เมื่อคืนวันเสาร์ (19 พฤศจิกายน) ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐอเมริกา เกิดเหตุคนร้ายบุกก่อเหตุกราดยิงที่ร้าน Club Q ซึ่งเป็นไนต์คลับของกลุ่ม LGBTQIA+ ในรัฐโคโรลาโด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย และบาดเจ็บอีก 25 ราย ก่อนที่จะมีพลเมืองดีซึ่งเป็นลูกค้าของไนต์คลับเข้ายับยั้งคนร้ายไว้ได้
เจ้าหน้าที่ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยคือ แอนเดอร์สัน ลี อัลดริช ชายวัย 22 ปี โดยเขาได้ใช้ปืนไรเฟิลในการก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้กำลังสืบสวนหาสาเหตุของแรงจูงใจว่า มาจากประเด็นความเกลียดชังหรือไม่ เนื่องจากเหตุดังกล่าวเกิดขึ้น ในช่วงเวลาที่ชุมชน LGBTQIA+ ทั่วโลกเตรียมที่จะเฉลิมฉลอง ‘วันรำลึกถึงคนข้ามเพศที่ถูกฆาตกรรมด้วยเหตุแห่งความเกลียดชัง’ (Transgender Day of Remembrance) ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 พฤศจิกายน) เพื่อรำลึกถึงเหยื่อที่เสียชีวิตจากความรุนแรง
ตำรวจเปิดเผยว่าได้รับโทรศัพท์แจ้งเหตุในช่วงเวลาก่อนเที่ยงคืนเล็กน้อย และผู้ต้องสงสัยก็ถูกจับกุมตัวในเวลาเพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้น เนื่องจากตำรวจเข้าไปถึงจุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีพลเมืองดีผู้กล้าอีกอย่างน้อย 2 คนที่ช่วยยับยั้งเหตุการณ์ไว้ได้
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ออกแถลงการณ์ประณามเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า ชาวอเมริกันจะไม่ยอมทนต่อความเกลียดชัง
“สถานที่ที่ควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการยอมรับความหลากหลายและการเฉลิมฉลอง ไม่ควรกลายเป็นสถานที่แห่งความหวาดกลัวและความรุนแรง” ไบเดนกล่าว
จาเร็ด โปลิส ผู้ว่าการรัฐโคโลราโดซึ่งประกาศตัวว่าตนเองเป็น LGBTQIA+ นั้น ได้ประณามการก่อเหตุครั้งนี้ว่าเป็น “การกระทำอันโหดร้ายที่ไร้ซึ่งเหตุผล”
ทั้งนี้ ความวิตกกังวลในชุมชน LGBTQIA+ ของสหรัฐฯ เริ่มพุ่งสูงขึ้น ท่ามกลางบรรยากาศทางการเมืองที่แตกแยก รวมถึงยังมีเหตุภัยคุกคามและความรุนแรงที่มุ่งเป้าไปยังกลุ่ม LGBTQIA+ อย่างต่อเนื่องหลายครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ขณะที่รัฐโคโลราโดเองก็เคยเผชิญกับเหตุโศกนาฏกรรมจากความรุนแรงหลายครั้ง รวมถึงเหตุกราดยิงที่โรงเรียนมัธยมโคลัมไบน์เมื่อปี 1999 และเหตุโจมตีซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งซึ่งมีผู้เสียชีวิต 10 คนเมื่อปีที่ผ่านมา
ภาพ: Helen H. Richardson/MediaNews Group/The Denver Post via Getty Images
อ้างอิง:
