Bloomberg รายงานโดยอ้างอิงร่างเอกสารที่ได้รับ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่น เตรียมประกาศแผนการใช้จ่ายสำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ารวมประมาณ 21.8 ล้านล้านเยน ซึ่งจะนำมาบังคับใช้ในเร็ววันนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้ญี่ปุ่นสลัดหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืดและเศรษฐกิจซบเซาให้ได้อย่างยั่งยืน
รายงานระบุว่าแผนการใช้จ่ายนี้ถือเป็นแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะสนับสนุนมาตรการต่างๆ ตั้งแต่การบรรเทาผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อของภาคครัวเรือน การสนับสนุนให้บริษัทต่างๆ ในญี่ปุ่นปรับขึ้นค่าจ้าง และการสนับสนุนการลงทุนและการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศ ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเพิ่งจะมีคำสั่งให้ปรับลดอัตราภาษีเงินได้ พ่วงด้วยมาตรการช่วยเหลือชั่วคราวสำหรับครัวเรือนที่มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจนี้
นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังมีการใช้งบเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจนี้อีก 13.1 ล้านล้านเยน ซึ่งจะทำให้ขนาดโดยรวมของแพ็กเกจที่รวมถึงการใช้จ่ายของภาคเอกชนที่เชื่อมโยงกับมาตรการต่างๆ ในแพ็กเกจนี้อยู่ที่ประมาณ 37.4 ล้านล้านเยน
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลญี่ปุ่นครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางความนิยมที่มีต่อนายกรัฐมนตรีคิชิดะที่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากความล้มเหลวในการจัดการกับเงินเฟ้อที่ยังคงแซงหน้าการเพิ่มค่าจ้างในประเทศ ซึ่งจนถึงเดือนสิงหาคม 2023 ค่าจ้างที่แท้จริงในญี่ปุ่นปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 17 เดือนติดต่อกัน ทำให้ค่าจ้างเพิ่มไม่ทันอัตราเงินเฟ้อในประเทศ
ขณะเดียวกัน หลายฝ่ายมองว่าแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุดของผู้นำญี่ปุ่น ไม่น่าจะช่วยเพิ่มความนิยมให้กับเจ้าตัวได้ โดยการสำรวจของ Nikkei เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าคะแนนความเห็นชอบที่มีต่อนายกรัฐมนตรีคิชิดะอยู่ที่ 33% และการสำรวจของ Nikkei ยังแสดงให้เห็นว่า 58% ของผู้ตอบแบบสอบถามไม่มีความคาดหวังเชิงบวกต่อแพ็กเกจเศรษฐกิจดังกล่าว
อ้างอิง: