แพทริซ ซี. วอชิงตัน ผู้เชี่ยวชาญทางการเงินกล่าวว่า การสร้างความมั่งคั่งนี้ นอกจากจะต้องรู้จักประหยัดอดออมแล้ว ยังจำเป็นต้องรู้จักเลือกหนทางที่จะช่วยให้เกิดความมั่งคั่งในระยะยาวอย่างยั่งยืนด้วย โดยหนึ่งในวิธีที่จะช่วยสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนได้นี้ก็คือ Mindset หรือกระบวนการคิด ที่จะทำให้เกิดการวางแผนทางการเงินที่แข็งแกร่งในอนาคตได้
วอชิงตันกล่าวว่า การเปลี่ยนวิธีการคิดหรือมุมมองของตนเองที่มีเกี่ยวกับคน และวิธีการใช้จ่ายหรือการอดออมนี้ มีความสำคัญมากเทียบเท่ากับการตัดสินใจเกี่ยวกับปริมาณหรือจำนวนเงินที่ต้องการจะเก็บรักษาสำรองไว้
สำหรับ 3 วิธีคิดที่วอชิงตันนำมาปรับใช้เพื่อสร้างความมั่งคั่งประกอบด้วย
1. Have Gratitude หัดมองโลกในแง่บวก ท่ามกลางปัจจัยเงื่อนไขทางสังคมในปัจจุบันที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 อาจเป็นเรื่องยากที่จะหาเรื่องดีๆ ให้ใครหลายคนรู้สึกขอบคุณซาบซึ้งกับแง่มุมที่งดงามของชีวิต กระนั้นเธอกล่าวว่า อย่างน้อยก็ยังเป็นเรื่องคุ้มค่าที่จะลองคิดหาข้อดีหรือมุมมองทางบวก
“บางครั้งเราก็ต้องต่อสู้เพื่อมองเห็นสิ่งที่ดีก่อน มันเป็นทัศนคติที่เราต่างต้องมี ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม”วอชิงตันกล่าว ก่อนอธิบายเพิ่มเติมว่า การมองโลกในแง่ดีและเห็นความโชคดีของตนเอง ไม่ว่าเรื่องนั้นจะใหญ่หรือเล็กมากแค่ไหนก็ตาม ล้วนมีส่วนช่วยสนับสนุนให้การวางแผนทางการเงินเพื่ออนาคตของตนเดินสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้
เธอระบุอีกว่า การมองหาเรื่องดีๆ หรือคิดเรื่องดีๆ ในแต่ละวัน คือพลังงานทางบวกที่จะช่วยให้อารมณ์แจ่มใส ส่งผลให้เกิดความคิดสร้างสรรค์หรือแนวคิดดีๆ ที่ทำให้มองเห็นทางที่จะจัดการเรื่องการเงินของตนเองได้กว้างขึ้น
2. Recognize that every dollar counts หรือคิดไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนที่จะจับจ่ายหาซื้อสินค้าใดๆ ก็ตาม โดยสิ่งที่ต้องท่องจำให้ขึ้นใจก็คือว่า อย่าซื้อเพราะสินค้าราคาถูก และอย่าซื้อเพราะอารมณ์เสียหรือรู้สึกย่ำแย่ แต่ให้ซื้อเพราะสินค้าหรือบริการเหล่านั้นเป็นสิ่งที่เราต้องมี ต้องใช้ หรือสามารถนำมาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ได้จริง ของราคาถูกจ่ายไปหลายครั้ง พอรวมๆ กันแล้วย่อมมีราคาแพงขึ้นมาได้เหมือนกัน
“เงินทุกบาททุกสตางค์มีความสำคัญจริงๆ แต่เมื่อใดก็ตามที่เราเผชิญข้อติดขัดทางการเงินหรือมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นในตลาด คนส่วนใหญ่มักจะโยนเหตุผลทิ้งไปเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการที่จะทำให้รู้สึกดี ซึ่งก็มักเป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องเสียเงินทั้งสิ้น”
ทั้งนี้ อาจเป็นเรื่องง่ายที่จะควักเงินจ่ายให้กับค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ เช่น ค่าลงทะเบียนหรือสมัครสมาชิก ดังนั้น ทุกครั้งที่ต้องวางแผนทางการเงิน ให้หาทางตัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ออกไปให้หมดเสมอ
3. Take care of your body หรือการดูแลสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรง โดยวอชิงตันกล่าวว่า การมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตในด้านอื่น ซึ่งรวมถึงสถานะทางการเงิน กระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องไปสมัครเข้ายิมออกกำลังกาย เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเดินทางไปยิมได้อย่างสม่ำเสมอ
“สิ่งที่ต้องการสื่อก็คือการรู้จักเอาใจใส่กับสิ่งที่เราหามาปรนเปรอร่างกายของตนเอง เป็นการเอาใจใส่ร่างกายของตนเองให้มากขึ้น” วอชิงตันกล่าว ก่อนอธิบายเพิ่มเติมว่า การดูแลตนเองอย่างดี และหาทางให้ร่างกายตนเองกระปรี้กระเปร่าแข็งแรงอยู่เสมอเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงเวลาวิกฤตการระบาดของโควิด-19 ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ลืมหาเวลาให้ร่างกายได้พักผ่อนตามความเหมาะสม
“หากไม่มีสุขภาพดี ก็ย่อมปราศจากความมั่งคั่งทางการเงิน ดังนั้นดูแลตนเองให้ดีๆ” วอชิงตันสรุป
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: