×

เป็นไปได้หรือไม่ที่ชาติตะวันตกจะส่งเครื่องบินรบช่วยยูเครน?

30.01.2023
  • LOADING...

“ปีที่แล้วผมส่งจดหมายหาซานตาคลอสว่า ผมอยากได้ของขวัญพิเศษอะไรบ้าง และหนึ่งในนั้นก็มีเครื่องบินรบรวมอยู่ด้วย”

 

ถ้าฟังเผินๆ นี่อาจดูเหมือนคำกล่าวของเด็กชายตัวน้อยที่ฝันอยากได้ของเล่นชิ้นใหม่ ทว่ามันไม่ใช่…เพราะนี่คือคำพูดของ โอเล็กซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหมของยูเครน ที่เพิ่งเปิดเผยกับสำนักข่าว CNN ไปหมาดๆ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตอกย้ำให้โลกรู้ว่า ยูเครนยังคงรอความหวังว่าชาติต่างๆ จะส่งอาวุธยุทโธปกรณ์แสนสำคัญและมีมูลค่ามหาศาลชิ้นนี้มาให้ เพื่อหวังพลิกเกมรบในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาถึง

 

หากยูเครนพูดเรื่องนี้เมื่อปีที่ผ่านมา ใครๆ ก็คงคิดว่าโอกาสที่ชาติตะวันตกจะส่งเครื่องบินรบให้ยูเครนนั้นยากเสียเหลือเกิน แต่คงไม่ใช่ในตอนนี้ เพราะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เยอรมนี สหรัฐอเมริกา และชาติพันธมิตรอื่นๆ ได้ประกาศการตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะส่งรถถังประจัญบานที่ผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยไปให้ยูเครน ส่งผลให้ในขณะนี้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามว่าจะเป็นไปได้ไหมที่ในท้ายที่สุดแล้ว ชาติต่างๆ จะส่งเครื่องบินรบให้กับยูเครน 

 

และอาวุธพิฆาตนี้จะสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ในสมรภูมิรบได้จริงหรือไม่

 

สถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไร

 

  • โดยทั่วไปแล้ว ผู้นำชาติตะวันตกมักหลีกเลี่ยงที่จะอภิปรายเกี่ยวกับการจัดส่งเครื่องบินรบไปยังยูเครนในการเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะ ขณะเดียวกัน ประเด็นการส่งเครื่องบินก็ไม่ได้อยู่ในหัวข้อของการประชุมระหว่างยูเครนและชาติพันธมิตรในเมืองแรมสไตน์ของเยอรมนีเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ด้วย

 

  • แม้ในปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ จะปฏิเสธข้อเสนอของโปแลนด์ที่เสนอส่งเครื่องบินรบจากยุคโซเวียตที่มีอยู่ทั้งหมดให้ยูเครน ผ่านทางฐานทัพอากาศ NATO ในเยอรมนี เพราะมองว่าจะเป็นการทำให้สงครามลุกลามบานปลายได้ แต่ล่าสุดนั้น จอน ไฟเนอร์ (Jon Finer) รองที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ได้กล่าวว่า สหรัฐฯ ‘ยังไม่ได้ตัดสินใจบอกรับหรือปฏิเสธ’ เกี่ยวกับการจัดส่งระบบอาวุธให้กับยูเครน ซึ่งรวมถึงเครื่องบินรบ F-16 ด้วย ซึ่งทำให้หลายฝ่ายมองว่า คำพูดดังกล่าวก็ไม่ได้เป็นการปฏิเสธไปเสียทีเดียว

 

  • ด้าน จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เปิดเผยกับสำนักข่าว CNN เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 มกราคม) ว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ได้เรียกร้องให้สหรัฐฯ ส่งเครื่องบินรบมาให้ โดยกล่าวว่า “เราเจรจากับฝั่งของยูเครนอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับความต้องการของพวกเขา และเราต้องการสร้างหลักประกันว่า เราทำทุกอย่างอย่างดีที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการของเขาให้ได้ และหากเราทำไม่ได้ ก็จะดูว่าชาติพันธมิตรของเราสามารถดูแลในส่วนนี้ได้หรือไม่”

 

  • ในฝั่งของเนเธอร์แลนด์ก็ได้แสดงออกอย่างมีนัยสำคัญก่อนหน้านี้ หลังจากที่รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศกล่าวกับสมาชิกรัฐสภาเกี่ยวกับการจัดส่ง F-16 ว่า “หากพูดถึงสิ่งที่เนเธอร์แลนด์สามารถจัดหา (ให้กับยูเครน) ได้แล้ว ก็คงจะไม่มีข้อยกเว้นใดๆ”

 

  • ทั้งนี้ เครื่องบิน F-16 ซึ่งถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงยุค 1970 เป็นอากาศยานรบที่มีความคล่องตัวและมีขีดความสามารถสูง โดยสามารถติดตั้งมิสไซล์แบบอากาศสู่อากาศ หรืออากาศสู่พื้นได้ถึง 6 ลูก ภายใต้ปีกทั้งสองข้าง 

 

  • ถึงแม้ว่าปัจจุบันสหรัฐฯ จะไม่ได้สั่งซื้อเครื่องบิน F-16 แล้ว แต่ก็ยังมีหลายประเทศที่ไว้วางใจสั่งซื้อเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่ไว้ประดับกองทัพอากาศของตนเอง เช่น บาห์เรนและจอร์แดน ภายใต้การผลิตของบริษัท Lockheed Martin

 

  • แม้จะยังไม่มีความชัดเจนจากชาติตะวันตก แต่ ยูรี ซัก (Yuriy Sak) ที่ปรึกษารัฐมนตรีกลาโหมของยูเครน ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ส่วนตัวเขามั่นใจว่ายูเครนจะได้ F-16 อย่างแน่นอน โดยกล่าวว่า “ขณะนี้มากกว่า 50 ประเทศทั่วโลกมีเครื่องบินรบรุ่นนี้ ผมไม่เห็นเหตุผลหรือคำอธิบายใดๆ ที่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมยูเครนไม่ควรได้รับ F-16 หรือเครื่องบินขับไล่ไอพ่นรุ่นอื่นๆ”

 

ทำไมยูเครนถึงเล็งขอ F-16 ตอนนี้

 

  • นักวิเคราะห์มองว่า ยูเครนอาจจะอยากฉวยโอกาสนี้ในการครอบครอง F-16 ในช่วงเวลาที่ยุโรปกำลังจะเลิกใช้ เพื่อหันไปจับจองรุ่นที่ใหม่กว่าอย่าง F-35 แทน ก่อนที่จะขายให้กับชาติอื่น 

 

  • ยกตัวอย่างเช่นในเคสของเนเธอร์แลนด์ ปัจจุบันเนเธอร์แลนด์มีเครื่องบิน F-16 เหลืออยู่ 24 ลำ โดยมีแผนที่จะขายทิ้งและเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่อย่าง F-35 ภายในปีหน้า โดยเมื่อปี 2021 เนเธอร์แลนด์ได้ขายเครื่องบินรบ 12 ลำให้กับสหรัฐฯ เพื่อใช้สำหรับเป็นเครื่องบินฝึก

 

  • สำหรับกองทัพยูเครนนั้น การผนวกไครเมียของรัสเซียในปี 2014 และการที่รัสเซียให้การสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครนตะวันออก ได้กระตุ้นให้ยูเครนต้องเร่งเปลี่ยนจากการใช้อาวุธที่ผลิตขึ้นตั้งแต่สมัยโซเวียต ไปสู่การใช้ยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยกว่าของชาติตะวันตก โดยคาดการณ์ว่าในระยะยาว ยูเครนจะเปลี่ยนมาใช้เครื่องบินรบของชาติตะวันตกด้วย จากที่ตอนนี้ต้องพึ่งพาเครื่องบิน MiG-29 และ Sukhoi Su-27 รุ่นเก่าตั้งแต่สมัยโซเวียต

 

  • ปีเตอร์ ไวนิงกา (Peter Wijninga) อดีตนาวาอากาศเอกประจำกองทัพอากาศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งปัจจุบันผันตัวมาเป็นนักวิเคราะห์ด้านกลาโหม มองว่า รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของยูเครนกำลังพยายามเล่นเกมบางอย่าง เพื่อเตือนทุกฝ่ายว่าคำขอของตนเองนั้นอาจมาถึงเร็วกว่าที่คาดการณ์กันไว้

 

  • จากเคสของเนเธอร์แลนด์นั้น ทำให้เราทราบว่าในขณะนี้มีเครื่องบิน F-16 จำนวนมากที่เตรียมจะถูกขายให้กับประเทศอื่นๆ แต่หากมองอีกมุมหนึ่งก็สามารถตีความได้เช่นกันว่า ‘มีเครื่องบินรุ่นนี้จำนวนมากที่พร้อมส่งมอบไปยังยูเครน’ ซึ่งไวนิงกากล่าวว่า “ผมคิดว่าพวกเขากำลังรอเวลาที่เหมาะสมเพื่อดำเนินการตามคำขออย่างเป็นทางการ”

 

F-16 จะช่วยพลิกเกมในสมรภูมิรบได้จริงหรือ

 

  • ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า เครื่องบิน F-16 ก็คงไม่แตกต่างจากอาวุธอื่นๆ ที่ชาติตะวันตกส่งมอบให้กับยูเครนก่อนหน้านี้ ในแง่ที่ว่ามันคงไม่ใช่อาวุธที่จะพลิกโฉมยุทธศาสตร์การรบได้อย่างมีนัยสำคัญ 

 

  • ทิม สไวจ์ส (Tim Sweijs) ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์แห่งกรุงเฮก (The Hague Centre for Strategic Studies) กล่าวว่า “สำหรับตัวผมเองแล้ว ผมไม่คิดว่า F-16 เพียงลำพังจะเป็นตัวเปลี่ยนเกม แต่หากรวมมันเข้ากับรถถัง กองทหาร และระบบยิงจรวดพิสัยไกลอย่าง HIMARS ที่สามารถกำจัดระบบเรดาร์ของรัสเซีย ก็อาจสามารถช่วยยูเครนพลิกสถานการณ์ได้”

 

  • จัสติน บรองก์ (Justin Bronk) นักวิจัยอาวุโสด้านกำลังทางอากาศจาก Royal United Services Institute กล่าวว่า อุปสรรคสำคัญของยูเครนขณะนี้คือระบบป้องกันทางอากาศที่แข็งแกร่งของรัสเซีย

 

  • “แนวคิดที่ว่าเครื่องบินรบของชาติตะวันตกจะช่วยให้ยูเครนสามารถปฏิบัติการรบทางอากาศเหนือดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดครองนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย” บรองก์กล่าว “เพราะความจริงก็คือ เครื่องบินรบของตะวันตกเสี่ยงที่จะเจอกับระบบป้องกันภัยทางอากาศรัสเซียที่เตรียมยิงจรวดจากพื้นสู่อากาศ ไม่ต่างกับที่ยูเครนกำลังเจออยู่ในขณะนี้”

 

  • บรองก์ประเมินว่า สำหรับในระยะสั้นนี้ เครื่องบิน F-16 จะถูกใช้เป็นอาวุธป้องกันสำหรับกองทัพยูเครน มากกว่าที่จะใช้เป็นเครื่องมือสำหรับเน้นบุกโจมตี เช่น การนำไปใช้ยิงสกัดมิสไซล์ของรัสเซียในรูปแบบที่แม่นยำกว่าเดิม และช่วยขัดขวางไม่ให้เครื่องบินรบของรัสเซียฝ่าด่านแนวหน้าไปได้ 

 

  • อย่างไรก็ตาม บรองก์มองว่า อาวุธโจมตีภาคพื้นที่มาจากการสนับสนุนทางอากาศของชาติตะวันตกส่วนใหญ่จะปล่อยจากความสูงระดับปานกลาง เพื่อให้สามารถโจมตีเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเขามองว่า แทบไม่มีโอกาสที่ F-16 จะสามารถใช้งานได้ดีในเขตแนวหน้า เพราะจะถูกระบบป้องกันภัยทางอากาศภาคพื้นดินของรัสเซียสอยร่วงเสียก่อน

 

  • ขณะเดียวกัน สงครามที่กินเวลายืดเยื้อมาเกือบ 1 ปีก็แสดงให้เห็นว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศที่แข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายไม่ว่าจะเป็นยูเครนหรือรัสเซีย ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ยังไม่มีฝ่ายใดสามารถชิงความได้เปรียบเหนือน่านฟ้าได้

 

  • ฉะนั้นหากจะให้สามารถใช้งาน F-16 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยูเครนจะต้องบรรลุความเหนือกว่าทางอากาศในระดับหนึ่งก่อน หมายความว่ายูเครนจะต้องทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 ของรัสเซียให้ได้ รวมถึงระบบ S-300 ด้วย

 

  • ด้วยเหตุนี้ นักวิเคราะห์จึงมองว่า การส่งแค่ F-16 ให้นั้นไม่ได้แปลว่าจะทำให้ยูเครนชิงความได้เปรียบไปทั้งหมด ฉะนั้นชาติตะวันตกจะต้องเพิ่มความช่วยเหลืออื่นๆ เพื่อเปิดทางให้ยูเครนบรรลุความได้เปรียบทางน่านฟ้าในแนวรบด้วย

 

อุปสรรคที่รออยู่

 

  • นักวิเคราะห์กล่าวว่า แม้ในท้ายที่สุดชาติตะวันตกจะตัดสินใจจัดหา F-16 ให้กับยูเครนได้ตามที่หวัง แต่ยูเครนจะเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ทั้งประเด็นด้านโลจิสติกส์ไปจนถึงการบำรุงรักษา โดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เคยเอ่ยปากว่า F-16 นั้นมีระบบที่ซับซ้อนมาก ทำให้ยากต่อการใช้งานและการซ่อมบำรุง 

 

  • ยูริ อิห์นัต (Yurii Ihnat) โฆษกกองบัญชาการกองทัพอากาศยูเครน กล่าวกับสำนักข่าว CNN ว่า ขั้นแรกนั้นยูเครนจะต้องเทรนทหารให้ใช้งาน F-16 ได้อย่างคล่องแคล่วเสียก่อน และการฝึกดังกล่าวอาจใช้เวลาตั้งแต่ 2-3 สัปดาห์ไปจนถึงนานหลายเดือน ตามแต่ประสบการณ์ของนักบิน 

 

  • ขณะที่ แพต ไรเดอร์ (Pat Ryder) โฆษกของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันกับ CNN เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เขาไม่เคยได้ยินข่าวเลยว่ามีนักบินยูเครนคนใดที่กำลังฝึกอยู่ในสหรัฐฯ

 

  • ส่วนปัญหาต่อมาคือ ยูเครนจะต้องตัดสินใจว่าจะใช้งาน F-16 ที่ไหนและอย่างไรจึงจะเหมาะสม

 

  • ที่ผ่านมานั้น ส่วนหนึ่งที่ฝูงบินของยูเครนรอดพ้นจากการโจมตีของรัสเซีย เพราะยูเครนใช้ฐานทัพอากาศที่มีขนาดเล็กกว่า แต่บรองก์เตือนว่าฐานทัพยูเครนส่วนใหญ่ที่พวกเขาใช้สำหรับปฏิบัติการแบบกระจายเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกโจมตีนั้น หากจะนำมาใช้กับเครื่องบินรบตามมาตรฐานตะวันตกแล้ว จะมีข้อด้อยในแง่ของพื้นผิวที่ขรุขระและรันเวย์ที่ค่อนข้างสั้น และหากยูเครนจะต้องสร้างฐานทัพใหม่เพื่อรองรับ F-16 ก็อาจถูกรัสเซียถล่มโจมตีเอาได้ง่ายๆ

 

  • ส่วนปัญหาที่ใหญ่ที่สุดนั้น คือประเด็นในด้านการซ่อมบำรุงที่มีความซับซ้อนสูง ดังเช่นก่อนหน้านี้ที่สหรัฐฯ เคยลังเลที่จะส่งรถถัง M1 Abrams ให้ เพราะปัญหาในแง่ของความซับซ้อนในการดูแลเครื่องยนต์แบบกังหันก๊าซ

 

  • ปัจจุบันมีหลายประเทศในยุโรปที่ใช้งาน F-16 รวมถึงประเทศใกล้เคียงอย่างโปแลนด์ ซึ่งแปลว่าหากเครื่องบินเกิดปัญหาขัดข้องรุนแรง ก็ยังสามารถจัดส่งไปในประเทศใกล้เคียงเพื่อซ่อมบำรุงได้ แต่สำหรับการดูแลรักษาและซ่อมบำรุงแบบวันต่อวันนั้น ยูเครนก็ยังต้องเป็นผู้รับผิดชอบอยู่ดี

 

  • “เครื่องบินเหล่านี้มีความซับซ้อนอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของซอฟต์แวร์” บรองก์กล่าว “พวกมันได้รับการออกแบบและสร้างด้วยวิธีที่แตกต่างอย่างมากจากเครื่องบิน MiG-29 และ Sukhoi Su-27 ที่ช่างเทคนิคชาวยูเครนคุ้นเคยในแง่ของการปฏิบัติการและบำรุงรักษา” ฉะนั้นกว่าที่ช่างเทคนิคของยูเครนจะเข้าใจกลไกของ F-16 ก็อาจต้องใช้เวลาฝึกอบรมหลายเดือน หรืออาจต้องส่งช่างเทคนิคจากชาติตะวันตกเข้ามาในพื้นที่ แต่นั่นก็เสี่ยงจะถูกรัสเซียโจมตีอีก

 

ปัญหาทางการเมืองที่ยังไม่คลี่คลาย

 

  • ไวนิงกากล่าวว่า เหนือกว่าปัญหาด้านโลจิสติกส์ คือเรื่องของปัญหาทางการเมือง

 

  • ในฝั่งของเยอรมนีที่ถึงแม้จะไม่ได้ใช้งาน F-16 ได้ออกมายืนยันหนักแน่นว่า ทางการจะไม่มีการจัดส่งเครื่องบินรบรุ่นใดๆ ให้กับยูเครนแน่นอน โดย โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีย้ำว่า NATO ไม่ได้ทำสงครามกับรัสเซีย และเยอรมนีจะไม่ยอมให้สงครามที่เกิดในยูเครนลุกลามบานปลายไปถึงระดับนั้น

 

  • ส่วนสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ทางการจะพูดคุยเกี่ยวกับแนวคิดในการจัดส่งเครื่องบินรบกับยูเครนและชาติพันธมิตร โดยเน้นว่าการเจรจาจะเป็นไปด้วยความระมัดระวังอย่างสูง 

 

  • โดยนักวิเคราะห์มองว่า การมี F-16 ในครอบครองจะเปิดโอกาสให้ยูเครนสามารถโจมตีรัสเซียด้วยอาวุธที่ผลิตขึ้นในสหรัฐฯ ในพื้นที่ที่อยู่ห่างจากแนวหน้าในสมรภูมิรบ รวมถึงพื้นที่ที่อยู่นอกเหนืออาณาเขตของยูเครนด้วย

 

  • ไวนิงกากล่าวว่า “หากมี F-16 ยูเครนสามารถบินไปยังกรุงมอสโกและทิ้งบอมบ์ใส่เครมลินได้เลย ผมไม่คิดว่ายูเครนจะทำจริงๆ หรอก แต่มันก็มีความเสี่ยงในแง่ดังกล่าว ซึ่งอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่รุนแรงกว่าเดิม ซึ่งพวกเราทุกคนไม่อยากให้มันเกิดขึ้น”

 

  • แต่ในอีกมุมหนึ่ง บรองก์กล่าวว่า การส่งมอบ F-16 ไม่น่าจะทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายอย่างที่หลายฝ่ายกังวล เพราะเขามองว่าลำพังเครื่องบินรบรุ่นนี้ไม่ได้เป็นอาวุธโจมตีร้ายแรง นอกเสียจากว่าจะมีประเทศใดจัดหาอาวุธทำลายล้างอย่างจรวดร่อน (Cruise Missile) เสริมไปให้ด้วย ซึ่งจนถึงปัจจุบันก็ไม่เคยมีประเทศใดที่ส่งเสียงว่าจะจัดส่งอาวุธดังกล่าวให้

 

  • ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่า หากจะลดความเสี่ยงต่อประเทศใดประเทศหนึ่ง การจัดส่ง F-16 จะต้องเป็นไปในลักษณะที่คล้ายคลึงกับรูปแบบการจัดส่งรถถัง Leopard 2 คือกลุ่มชาติพันธมิตรต้องร่วมใจกันส่งเป็นหมู่คณะ เพื่อไม่ให้ประเทศใดประเทศหนึ่งถูกมองว่าเป็นผู้ออกหน้าสนับสนุนยูเครนเพียงลำพัง

 

แฟ้มภาพ: Omar Marques / Getty Images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising