กลุ่มกองกำลังฮูตีในเยเมนยังคงเดินหน้าโจมตีเรือบรรทุกสินค้าที่แล่นผ่านทะเลแดง เพื่อเรียกร้องให้กองทัพอิสราเอลยุติการทำสงครามในฉนวนกาซาโดยทันที แต่ดูเหมือนว่าเป้าหมายนี้จะยังไม่ได้รับการตอบสนอง กลุ่มฮูตีจึงพยายามหาทางเพิ่มแรงกดดันต่อกองทัพอิสราเอลให้มากยิ่งขึ้น
ฮูตีโจมตีใคร และที่ไหน
กลุ่มฮูตีอ้างว่าได้ใช้โดรนโจมตีเรือสินค้า MSC United VIII หลังปฏิเสธสัญญาณเตือน 3 ครั้ง ซึ่งเรือลำนี้กำลังเดินเรือจากท่าเรือคิงอับดุลเลาะห์ในซาอุดีอาระเบีย มุ่งหน้าไปยังการาจี เมืองท่าที่สำคัญของปากีสถาน ผ่านทะเลแดง เมื่อวานนี้ (26 ธันวาคม) โดยลูกเรือทั้งหมดปลอดภัย ขณะที่เรือสินค้าลำดังกล่าวไม่ได้รับความเสียหายหนัก และยังคงสามารถแล่นเรือต่อไปได้
เบื้องต้นบริษัท MSC Mediterranean เจ้าของเรือสินค้าลำนี้ เปิดเผยว่า ทางบริษัทกำลังพิจารณาการปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือ แม้อาจมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้กลุ่มกองกำลังร่วมทางทะเล ซึ่งจัดตั้งขึ้นภายใต้การนำของกองทัพเรือสหรัฐฯ รับทราบแล้ว
นอกจากนี้ กลุ่มฮูตียังเพิ่มแรงกดดันให้แก่กองทัพอิสราเอลด้วยการใช้โดรนโจมตีท่าเรือไอลัต (Eilat) ของอิสราเอล รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ในปาเลสไตน์ที่ถูกกองกำลังอิสราเอลควบคุมอยู่ในขณะนี้อีกด้วย
สงครามกำลังขยายตัวหรือไม่
หลายฝ่ายเฝ้าจับตาว่าสงครามอิสราเอล-ฮามาสอาจกำลังขยายตัว หลังมีสัญญาณบ่งชี้หลายประการ นอกจากการโจมตีเรือสินค้าของกลุ่มฮูตีในแถบทะเลแดงและอ่าวเอเดนแล้ว ยังมีการโจมตีทางอากาศเกิดขึ้นในซีเรีย โดยกองทัพอิสราเอลโจมตีใส่กองกำลังติดอาวุธ จนทำให้ผู้นำอาวุโสของกลุ่มดังกล่าวในซีเรียเสียชีวิต
ขณะที่บริเวณชายแดนเลบานอน กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้โจมตีใส่โบสถ์หลังหนึ่ง เป็นเหตุให้ทหารอิสราเอลบาดเจ็บ 9 นาย และมีพลเรือนบาดเจ็บอีก 1 คน ส่วนในอินเดียก็เกิดเหตุระเบิดใกล้กับสถานทูตอิสราเอลในกรุงนิวเดลีขึ้น โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
โยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ระบุว่า “ขณะนี้อิสราเอลกำลังอยู่ในสงครามหลายแนวรบ และกำลังตกอยู่ภายใต้การโจมตีจาก 7 พื้นที่สำคัญ ทั้งในกาซา, เลบานอน, ซีเรีย, จูเดียและซามาเรีย (เวสต์แบงก์), อิรัก, เยเมน และอิหร่าน”
ประชาคมโลกตอบสนองอย่างไร
เมื่อไม่นานมานี้ สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรได้จัดตั้งกองกำลังแนวร่วมทางทะเลขึ้นบริเวณทะเลแดง เพื่อปกป้องการขนส่งเชิงพาณิชย์จากการโจมตีของกลุ่มกองกำลังฮูตี โดยกองกำลังแนวร่วมนี้จะเพิ่มการลาดตระเวนทางทะเล เพื่อป้องปรามการโจมตีที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต
ขณะที่ รอน เดอร์เมอร์ รัฐมนตรีด้านยุทธศาสตร์ของอิสราเอล ได้เดินทางเข้าพบกับ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ พร้อมด้วย เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวานนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับสงคราม การปล่อยตัวประกัน และการคุ้มครองเส้นทางเดินเรือบริเวณทะเลแดง
ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ พยายามที่จะกดดันให้อิสราเอลลดขนาดของสงครามลง เน้นโจมตีกลุ่มฮามาสให้ตรงเป้าหมายยิ่งขึ้น พร้อมลดความเสี่ยงที่จะทำให้พลเรือนเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก รวมถึงแนะนำให้อิสราเอลยุติการโจมตีฉนวนกาซา ‘ตามอำเภอใจ’ เพราะสิ่งนี้อาจทำให้เสียงสนับสนุนอิสราเอลในประชาคมโลกลดน้อยลง
ด้าน เซอิฟ มากังโก โฆษกสำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เผยว่า “เรากังวลอย่างยิ่ง หลังกองทัพอิสราเอลโจมตีทางอากาศและทิ้งระเบิดใส่พื้นที่ของฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง จนมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 100 คน นับตั้งแต่วันคริสต์มาสอีฟเป็นต้นมา” พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ “กองทัพอิสราเอลต้องใช้มาตรการทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อปกป้องชีวิตพลเรือน โดยการประกาศเตือนหรือการออกคำสั่งให้อพยพนั้นไม่ได้มีส่วนช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากพันธกรณีที่ต้องรับผิดชอบตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ”
จนถึงขณะนี้กองทัพอิสราเอลยังคงมุ่งมั่นที่จะกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธฮามาสในฉนวนกาซา และสร้างหลักประกันว่าจะไม่มีกลุ่มติดอาวุธใดในฉนวนกาซาสั่นคลอนความมั่นคงของอิสราเอลได้อีก ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากประชาคมโลกให้ยุติสงครามโดยทันที หลังสงครามความขัดแย้งอิสราเอล-ฮามาสดำเนินมานานกว่า 11 สัปดาห์แล้ว
หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า จากสถานการณ์สงครามอิสราเอล-ฮามาสที่ดูจะยืดเยื้อออกไปอีกหลายเดือน ประกอบกับแนวโน้มที่สงครามอาจจะขยายตัวออกจากฉนวนกาซา เราเห็นบทบาทที่เพิ่มมากขึ้นของกลุ่มฮูตีในเยเมน และเราเห็นบทบาทของตะวันตกที่ได้จัดตั้งกองกำลังเฉพาะกิจในการคุ้มครองเส้นทางเดินเรือในทะเลแดง คำถามสำคัญคือ เหตุโจมตีในทะเลแดงจะขยายตัวเป็นสงครามใหญ่หรือไม่ ทิศทางและแนวโน้มของสงครามอิสราเอล-ฮามาสหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร อาจต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ภาพ: Amr Abdallah Dalsh / File Photo / Reuters
อ้างอิง: