วันนี้ (29 ตุลาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงความชัดเจนหลังมีกระแสข่าวรัฐบาลจะเวนคืนที่ดิน รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างริมแม่น้ำสายเข้ามาประมาณ 40 เมตร ยาว 2 กิโลเมตร บริเวณอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยระบุว่า เรื่องนี้จะไปดูเรื่องการบุกรุกพื้นที่มากกว่าว่าจะแก้ไขอย่างไร ซึ่งกรมโยธาธิการและผังเมืองกำลังไปวางแนวอยู่ และกำลังศึกษาการวางแผนงานทำเขื่อนกันน้ำกันดิน ซึ่งจะพาดผ่านตามแนวอำเภอแม่สาย คาดว่าจะใช้งบประมาณ 3 พันกว่าล้านบาท
ทั้งนี้ หากศึกษาให้ดีเชื่อว่าโครงการนี้จะคุ้มค่าและแก้ไขปัญหาได้ดี เพราะทุกวันนี้หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ รัฐบาลเสียเงินมากกว่า 3 พันกว่าล้านบาทและได้แต่เยียวยา ซึ่งปีหน้าก็อาจต้องเสียงบอีก
อนุทินกล่าวต่อว่า หลังจากนี้ต้องไปจัดการเรื่องการรุกล้ำพื้นที่ที่ผิดกฎหมายให้เรียบร้อย และมีเรื่องการเวนคืนที่ดินด้วย ซึ่งต้องไปสำรวจอะไรให้เรียบร้อยก่อน
เมื่อถามว่า การรุกล้ำและการเวนคืนจะมีการเยียวยาหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า การรุกล้ำไม่มีการเยียวยา แต่ต้องแนะนำให้บุคคลเหล่านั้นไปหาที่อยู่ใหม่ ส่วนเรื่องการเวนคืนต้องไปดูว่าหากแก้ไขปัญหาในระยะยาวได้ รัฐบาลก็มีความจำเป็นต้องเยียวยา ซึ่งเมื่อวานนี้ (28 ตุลาคม) กรมโยธาธิการและผังเมืองเพิ่งมารายงานผลการศึกษา แต่ตนให้ไปศึกษาเพิ่มเติมว่าจะมีครัวเรือนกี่ครัวเรือน ประชากรกี่คน ธุรกิจกี่อย่าง ซึ่งบริเวณนั้นมีตลาดสายลมจอยอยู่ และเชื่อว่าจะใช้เวลาศึกษาไม่นาน แต่จะใช้เวลาของบนาน โดยต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เนื่องจากเรื่องนี้ใช้งบกลางไม่ได้เพราะเกิน 1 ปี จึงต้องผลักดันให้ใช้งบประมาณปกติ ซึ่งต้องไปพูดคุยกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ด้วย อย่างไรก็ตาม ตนเร่งรัดเรื่องนี้เพราะถือว่าเป็นปัญหาที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขในระยะยาว