- สหรัฐฯ และจีนลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกอย่างเป็นทางการ ซึ่งกำหนดให้สหรัฐฯ ปรับลดภาษีสินค้าจีนมูลค่า 1.2 แสนล้านดอลลาร์ ลงจากอัตรา 15% เหลือ 7.5% และชะลอการขึ้นภาษีเพิ่มเติม เพื่อแลกกับการที่จีนให้คำมั่นสัญญาในการปฏิรูปโครงสร้าง รวมทั้งซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 2 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงเวลา 2 ปีข้างหน้า โดยสหรัฐฯ คาดว่า การดำเนินการดังกล่าวของจีนจะช่วยให้ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ข้อตกลงยังระบุด้วยว่า สหรัฐฯ จะยังคงตรึงอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีนราว 2 ใน 3 คิดเป็นมูลค่าราว 3.6 แสนล้านดอลลาร์ และจะพิจารณาปรับลดอัตราภาษีก็ต่อเมื่อสหรัฐฯ และจีนมีการลงนามในข้อตกลงการค้าเฟส 2 กันแล้ว
- สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เชื่องบเบิกจ่ายภาครัฐ ไตรมาส 2 ไตรมาสเดียวอาจสูงถึง 1 ล้านล้านบาท หลังงบประมาณ 2563 ผ่านสภาล่าง และผ่าน ครม. สมคิดคาดว่าจะทำให้งบประจำและงบลงทุนจาก 23% ขึ้นไปถึง 54% ซึ่งส่งผลให้ไตรมาส 2 จะมีเม็ดเงินมากถึง 1 ล้านล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 3 คาดจาก 54% ขึ้นไปมากกว่า 70% และจะเต็ม 100% ก่อนเดือนกันยายน 2563 แต่ก็แสดงความกังวล หากภาครัฐไม่มีการเตรียมพร้อมสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง ก็อาจทำให้มีการเบิกจ่ายได้ไม่ทัน พร้อมขอให้ภาคเอกชนลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น หลังค่าเงินบาทแข็งค่า ส่งผลกระทบต่อการส่งออก จึงต้องเรียกร้องทุกฝ่ายร่วมมือกัน ถ้ามีการลงทุนทั้งเอกชน รัฐบาล และวิสาหกิจ จะสามารถประคองเศรษฐกิจไปได้
- เยอรมนีเผยเศรษฐกิจขยายตัวเพียง 0.6% ในปีที่แล้ว ต่ำสุดในรอบ 6 ปี สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี (Destatis) เปิดเผยในวันนี้ว่า เศรษฐกิจเยอรมนีมีการขยายตัวเพียง 0.6% ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2556 และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยก่อนหน้านี้เศรษฐกิจเยอรมนีมีการเติบโต 1.5% ในปี 2561 และ 2.2% ในปี 2560 อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจได้ชะลอตัวลงในปีที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค และการขยายตัวของภาคบริการ ขณะที่ภาคการผลิตปรับตัวลง
- จับตาตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เดือนธันวาคม โดยดัชนียอดค้าปลีกพื้นฐาน (Core Retail Sales) สหรัฐฯ เดือนธันวาคมถูกคาดการณ์ไว้ที่ 0.5% ซึ่งเป็นการขยายตัวมากกว่าเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวเพียง 0.1% ทว่าตัวเลขประกาศจริง ตลอด 4 เดือน ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้มาก ในส่วนดัชนียอดค้าปลีก (Retail Sales) สหรัฐฯ เดือนธันวาคมนั้น นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะขยายตัว 0.3% สูงกว่าครั้งก่อนที่ขยายตัว 0.2%
- ประกาศตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นภาคการผลิตรัฐฟิลาเดลเฟียเดือนมกราคม ตลาดคาดไว้ที่ระดับ 3.8 มากกว่าครั้งก่อนที่ 2.4 ฟื้นตัวดีขึ้นจากเดือนธันวาคมที่ระดับ 0.3 แต่ยังอยู่ในแนวโน้มชะลอตัว ขณะที่ความเชื่อมั่นสูงสุดอยู่ที่ระดับ 21.8 ของเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว
สรุปภาพรวมตลาดวานนี้
- ดัชนี Dow Jones และ S&P 500 ปรับตัวขึ้นและกลับมาทำ New High อีกครั้ง ขณะที่ Nasdaq ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย หลังสหรัฐฯ กับจีนลงนามข้อตกลงการค้าในเฟสแรก โดยในสัญญาระบุว่าทางจีนต้องซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ขณะที่สหรัฐฯ จะลดการเก็บภาษีนำเข้าลง ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลและกลับมาซื้อหุ้นอีกครั้ง ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดทรงตัว จากการที่นักลงทุนเริ่มชะลอการซื้อขายหุ้น เพื่อจับตาดูประเด็นการเจรจาการค้าระหว่างยุโรปกับสหรัฐฯ เรื่องภาษีนำเข้าที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในสัปดาห์นี้
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงจากสต๊อกน้ำมันกลั่นและน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้มาก ส่งผลให้นักลงทุนเทขายบางส่วนจากความกังวลที่น้ำมันจะล้นตลาด ด้านราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำมากขึ้นเนื่องจากราคาถูกลง
สหรัฐฯ
- Dow 30 ปิดที่ 29030.22 เพิ่มขึ้น 90.55 (0.31%)
- S&P 500 ปิดที่ 3289.3 เพิ่มขึ้น 6.15 (0.19%)
- Nasdaq ปิดที่ 9258.7 เพิ่มขึ้น 7.37 (0.08%)
ยุโรป
- DAX ปิดที่ 13432.3 ลดลง -24.19 (-0.18%)
- FTSE 100 ปิดที่ 7642.8 เพิ่มขึ้น 20.45 (0.27%)
- Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3768.96 ลดลง -5.92 (-0.16%)
- FTSE MIB ปิดที่ 23763.86 ลดลง -164.35 (-0.69%)
เอเชีย
- Nikkei 225 ปิดที่ 23916.58 ลดลง -108.59 (-0.45%)
- S&P/ASX 200 ปิดที่ 6994.8 เพิ่มขึ้น 32.6 (0.47%)
- Shanghai ปิดที่ 3090.04 ลดลง -16.78 (-0.54%)
- SZSE Component ปิดที่ 10972.32 ลดลง -16.45 (-0.15%)
- China A50 ปิดที่ 14454.84 ลดลง -95.65 (-0.66%)
- Hang Seng ปิดที่ 28773.59 ลดลง -111.55 (-0.39%)
- Taiwan Weighted ปิดที่ 12091.88 ลดลง -87.93 (-0.72%)
- SET ปิดที่ 1581.05 ลดลง -5.85 (-0.37%)
- KOSPI ปิดที่ 2230.98 ลดลง -7.9 (-0.35%)
- IDX Composite ปิดที่ 6283.37 ลดลง -42.04 (-0.66%)
- BSE Sensex ปิดที่ 41872.73 ลดลง -79.9 (-0.19%)
- PSEi Composite ปิดที่ 7793.25 ลดลง 0 (0%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 57.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -0.41 (-0.7%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 63.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -0.54 (-0.84%)
- ราคาทองคำ ปิดที่ 1556.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 11.45 (0.74%)
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- InfoQuest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters
