Goldman Sachs กลายเป็นธนาคารอเมริกันรายใหญ่แห่งแรกที่กล่าวว่าจะออกจากรัสเซีย หลังจากที่รัฐบาลตะวันตกกำหนดมาตรการคว่ำบาตร และไม่กี่ชั่วโมงต่อมา JPMorgan Chase ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ก็เปิดเผยว่ากำลังจะปิดตัวลงที่นั่นเช่นกัน
แม้ว่าธนาคารอเมริกันจะถอนตัวจากการติดต่อกับรัสเซียโดยตรงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ Goldman Sachs, J.P. Morgan และบริษัทอื่นๆ ยังคงดำเนินการอย่างจำกัด เพื่อให้บริการบริษัทต่างๆ ที่นั่น แต่การรุกรานยูเครนของรัสเซียทำให้บริษัทระดับโลกหลายแห่งตั้งแต่ McDonald’s ไปจนถึง Apple ต้องถอนธุรกิจออกจากที่นั่น
สิ่งที่ต้องจับตา คือ การตัดสินใจของบริษัทที่ทรงอิทธิพลที่สุด 2 แห่งของวอลล์สตรีทในการออกจากรัสเซีย จะทำให้เกิดผลกระทบทางการเงินต่อมอสโกอีกครั้ง
“Goldman Sachs กำลังปิดกิจการในรัสเซียตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบและใบอนุญาต” แอนเดรีย วิลเลียมส์ โฆษกหญิงของธนาคารกล่าวในอีเมล “เรามุ่งเน้นที่การสนับสนุนลูกค้าของเราทั่วโลกในการจัดการหรือปิดภาระผูกพันที่มีอยู่ก่อนในตลาด และสร้างความมั่นใจในความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานของเรา”
Goldman Sachs มีพนักงานประมาณ 80 คนในรัสเซีย โดยได้ย้ายพนักงานในมอสโกบางส่วนไปยังดูไบแล้ว เพื่อตอบสนองต่อคำร้องของพนักงานชาวรัสเซียบางคนให้ทำงานจากที่อื่น แต่จะมีพนักงานบางคนในแผนกกฎหมายและการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่จะยังคงอยู่ในประเทศเพื่อดำเนินงานที่จำเป็นใดๆ ที่ได้รับอนุญาตภายใต้การคว่ำบาตรที่ตราขึ้นโดยสหรัฐฯ และพันธมิตร
ขณะที่ J.P. Morgan ก็กำลังจะถอนตัวออกจากรัสเซีย โดยอ้างถึง ‘การปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลทั่วโลก’ โดยมีพนักงานราว 100 คนที่ทำงานอยู่ที่นั่น
ณ สิ้นปี 2021 Goldman Sachs มีการลงทุนในรัสเซียมากกว่า 700 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเชื่อมโยงกับสินเชื่อและผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เช่น หุ้นและพันธบัตร แต่นั่นเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของการดำเนินงานทั่วโลกของธนาคารที่มีมูลค่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์
ด้านธุรกิจของ J.P. Morgan ในรัสเซียนั้นไม่ใหญ่พอที่จะติดอันดับหนึ่งใน 20 อันดับแรกเสียด้วยซ้ำ ซึ่งอันดับที่ 20 นั้นเป็นของเม็กซิโก โดยมีมูลค่า 4.9 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ธนาคารมีสินทรัพย์รวมกว่า 3.7 ล้านล้านดอลลาร์
“พวกเราไม่มีใครมองข้ามสิ่งนี้ได้ นั่นคือการบุกรุกของรัฐอธิปไตย” เดวิด เอ็ม.โซโลมอน ผู้บริหารระดับสูงของ Goldman Sachs กล่าว “หลายแสนคนถูกบังคับให้หนีออกจากบ้าน เมืองต่างๆ ของยูเครนได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน่าสลดใจ ฉันรู้ว่านี่ยังคงเป็นช่วงเวลาที่น่ากลัวและยากลำบากสำหรับคนของเราหลายคน”
ธนาคารอเมริกันและตะวันตกถอนตัวออกจากรัสเซียตั้งแต่ปี 2014 เมื่อสหรัฐฯ กำหนดบทลงโทษหลังจากการผนวกไครเมียของประธานาธิบดีวลาดีเมียร์ ปูติน ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐฯ เพียงแห่งเดียวที่รักษาสถานะที่สำคัญคือ Citigroup ซึ่งมีพนักงานประมาณ 3,000 คนอยู่ที่นั่น
Citigroup ยืนยันว่ากำลังดำเนินการตามประกาศก่อนหน้านี้ในการออกจากธุรกิจผู้บริโภคในรัสเซีย และจะสนับสนุนลูกค้าองค์กรในรัสเซีย รวมถึงบริษัทข้ามชาติในอเมริกาและยุโรปหลายแห่ง ขณะที่พวกเขาระงับหรือยกเลิกธุรกิจที่นั่น
ณ สิ้นปี 2021 Citigroup มีรายได้ 9.8 พันล้านดอลลาร์ในรัสเซีย รวมถึงสินเชื่อธุรกิจและผู้บริโภคและตราสารหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘ปูติน’ เล็งยึดทรัพย์บริษัทต่างชาติที่คว่ำบาตรถอนตัวหนี สั่งหาแนวทางออกกฎหมายเทกโอเวอร์
- ‘จีน’ ประกาศกร้าวพร้อมตอบโต้สหรัฐฯ หากบริษัทและชาวจีนถูกคว่ำบาตรจากปมขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน
- สะบั้นสัมพันธ์ 30 ปี! PwC และ KPMG ประกาศหันหลังให้ธุรกิจใน ‘รัสเซียและเบลารุส’ กลายเป็นกลุ่มบริษัทบัญชี Big Four แห่งแรกที่ออกมาเคลื่อนไหว
อ้างอิง:
- https://edition.cnn.com/2022/03/10/investing/goldman-sachs-russia/index.html
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-03-10/goldman-sachs-to-exit-russia-in-wall-street-s-first-pullout
- https://www.nytimes.com/2022/03/10/business/goldman-sachs-russia.html
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP