×

สื่อนอกตีข่าว จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน รับรู้ว่ามีแร่ใยหิน ต้นเหตุมะเร็งในแป้งเด็กมาหลายสิบปี หุ้นร่วง 10%

15.12.2018
  • LOADING...

เมื่อวานนี้ (14 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ ราคาหุ้นของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ร่วง 10% หลังสื่อดังอย่างรอยเตอร์สรายงานว่าบริษัทยักษ์ใหญ่รับรู้มานานหลายสิบปีแล้วว่าแป้งโรยตัวเด็กมีส่วนผสมของแร่ใยหิน (Asbestos) แร่ธาตุอันตรายที่เป็นสาเหตุของมะเร็ง

 

รอยเตอร์สอ้างอิงจากเอกสารภายในของบริษัทและคำให้การต่อศาล พบว่าจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน รับรู้ว่าผลิตภัณฑ์แป้งเด็กของบริษัทมีการปนเปื้อนแร่ใยหินตั้งแต่ปี 1971 ถึงช่วงต้นของปี 2000 โดยได้ตรวจสอบพบแร่ใยหินจำนวนหนึ่งในแป้งทัลก์ดิบ (Raw Talc) และผลิตภัณฑ์แป้งฝุ่นที่พร้อมจำหน่าย แต่ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมกฎระเบียบหรือต่อสาธารณชน

 

ทนายความของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ได้ออกมาโต้ตอบทันทีว่า “แป้งฝุ่นสำหรับเด็กทารกของบริษัทมีความปลอดภัยและไม่มีแร่ใยหิน บทความของรอยเตอร์สเป็นการนำเสนอข่าวด้านเดียว บิดเบือน พูดอย่างง่ายคือบทความของรอยเตอร์สเป็นทฤษฎีสมคบคิดที่ไร้สาระ”

ปีเตอร์ บิคส์ ทนายความของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน กล่าวกับรอยเตอร์สทางอีเมลว่า “ความเห็นทางวิทยาศาสตร์ตรงกันว่าทัลก์ซึ่งเป็นส่วนผสมในแป้งฝุ่นทาตัวเด็กไม่ได้เป็นสารก่อให้เกิดมะเร็ง ความจริงก็คือแป้งฝุ่นของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน มีแร่ใยหินน้อยมาก และไม่ได้อยู่ในระดับที่ตรวจหาพบ”

 

เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ได้ถูกศาลสั่งให้จ่ายค่าเสียหายมูลค่า 4,700 ล้านเหรียญสหรัฐแก่ผู้หญิง 22 คน ซึ่งฟ้องว่าแป้งฝุ่นของบริษัทเป็นสาเหตุให้พวกเธอเป็นมะเร็งมดลูก ถือเป็นคำตัดสินการจ่ายค่าเสียหายก้อนใหญ่ที่สุดที่บริษัทถูกกล่าวหา แต่ก็ได้ยื่นอุทธรณ์แล้ว

 

ที่ผ่านมาจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ถูกฟ้องร้องกว่า 12,000 คดีว่าแป้งเด็กของพวกเขามีส่วนก่อให้เกิดมะเร็งรังไข่ โดยปีนี้ได้แพ้ไป 2 คดีในรัฐแคลิฟอร์เนียและนิวเจอร์ซีย์ว่าแป้งของพวกเขาทำให้เกิดมะเร็งเยื่อหุ้มปอด

 

สำหรับแร่ใยหินนั้นเป็นฝุ่นละอองเล็กๆ มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น นิยมนำมาใช้เป็นส่วนผสมของอุตสาหกรรมซีเมนต์และอิเล็กทรอนิกส์ เป็นอันตรายและเป็นต้นเหตุของมะเร็ง

 

ด้านเว็บไซต์จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ประเทศไทย (www.johnsonsbaby.co.th) ยังไม่มีการชี้แจงเรื่องนี้แต่อย่างใด

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising