×

ชิมรสอาหารยั่งยืนที่ Haoma เมนูผักจากสวนหลังร้าน กลายเป็นงานศิลปะผ่านจานอาหาร

01.12.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins read
  • ถ้าคุณเป็นผู้ที่รักษ์โลก หรือชื่นชอบการทานผักผลไม้ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวไม่รู้จบ ‘Haoma’ คือจุดหมายที่น่าไปลองสักครั้ง
  • อาหารของที่นี่เน้นการใช้วัตถุดิบนำเข้าชั้นเยี่ยมจากทั่วโลก นำมาปรุงด้วยกรรมวิธีสมัยใหม่ ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยเท่านั้น เพื่อให้รสชาติที่แท้จริงของวัตถุดิบยังคงอยู่
  • นี่คือร้านอาหารที่มีความพยายามอย่างแรงกล้าที่จะเป็น Carbon Negative Restaurant หรือร้านอาหารที่ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แห่งแรกของโลกให้ได้ภายในปี 2019
  • เมนูอาหารและค็อกเทลของที่นี่เด็ดผักใบเขียวและสมุนไพรจากสวนหลังร้านมาปรุงกันสดๆ

เมื่อพูดถึงความยั่งยืน เรามักจะมีภาพในหัวที่เกี่ยวกับการเกษตรและการดำรงชีวิตโดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุดและเหลือของเสียให้น้อยที่สุด แต่วันนี้อยากนำเสนอร้านอาหารน้องใหม่ที่น่าจับตามองและกำลังเป็นที่รู้จักในหมู่ฟู้ดดี้ ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะของร้านซึ่งผสมผสานการเกษตรแบบยั่งยืนเข้ากับเทคนิคการทำอาหารแบบโมเดิร์น นำเสนอเมนูอาหารตามฤดูกาลที่เต็มเปี่ยมด้วยเรื่องราว สร้างสรรค์จากวัตถุดิบเรียบง่ายในสวนหลังบ้าน

 

 

The Vibe

เมื่อมาถึง Haoma(ฮา-โอ-มา) ทุกคนจะได้เดินทัวร์ชมสวนปลูกวัตถุดิบของร้านก่อน ซึ่งรายล้อมด้วยผักและสมุนไพรนานาชนิด สลับกับโต๊ะเก้าอี้ให้ได้นั่งชิลล์รับลมเย็นท่ามกลางธรรมชาติในป่าคอนกรีต หรือจะเลือกรับประทานอาหารในร้านที่รีโนเวตจากบ้านไม้สองชั้น ล้อมรอบด้วยกระจกใส ตกแต่งด้วยปูนเปลือยและโครงสร้างแบบเปิด ประดับด้วยพืชกินได้ที่บาร์เทนเดอร์จะเดินมาเลือกใบไม้เพื่อนำไปครีเอตเป็นส่วนผสมค็อกเทล

 

 

The Chef

นี่คือร้านอาหารแนวใหม่ของเชฟหน้าใหม่ไฟแรง ดีแพงเกอร์ คอสลา (Deepanker Khosla) หรือเชฟดีเค เอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟผู้เคยทำงานเป็นหัวหน้าเชฟที่ร้าน Charcoal Tandoor Grill & Mixology ในซอยสุขุมวิท 11 และผ่านประสบการณ์ในเครือโรงแรม Starwood Hotels and Resorts Worldwide และยังมีร้านอาหารสไตล์โพรเกรสซีฟในอินเดียอีกด้วย ซึ่ง Haoma นำเสนอแนวคิดความยั่งยืนผ่านการทำสวนผักออร์แกนิกที่เชฟศึกษาและวางแผนเกือบ 1 ปี ได้รับการออกแบบให้ใช้ทุกทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด และพยายามลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เหลือศูนย์ภายในปี 2019 และด้วยความรักและเอาใจใส่ในสิ่งที่ตัวเองชอบ เชฟจึงทำสวนไฮโดรโปนิกส์และอควาโปนิกส์ที่ประกอบด้วยพืชผักสมุนไพรปลอดสารพิษกว่า 40 ชนิด ไม่ว่าจะเป็น ผักชีลาว คะน้าไดโนเสาร์ กระเจี๊ยบ โหระพา ฯลฯ ซึ่งได้รับความชุ่มชื้นตลอดวันด้วยระบบน้ำหมุนเวียนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุจากบ่อเลี้ยงปลาหลังบ้าน

 

 

The Concept

เชฟดีเคได้ร่วมมือกับ ตารุน ไบ (Tarun Bhai) รองหัวหน้าเชฟ การันตีฝีมือจากการชนะในรายการ S.Pellegrino Young Chef 2016 ประจำภาคพื้นเอเชีย ครีเอตอาหารจากความคิด ‘We grow what we cook, We cook what we love’ เลือกใช้พืชผักที่ปลูกเองเป็นส่วนประกอบในทุกเมนู ร่วมกับการใช้วัตถุดิบนำเข้าชั้นเยี่ยมจากทั่วโลก นำมาปรุงด้วยกรรมวิธีสมัยใหม่และปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยเท่านั้น เพื่อให้รสชาติที่แท้จริงของวัตถุดิบยังคงอยู่ จากนั้นเชฟทั้งสองจะสวมวิญญาณศิลปินเติมแต่งความคิดสร้างสรรค์ลงบนจานเป็นการปิดท้าย

 

 

The Dishes

เมนูอาหารของ Haoma มีการปรับเปลี่ยนตามฤดูกาลและไม่ยึดโยงกับอาหารสัญชาติใดๆ เริ่มต้นด้วย Stick to the Roots (370 บาท) นำเสนอผลหมากรากไม้ที่ขึ้นใต้ดินให้กลับด้านมาอยู่ด้านบน เชฟบรรจงวาดเส้นลงบนจานให้เหมือนรากไม้ที่แผ่ขยายสาขา โดยใช้หมึกที่คั้นจากบีทรูท ส่วนกลางจานประกอบด้วยผักที่ให้รสสัมผัสแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นบีทรูทอ่อนอบเกลือ หัวไชเท้ากงฟีต์ แครอต มันแกว รากบัวดอง บีทรูทแผ่นกรอบ และมาการองแครอต ประกอบกันเป็นเมนูที่น่าจะตั้งชื่อเล่นว่า ‘พลิกแผ่นดิน’

 

 

ต่อด้วย Burrata and the Bubbles (390 บาท) เมนูกินเล่นเรียกความสดชื่นและมีรสชาติซับซ้อน นำเสนอมะเขือเทศ 4 ชนิด พร้อมด้วยบูราตาชีสเนื้อเนียนนุ่มที่ได้จากนมควาย นอกจากนี้เชฟยังใส่ลูกเล่นเพิ่มรสชาติด้วยลูกเดือยเชื่อม สาคูหมักน้ำส้มสายชูบัลซามิก ซอสชิมิชูรี ซอสเพสโต้ และฟองมะเขือเทศที่เปรียบได้กับสลัดเดรสซิ่ง ตัดรสชาติและความเข้มข้นของชีสได้เป็นอย่างดี

 

 

เชฟดีเคยังเล่าถึงคุณูปการของทะเลที่มีต่อวงการอาหารและความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล จึงได้สร้างสรรค์เมนูที่สื่อถึงทะเลโดยเฉพาะ กับ Deep Sea Diving (550 บาท) หนวดหมึกยักษ์และหอยเชลล์ฮอกไกโด เสิร์ฟกับมันม่วง ถั่วแระญี่ปุ่น และซอสมิโสะเกลซ จานนี้นำเสนอวัตถุดิบจากญี่ปุ่นทั้งหมด

 

 

อาหารจานหลัก Lamb in the Hills (650 บาท) เนื้อแกะติดกระดูกจากนิวซีแลนด์เคลือบด้วยสมุนไพรที่ทางร้านปลูกเอง สัมผัสนุ่มลิ้นและไร้กลิ่นสาบ เสิร์ฟบนฐานสี่เหลี่ยมสีดำทำจากกระเทียมหิมาลัย ซึ่งเชฟใช้เวลาหมักกว่า 90 วัน จนได้สัมผัสเหนียวคล้ายตังเมและรสหวาน มีความโดดเด่นไม่แพ้เนื้อแกะ

 

 

สำหรับของหวานล้างปาก แนะนำ Black Forest (350 บาท) แบล็กฟอเรสต์เป็นเค้กวันเกิดในวัยเด็กของเชฟดีเค และเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ เชฟจึงได้ครีเอตเค้กในเวอร์ชันรื้อสร้างใหม่ โดยใช้ดาร์กช็อกโกแลตจากวาลโรห์นา (Valrhona) เป็นส่วนประกอบหลัก มาในรูปแบบแท่งช็อกโกแลตมูสเนื้อนุ่มแต่มีความเข้มข้นเต็มรสโกโก้ ท็อปด้วยแผ่นทองคำ 18K แล้วปกคลุมด้วยแผ่นโกโก้บางๆ ทานคู่กับเจลกระเจี๊ยบและซอร์เบตกระเจี๊ยบรสเปรี้ยว

 

 

The Drinks

ปิดท้ายด้วยค็อกเทลสุดสร้างสรรค์ คิดโดยบาร์เทนเดอร์ที่ผ่านการเทรนมากับ J.Boroski มิกโซโลจิสต์ขึ้นชื่อ โดยใช้วัตถุดิบสดใหม่ผสมผสานรสธรรมชาติที่ได้จากผักและผลไม้ เริ่มที่ดริงก์สีส้ม Bell Pepper (350 บาท) แม้จะเบสด้วยวิสกี้แต่ก็ไม่ได้เข้มจนเกินไป เพราะได้พริกหวานและพริกไทยเมล็ดสุกจัดสีชมพูมาช่วยเปลี่ยนรสชาติให้ค็อกเทลดูไม่จืด เต็มไปด้วยรสเผ็ดร้อนผสมเปรี้ยว เพิ่มความหอมอีกระดับจากการรมควันด้วยไม้แอปเปิ้ล

 

Kale (350 บาท) เหล้าจินกับคะน้า สองส่วนผสมที่แตกต่างแต่กลับเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ ตามมาติดๆ ด้วยส่วนผสมจากผักผลไม้อีกหลายชนิด ทั้งอะโวคาโด แอปเปิ้ล และขึ้นฉ่ายฝรั่ง หรือจะลองเป็น Strawberry (350 บาท) ดรายจินมาร์ตินีทวิสต์ที่นำเหล้าจินไปอินฟิวส์กับสตรอว์เบอร์รี ให้รสหวานและดื่มง่าย แนะนำให้รีบจิบในขณะที่เครื่องดื่มยังเย็น

 

What You Should Know

  • Haoma เป็นชื่อต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ต้นไม้แห่งชีวิตตามความเชื่อโบราณตามตำนานชาวเปอร์เซีย
  • ทางร้านกำลังวางแผนที่จะทำ Haoma House Party บรันช์แสนพิเศษช่วงสุดสัปดาห์ และ Tasting Menu ซึ่งจะนำเสนอเร็วๆ นี้
  • เมนูอาหารที่ร้านเปลี่ยนตามฤดูกาลทุก 4 เดือน
  • คุณสามารถนำสัตว์เลี้ยงมาที่ร้านอาหารได้โดยไม่ต้องตะขิดตะขวงใจ
  • Carbon Negative นั้นคือการสร้างคาร์บอนสมดุล โดยเกี่ยวโยงกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เตือนว่าคาร์บอนไดออกไซด์จะต้องไม่เกิน 350 ส่วนในล้านส่วน เพื่อหยุดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิไม่ให้เกิน 2 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับก่อนเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม

 

Haoma

Open: เปิดวันอังคาร ถึง วันอาทิตย์ เวลา 17.30-23.00 น.

Address: ซอยสุขุมวิท 31

Budget: คนละราวๆ 500-1,000 บาท

Contact: 06 3941 0600

Page: www.facebook.com/HaomaBKK

Map: 

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising