PLANTIFUL คาเฟ่ที่ทำให้การกิน Plant-based เป็นเรื่องง่ายขึ้น

ร้านที่ทำ Plant-based ให้เข้าถึงง่าย

ช่วงนี้เมนูสมูทตี้หลายๆ สีเป็นที่นิยมมากในกลุ่มคนดูแลสุขภาพ ซึ่งนั่นคือเมนูยอดฮิตจากร้าน PLANTIFUL คาเฟ่ Plant-based ที่มีสาขาล่าสุดอยู่ที่ Gaysorn Amarin ความตั้งใจหลักของร้านนี้คือการทำให้เมนู Plant-based เป็นเมนูที่เข้าถึงง่าย กินง่าย รสชาติไม่ต่างจากอาหารที่ใช้เนื้อสัตว์ทำ แต่ผ่านการปรุงให้น้อยที่สุดเพื่อให้ผลดีต่อสุขภาพ

The Vibe

สาขาที่เราไปเป็นสาขา Gaysorn Amarin เดินทางสะดวกสุดๆ ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น GF มีทั้งโซนด้านในและด้านนอก วันไหนอากาศดีๆ เราแนะนำให้นั่งด้านนอกเลย ดูไม่วุ่นวายมาก จิบเครื่องดื่ม กินอาหาร ช่วงบ่ายชิลสุดๆ

The Taste

อย่างที่บอกว่าแนวคิดหลักของที่นี่คือ การทำให้เมนู Plant-based เป็นเมนูที่เข้าถึงง่าย เพราะฉะนั้นเมนูทั้งอาหารและเครื่องดื่มของที่ร้านจะดูมีสีสัน และมีรสชาติที่ใกล้เคียงกับเมนูทั่วไปที่ปรุงด้วยเนื้อสัตว์ แต่การเป็นเมนู Plant-based แค่จะปรุงให้อร่อยอย่างเดียวแต่ไม่คิดถึงเรื่องสุขภาพก็ไม่ได้ ทางร้านจึงเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีผ่านการปรุงให้น้อยที่สุด เน้นดึงรสชาติที่ดีของวัตถุดิบออกมา

ไปถึง PLANTIFUL ทั้งทีจะไม่สั่งสมูทตี้คงไม่ได้ วันนั้นเราเลยสั่ง Strawberry Glaze (ราคา 185 บาท) เมนูขายดีที่ไม่เปรี้ยวเกินไป ไม่หวานเกินไป ถ้าเลือกไม่ถูกว่าจะเริ่มที่เมนูไหนต้องเมนูนี้เลย และถ้าอยากชิมสมูทตี้ที่มีความครีมมี่ขึ้นมาหน่อย แนะนำเมนู Cosmic Coco (ราคา 240 บาท) แก้วนี้รวมผลไม้หลากชนิด และได้ความครีมจาก Coconut Milk

ส่วนของอาหาร เมนูที่ไปแล้วต้องสั่งแทบทุกโต๊ะคือ Unagi Eggplant Maki (ราคา 290 บาท) เขาใช้มะเขือม่วงหรือ Eggplant แทนการใช้ปลาไหล และอีกหนึ่งเมนูที่เรารู้สึกว่ากินง่าย มีความเป็นญี่ปุ่นคือ Crispy ‘Tuna’ Sushi (ราคา 265 บาท) ส่วนที่กรอบๆ จะใช้ข้าวญี่ปุ่น และส่วนข้างบนที่บอกว่าเป็นทูน่าจริงๆ แล้วมันคือมะเขือเทศ

ส่วนใครไปช่วงเที่ยงๆ อยากกินเป็นมื้ออาหาร แนะนำ Cauliflower Tofu Burrito (ราคา 290 บาท) หรือถ้าอยากกินอะไรเบาๆ ช่วงเช้าแนะนำ Coconut Cashew Yogurt (ราคา 265 บาท) จริงๆ มีอีกหลายเมนูที่อยากให้ลอง รวมไปถึงขนมหวานอย่างเช่น Blueberry Cheesecake เพราะเขาทำให้มีความหวาน มัน หอม เทียบเท่ากับชีสเค้กทั่วไป กินไปไม่มีทางรู้ว่าทำมาจากเต้าหู้!