

เมนูซิกเนเจอร์ชุดแรกมีชื่อว่า ‘The 4 Walls of 4th Wall’ แบ่งค็อกเทลออกเป็น 4 หมวด ได้แก่ Brutalism, Futurism, Ideas และ Cinema โดยแต่ละหมวดมี 3 ดริงก์ ส่วนใหญ่เป็นค็อกเทลคลาสสิกที่นำมาทวิสต์ และเราชอบที่ร้านแบ่งเครื่องดื่มเป็นกราฟด้วย ทำให้เลือกแก้วเปิดและแก้วต่อๆ ไปได้ง่ายขึ้น

อย่างเช่น ‘Sunbathing on Venus (460 บาท)’ ดริงก์แก้วสูงที่มีโพรเซ็กโก แคริฟายโยเกิร์ต วานิลลา และฝรั่ง หรือ ‘Equal Parts (460 บาท)’ ค็อกเทลสองสีที่เบสจากรัม สีแดงทำมาจากบีทรูท ส่วนสีอ่อนเป็นกีวี่ผสมไลม์ สองแก้วนี้ดื่มง่ายๆ สบายๆ เหมาะเป็นแก้วแรก

เราชอบ ‘Pleasantville (450 บาท)’ จินผสมเซนฉะ, อาโอโนริ, พีช และโทนิก เพราะนอกจากถ่ายรูปสวย แก้วนี้ยังเป็นแนวไฮบอลที่หลายคนชอบ

‘His Airness (440 บาท)’ มีความเข้มขึ้นมา แต่เราว่าบาลานซ์ดีจนดื่มเพลินๆ เป็นวิสกี้ผสมชัตนีย์มะม่วง ยูซุ เลมอน เครื่องเทศ และไข่ขาว แต่ถ้าใครอยากดื่มหนักๆ ยาวทั้งคืนไปเลย ให้ลอง ‘Two Hours To Doom (520 บาท)’ ค็อกเทลเบสวิสกี้ที่มีความสไปซ์นิดๆ มาพร้อมโคล่ากรานิตารมควัน

ใครที่เป็นสายคลาสสิกค็อกเทลก็ไม่ต้องกลัวไป เพราะบาร์ยังมีเมนูเหล่านั้นให้สั่งอยู่ ซึ่งในเมนูเล่มใหม่จะมีหมวด Staples เป็นคลาสสิกค็อกเทลที่ใส่ลูกเล่นเข้าไปด้วย โดยเราอยากให้ทุกคนลอง ‘Bloody Mary (450 บาท)’ ที่ผสมเครื่องเทศ น้ำปลา เห็ด ท็อปด้วยผักดองและหนังไก่ทอด เมนูนี้แก้วเดียวอาจไม่พอจริงๆ

4th Wall อยู่ด้านในโรงแรม LUXX Langsuan เปิดบริการทุกวัน เวลา 19.00-02.00 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 4thwallbkk