ธนาคารกสิกรไทยตั้งเป้าเติบโตเป็นธนาคารที่มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่ติดอยู่ใน 20 อันดับแรกในประเทศเวียดนาม มีรายได้สุทธิถึง 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.32 หมื่นล้านบาท มียอดสินเชื่อคงค้างที่ 1.8 แสนล้านบาท และมีฐานลูกค้าเวียดนาม 8.4 ล้านรายภายในปี 2570
ชัช เหลืองอาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ระบบเศรษฐกิจของเวียดนามพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด ด้วยเศรษฐกิจที่เติบโตถึง 8.02% ในปี 2565 เป็นการขยายตัวที่เร็วที่สุดในรอบ 25 ปี และมี GDP สูงเป็นอันดับที่ 30 ของโลก เช่นเดียวกันกับอุตสาหกรรมธนาคารของเวียดนาม ที่ถึงแม้จะยังค่อนข้างใหม่เมื่อเทียบกับประเทศในละแวกเดียวกัน แต่กลับเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก รวมถึงมีศักยภาพอันมหาศาลของทรัพยากรด้านต่างๆ ภายในประเทศ จึงคาดการณ์ว่าจะกลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ (Newly Industrialized Country: NIC) ภายในปี 2573 และจะยกระดับเป็นประเทศที่มีสถานะรายได้ปานกลางถึงระดับสูง และเป็นประเทศพัฒนาแล้วภายในปี 2588
ธนาคารเล็งเห็นว่าเวียดนามเป็นประเทศที่มีศักยภาพและน่าจับตามองในด้านการลงทุน จากการที่เวียดนามมีประชากรมากกว่า 100 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงาน ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาประชากรกลุ่มนี้ได้ขยายตัวและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยกว่า 69% ของคนกลุ่มนี้ไม่มีบัญชีธนาคาร ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในเอเชีย ด้วยเหตุนี้เองรัฐบาลเวียดนามจึงมุ่งหน้าผลักดันการพัฒนาบริการทางการเงินแบบดิจิทัล เพื่อให้ผู้คนเข้าถึงได้ง่ายขึ้นและมากขึ้น เป็นผลให้ประเทศเวียดนามมีบันทึกมูลค่าการชำระเงินแบบดิจิทัลสูงสุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้รัฐบาลยังผลักดันให้ประเทศเวียดนามเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีแห่งใหม่ของเอเชีย ซึ่งนักลงทุนต่างให้ความสนใจประเทศเวียดนามเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ
ด้วยเหตุนี้ธนาคารจึงเข้าไปขยายการให้บริการในประเทศเวียดนาม ด้วยการเป็นธนาคารที่ให้บริการทางการเงินอย่างเต็มรูปแบบ (Transactional Ecosystem) ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มองค์กร บริษัทขนาดกลาง กลุ่มค้าปลีก และลูกค้ารายย่อย ไปสู่เป้าหมาย 1 ใน 20 ธนาคารที่ดีที่สุดในประเทศเวียดนาม ภายในปี 2570
ชัชกล่าวเพิ่มเติมว่า การไปสู่เป้าหมาย 1 ใน 20 ธนาคารที่ดีที่สุดในประเทศเวียดนามภายในปี 2570 ทั้งในแง่สินทรัพย์ รายได้ และฐานลูกค้า ธนาคารกสิกรไทยจะเดินหน้ากลยุทธ์การให้บริการทางการเงินอย่างเต็มรูปแบ (Transactional Ecosystem) เพื่อรองรับทุกความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น เริ่มตั้งแต่แอปพลิเคชัน K PLUS Vietnam ที่ช่วยให้การทำธุรกรรมการเงินของผู้ใช้งานลื่นไหล สะดวกสบาย ด้วยฟังก์ชันและระบบปฏิบัติการที่พัฒนาผ่านบริษัท KBTG Vietnam (KASIKORN BUSINESS-TECHNOLOGY GROUP Vietnam) ให้ตอบโจทย์การใช้งานของคนเวียดนามมากที่สุด เช่น การใช้เทคโนโลยี NFC (Near-Field Communication) เพื่อทำให้การอ่านข้อมูลจากบัตรประชาชนทำงานได้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น, การพัฒนาเทคโนโลยี Liveness Detection เพื่อตรวจจับและป้องกันการปลอมตัวบุคคลในขั้นตอนของการสมัครใช้งาน เป็นต้น
นอกจากนี้ ธนาคารกสิกรไทยในเวียดนามได้สนับสนุนการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการในเวียดนาม ด้วยการพัฒนาเครื่อง EDC (Electronic Data Capture) ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์สังคมไร้เงินสด และรองรับการชำระเงินหลากหลายช่องทาง เช่น บัตรเดบิต บัตรเครดิต และการสแกนจ่ายผ่าน QR Code ทุกประเภท และเพื่อให้การทำธุรกรรมของลูกค้าเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ ทั้งนี้ ธนาคารเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ นั่นคือบัตรเดบิต ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้ารายย่อยในการทำธุรกรรมชำระเงินและกดเงินสด โดยสามารถสมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้สะดวกด้วยแอป K PLUS Vietnam เมื่อได้รับการอนุมัติ บัตรเดบิตจะถูกส่งไปถึงบ้านของผู้สมัคร ไม่ต้องไปดำเนินการที่ธนาคารอีกต่อไป
สำหรับอีกกลุ่มลูกค้าที่ธนาคารให้ความสำคัญคือลูกค้าองค์กร โดยสร้างเครือข่าย Internet Banking เพื่อให้องค์กรจัดการเงินสดและบัญชีเงินเดือนสำหรับพนักงานได้อย่างสะดวกและราบรื่น รวมทั้งยังให้ความสำคัญกับการปล่อยสินเชื่อดิจิทัลด้วยผลิตภัณฑ์ KBank Biz Loan เพื่อเจาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่สามารถทำธุรกรรมได้สะดวกผ่านแอป K PLUS Vietnam และผลิตภัณฑ์ KBank PAY LATER สำหรับลูกค้ารายย่อยที่ต้องการขอสินเชื่อดิจิทัลเพื่อการซื้อสินค้าออนไลน์ ด้วยการทำพันธมิตรธุรกิจร่วมกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซท้องถิ่น META ที่ขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
นอกจากนี้ธนาคารยังเดินหน้าหาพันธมิตรทางธุรกิจผ่านบริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด (KASIKORN VISION CO., LTD.) หรือ KVision ที่เฟ้นหาบริษัทหรือสตาร์ทอัพที่น่าสนใจ เพื่อร่วมลงทุนและพัฒนาธุรกิจไปด้วยกัน ซึ่งที่ผ่านมาได้ร่วมลงทุนกับหลายบริษัทในเวียดนาม เช่น Sendo, KiotViet, Seedcom, Jio Health, Selly และอีกหนึ่งสตาร์ทอัพที่น่าสนใจคือ Lich Viet แอปเกี่ยวกับเรื่องดูดวงที่กำลังมาแรง ด้วยยอดผู้ใช้บริการกว่า 13 ล้านคน
ในการมุ่งสู่เป้าหมายครั้งนี้ ธนาคารมีความตั้งใจในการมอบประสบการณ์ทางการเงินอย่างเต็มรูปแบบให้แก่ชาวเวียดนาม ด้วยความชำนาญที่การันตีด้วยรางวัลทางการเงินในระดับภูมิภาค การมีแอป Mobile Banking อันดับ 1 ของประเทศไทย ด้วยจำนวนผู้ใช้งานกว่า 19 ล้านคน รวมถึงการเป็นธนาคารดิจิทัลที่ดีที่สุด รวมทั้งมีเครือข่ายระดับภูมิภาคกับพันธมิตรกว่า 70 แห่งทั่วยุโรปและเอเชีย จึงมั่นใจได้ว่าด้วยประสบการณ์ ศักยภาพ และมาตรฐานระดับสากลที่พร้อมมอบบริการทางการเงินด้วยความเชี่ยวชาญชำนาญของธนาคารกสิกรไทย จะสามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในประเทศเวียดนามได้อย่างแน่นอน ตั้งเป้าหมายการเป็นธนาคารที่มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่ติดอยู่ใน 20 อันดับแรกในประเทศเวียดนาม รายได้สุทธิถึง 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.32 หมื่นล้านบาท มียอดสินเชื่อคงค้างที่ 1.8 แสนล้านบาท และมีฐานลูกค้าเวียดนาม 8.4 ล้านรายภายในปี 2570
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ธนาคารออมสิน เปิดตัวเงินฝากดอกเบี้ยขั้นบันได จ่ายสูงสุด 4.5% และ 10% หวังส่งเสริมการออมระยะยาว
- ส่องแบงก์รัฐ-พาณิชย์ ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ เท่าไรกันบ้าง? หลัง กนง. ประชุมนัดแรกของปี 2566
- คลอดแล้ว! เกณฑ์ ‘Virtual Bank’ ธปท. จำกัดไลเซนส์แค่ 3 ราย เผยมีผู้สนใจแล้ว 10 ราย เล็งประกาศผลกลางปีหน้าก่อนเริ่มให้บริการจริงปี 68