ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลกล่าวในงานสัมมนา ‘พลิกโฉมเศรษฐกิจไทย สู่ยุคดิจิทัล’ โดยมองว่าสภาวะเศรษฐกิจไทยดีขึ้น และเชื่อว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP ของประเทศในปี 2561 หรือ 2562 จะขยายตัวถึงระดับ 5%
ดร.สมคิดมองว่า เห็นได้จากสัญญาณความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นที่สูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงปีใหม่ สอดคล้องกับการประมาณการณ์ของสำนักเศรษฐกิจต่างๆ ที่มองว่าไตรมาส 4 ปี 2560 ที่ผ่านมา GDP น่าจะขยายตัวมากกว่า 4% และจะเป็นแรงส่งสำคัญให้ปี 2561-2562 ขณะที่ความเชื่อมั่นของประชาชน ของสภาอุตสาหกรรมสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปีด้วย
ภารกิจสำคัญในปีนี้คือ การช่วยเศรษฐกิจฐานราก ภาคเกษตร ผู้มีรายได้น้อยเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ โดยจะพิจารณาลึกลงไปในระดับจังหวัด และไตรมาส 2 ปีนี้ กระทรวงการคลังจะทำงบประมาณกลางปีว่าด้วยการปฏิรูปการเกษตรและยกระดับเศรษฐกิจรากฐานให้เกิดผลชัดเจนขึ้น โดยจะให้เอกชนมีส่วนร่วมด้วย ดร.สมคิดเห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แต่ต้องอยู่ในกรอบที่เกื้อกูลกัน ไม่ให้เป็นภาระกับภาคเอกชนจนเกินไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่ตอนนี้ภาคเอกชนกังวลคือค่าเงินบาทที่แข็งค่า ล่าสุดผู้บริหารของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ออกมาเรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้าดูแลเสถียรภาพของค่าเงินบาท เนื่องจากปัจจุบันค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นแล้วถึง 11% และอาจจะเสียเปรียบในการแข่งขันกับประเทศคู่แข่งอื่น ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับภาคการส่งออกได้